เช็คลมยางรถยนต์ ตรวจสอบลมยาง ง่ายๆ ใน 5 นาที!

เช็คลมยางรถยนต์ ตรวจสอบลมยาง ง่ายๆ ใน 5 นาที!

การ เช็คลมยางรถยนต์ เป็นเรื่องพื้นฐานที่ดูเหมือนทำได้ง่ายๆ แต่สำคัญก่อนทุกการเดินทาง เพราะ การตรวจสอบลมยางที่ถูกต้อง นอกจากจะช่วยให้ยางรถยนต์มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นแล้ว ยังช่วยให้รถของคุณควบคุมได้ดีขึ้นและขับขี่ปลอดภัย อีกทั้งยังช่วยประหยัดเงินค่าน้ำมัน หรือค่าเชื้อเพลิงของคุณอีกด้วย วันนี้ CARSOME จึงมีทริคดีๆมาฝาก! มาดูกันดีกว่าว่า การตรวจสอบลมยางที่ถูกต้องควรปฏิบัติอย่างไร รับรองว่า ง่ายและรวดเร็วภายใน 5 นาทีเท่านั้น!!

ซื้อรถมือสอง กับ CARSOME การันตีคุณภาพรถยนต์ ผ่านการตรวจเช็กอย่างละเอียดถึง 175 จุดพร้อมปรับสภาพให้ได้มาตรฐาน รับประกันสูงสุด 2 ปีเต็ม ราคาโปร่งใส คุ้มค่า ซื้อไปแล้วไม่พอใจ การันตีคืนเงินภายใน 30 วัน

นึกถึง รถมือสอง ต้อง CARSOME

ซื้อรถยนต์มือสอง

เช็คลมยางรถยนต์ ง่ายๆ

วิธีเช็คลมยางรถยนต์ ที่ถูกต้อง

เช็คลมยางรถยนต์

การตรวจสอบลมยางที่ถูกต้อง นั้น มีหลักการของ วิธีเช็คลมยางรถยนต์ ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองง่ายๆ ดังต่อไปนี้

1. เช็คลมยางรถยนต์ ขณะที่ยางยังเย็น

การ วัดลมยางรถยนต์ และเติมลมยางที่ถูกต้อง ควรจะวัดและเติมลมในขณะยางรถยนต์ยังมีอุณหภูมิปกติอยู่ หรือเพิ่งวิ่งมาไม่เกิน 2 กิโลเมตร นั่นหมายความว่า หากคุณวิ่งรถมาไกลแล้วต้องการจะแวะปั๊มเพื่อเช็กและเติมลมยางเลยย่อมไม่สามารถทำได้ เพราะการเสียดสีที่เกิดขึ้นในช่วงที่รถวิ่งมาไกลจะทำให้ล้อร้อนขึ้น ซึ่งทำให้อากาศภายในยางขยายตัว ทำให้แรงดันล้อเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติ หากเป็นเช่นนี้จำเป็นจะต้องพักรถจนเครื่องยนต์และล้อเย็นลง ซึ่งอาจต้องใช้เวลานานถึง 2-3 ชั่วโมง (อาจน้อยกว่านี้หากขับมาบนนถนนที่ไม่ร้อน หรือขับมาในช่วงดึก-เช้า) จึงจะทำการวัดและเติมลมยางได้

2. อ่านค่า เช็คลมยางรถยนต์

เช็คลมยางรถยนต์ จุกลมยาง

เตรียมตัวกันแล้วก็มาถึงการ เช็คลมยาง แค่คลายฝาเกลียวบนก้านวาล์วของยางรถยนต์ จากนั้น หมุนจุกยางล้อออกและวางไว้บริเวณที่ปลอดภัยป้องกันการสูญหาย พร้อมกับเสียบเกจ์วัดลมยางเข้าไป โดยขณะที่เสียบเกจ์วัดลมยางเข้ากับก้านวาล์วที่เปิดอยู่ ถ้าได้ยินเสียงลมรั่วหรือมีอากาศเล็ดลอดออกมาแปลว่า เสียบไม่เข้าที่ ให้เสียบเข้าไปใหม่ จากนั้นให้เชื่อมต่อมาตรวัดค้างไว้สักครู่ก็จะสามารถอ่านค่าแรงดันยางจากหน้าปัดแสดงผลได้ โดยค่าความดันยางก็คือ ตัวเลขสุดท้ายที่ปรากฎนั่นเอง

3. เติมลมยางให้ได้ค่ามาตรฐาน

เช็คลมยางรถยนต์ เติมลมยาง

หลังจากทราบค่าแรงดันลมยางปัจจุบันแล้ว หากแรงดันลมยางน้อยเกินไป ให้ใช้เครื่องอัดอากาศที่มาพร้อมกับมาตรวัดแรงดันลมยางทำการเติมลมเพื่อเพิ่มความดันที่เหมาะสม ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 28-32 ปอนด์/ตร.นิ้ว (PSI) โดยอาจมากหรือน้อยกว่านี้ตามชนิดของรถและประเภทการใช้งาน ซึ่งเจ้าของรถสามารถอ้างอิงตัวเลขที่เหมาะสมกับรถได้จากตารางแรงดันลมที่แจ้งไว้ในคู่มือการใช้รถ แต่ห้ามเติมลมยางเกินค่า PSI ที่ระบุไว้ที่แก้มยาง เพราะนั่นเป็นแรงดันลมสูงสุดของยางที่สามารถรับได้

4. เติมแรงดันเพิ่มเล็กน้อยถ้ายางยังร้อน

อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า ควรวัดค่าความดันลมยางขณะที่ยางยังมีอุณหภูมิปกติ แต่หากจำเป็นต้องเติมลมยางกะทันหันขณะรถเพิ่งวิ่งทางไกลมากจริงๆ ก็ควรเติมเกินจากค่าความดันที่เหมาะสมไปอีก 2 ปอนด์ เพื่อชดเชยกับความดันในล้อที่จะลดลงเมื่อรถได้พัก และล้อเย็นตัวลงสู่สภาพปกติ นอกจากนั้น สำหรับรถยนต์ที่บรรทุกของที่มีน้ำหนักมาก หรือมีผู้โดยสารร่วมทริปมาก ก็ควรเติมลมยางเพิ่มอีก 2-3 PSI เช่นกัน

5. เช็คลมยางรถยนต์ ซ้ำอีกครั้ง

เคล็ดลับการวัดลมยางนั้น แนะนำว่าควรวัดซ้ำ 2 ครั้ง เพื่อให้ได้ค่าที่แน่นอนและถูกต้อง นอกจากนั้น เพื่อให้เราสามารถเติมลมเพื่อเพิ่มความดันในระดับที่เหมาะสมได้การเติมลมให้ได้แรงดันที่พอดี ก็คือเติมให้รู้สึกว่าเกินจุดพอดีไปสักนิด จากนั้นวัดแรงดันใหม่ แล้วค่อยปล่อยลมออกจนได้ค่าที่เหมาะสม วิธีนี้จะง่ายกว่าค่อยๆ เติมลมขยักขย่อนทีละน้อย ที่สำคัญ การ ตรวจสอบลมยางที่ถูกต้อง ไม่ได้จำกัดว่า จะต้องตรวจที่ ล้อไหน แต่ควรตรวจสอบจนครบทั้ง 4 เส้น เพื่อความมั่นใจว่า รถยนต์พร้อมใช้งานต่อนั่นเอง

5. ควรมีที่วัดลมยางรถยนต์ส่วนตัว

จะเห็นได้ว่า อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการเช็คลมยางหลักๆ จะมีทั้ง เกจ์วัดลมยาง ที่ได้มาตรฐาน และเครื่องปั๊มลมลากจูง ซึ่งสามารถหาได้ทั่วไปตามปั๊มน้ำมันใหญ่ๆ แต่สิ่งที่ควรพึงระลึกไว้ก็คือ เกจ์วัดลมตามปั๊มนั้นถูกใช้งานมามาก อาจเกิดความคาดเคลื่อนในค่าที่วัดได้ ดังนั้น ใครรักรถและเดินทางบ่อย จะซื้อเครื่องเช็คลมยางติดรถเอาไว้ใช้เองสักอันก็เป็นความคิดที่ไม่เลวทีเดียว

6. เช็คลมยางรถยนต์ ทุก 1-2 เดือน

เพราะโดยปกติแล้ว ลมยางจะลดลงด้วยตัวเองประมาณ 2-3 ปอนด์ต่อตารางนิ้วต่อเดือน ดังนั้น ถ้าตอนที่เติมลมยางล่าสุด ความดันอยู่ที่ 32 ปอนด์ เมื่อผ่านไป 1 เดือนก็อาจจะลดลงมาเหลือประมาณ 29-30 ปอนด์นั่นเอง ด้วยเหตุนี้ ผู้ขับขี่จึงควรหมั่น วัดลมยาง และ เติมลมยาง ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมอย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้ง และจำเป็นต้อง ดูลมยางรถ ทุกครั้งก่อนเดินทางไกลเพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง

นึกถึง รถมือสอง ต้อง CARSOME

ซื้อรถยนต์มือสอง

เครื่อง เช็คลมยางรถยนต์ มีกี่ชนิด

ที่วัดลมยาง หรือ เกจ์วัดลมยาง (Tire Gauge) เป็นอุปกรณ์ประจำรถที่ใช้สำหรับวัดความดันลมยาง โดยมักพบได้ทั่วไปในช่องเก็บของในรถและกล่องเครื่องมือของช่างเครื่องยนต์ เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่หาซื้อได้ง่าย มีวางจำหน่ายตามร้านขายเครื่องมือและร้านขายอุปกรณ์อะไหล่รถยนต์ โดยปัจจุบัน มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้หลากหลาย ตอบโจทย์การใช้งานได้มากขึ้น โดยยังคงลักษณะเด่น คือ ช่องเปิดกลมๆ สำหรับสวมเข้ากับจุ๊บยาง และดูสเกลบนหน้าปัด แต่สามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทหลักๆ ดังนี้

1. ที่วัดลมยางแบบแท่ง

ที่วัดลมยางแบบแท่ง

ที่วัดลมยางแบบแท่ง หรือแบบปากกา มีลักษณะเป็นแท่งชุบโครเมียมรูปทรงกระบอกขนาดพอๆ กับปากกา ปลายข้างหนึ่งมีตุ่มกลม ส่วนปลายอีกด้านหนึ่งจะมีแถบรูปสี่เหลี่ยมสีขาว เกจ์วัดลมยางแบบนี้จะมีคลิปเหน็บกับกระเป๋าเสื้อแบบเดียวกับปากกา หรือไม่ก็ได้รับการดีไซน์ให้เป็นพวงกุญแจพกพาได้ ส่วนอีกด้านที่เป็นตุ่มกลมจะมีแกนกลมเล็กอยู่ที่ด้านหนึ่งและมีช่องเปิดกลมๆ ขนาดใหญ่อยู่ที่อีกด้านหนึ่ง ถ้าดึงส่วนที่เป็นแถบสีขาวออกจากส่วนที่เป็นทรงกระบอก จะเห็นว่ามีตัวเลขเขียนไว้บนนั้น เวลาวัดลมให้กดที่หัวกับจุ๊บลมแล้วเข็มวัดด้านท้ายจะยื่นออกมาเป็นขีดๆ ข้อดีของที่วัดลมยางแบบนี้คือ พกพาง่าย ใช้วัดความดันลมยางได้หลากหลายประเภท อีกทั้งมีความแม่นยำสูง และราคาไม่แพงมาก แต่มีข้อเสียคือ สามารถวัดค่าได้น้อย แค่ประมาณ 40-50 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว (PSI)

2. เกจ์วัดลมยางแบบเข็ม

เกจ์วัดลมยางแบบเข็ม เช็คลมยางรถยนต์

ที่วัดลมยางแบบเข็ม หรือแบบมาตรเข็มเป็นแบบที่เราคุ้นตามากที่สุด เนื่องจากเป็นเกจ์วัดที่สามารถใช้งานฟรีได้ตามปั้มน้ำมัน หรืออู่รถยนต์ทั่วไป โดยเป็นด้านหนึ่งเป็นหน้าปัดมาตรวัดทรงกลม หน่วยวัดที่ใช้มีจำหน่ายทั้งแบบปอนด์ต่อตารางนิ้ว (PSI) และกิโลปาสคาล (kPa) ให้เลือกใช้ โดยตัวเรือนหน้าปัดจะเชื่อมต่อกับแกนกลมที่มีเข็มใช้สำหรับระบายลมออกจากยางและช่องเปิดลมที่สามารถสวมเข้ากับจุ๊บยางขนาดมาตรฐานได้ วิธีใช้งานคือ ต่อหัวจ่ายลมเข้ากับจุกลมยางรถแล้วกดให้เข็มวัดด้านในแทงเข้าไปเพื่อปล่อยลมยางออกมาเล็กน้อย จากนั้นให้อ่านค่าที่หน้าปัด จะแสดงปริมาณแรงดันลมที่มีอยู่ในยาง ข้อดีของที่วัดลมยางแบบนี้คือ ใช้งานได้ทั้งรถกระบะ รถเก๋ง รถมอเตอร์ไซด์ รถจักรยาน ฯลฯ อีกทั้งยังวัดลมยางได้ง่าย รวดเร็ว บางรุ่นสามารถเติมลมยางในตัว แต่ข้อเสียคือ มีขนาดค่อนข้างใหญ่กว่าแบบแท่ง และได้ตัวเลขไม่ละเอียดแม่นยำเท่าแบบดิจิตอล

3. ที่วัดลมยางดิจิตอล

ที่วัดลมยางดิจิตอล เช็คลมยางรถยนต์

ที่วัดลมยางแบบดิจิตอล แต่เดิมพัฒนาต่อยอดมาจากแบบเข็ม โดยเปลี่ยนจากหน้าปัดแบบเข็มเป็นตัวเลขดิจิตอล เมื่อเสียบวัดแล้ว จะขึ้นเป็นตัวเลขแรงดันลมยางอย่างแม่นยำ ทำให้ผู้ใช้งานอ่านตัวเลขได้ไม่คลาดเคลื่อน ต่อมาได้รับการพัฒนาให้เป็น ที่วัดลมยางไร้สาย ใช้เสียบปุ่มส่งสัญญาณเข้าที่จุกเติมลมยางหรือฝังไว้หลังล้อแม็กของแต่ละล้อ และนำตัวหน้าปัดดิจิตอลมาเสียบหน้าจอเข้ากับที่จุดบุหรี่ โดยบางชนิดอาจจะต้องใช้แบตเตอรี่เฉพาะตัวมาตรวัด หรือบางชนิดต้องใส่ในเซ็นเซอร์ร่วมด้วย ข้อดีของ เครื่องวัดลมยางดิจิตอล แบบนี้คือ ให้ตัวเลขที่แม่นยำ และอัปเดทตลอดเวลา ทำให้ผู้ขับขี่สามารถเติมลมยางหรือดูแลยางได้ทันท่วงที โดยไม่ต้องหมั่น เช็คลมยาง ด้วยตนเอง แต่ก็มีข้อเสียคือ ราคาของเครื่องค่อนข้างสูงกว่าแบบอื่นๆ อีกทั้งยังต้องคอยดูแลเปลี่ยนแบตเตอรี่หรือเช็คความเสียหายของตัวเซ็นเซอร์ เพื่อความแม่นยำของตัวเลขอีกด้วย

วิธีเช็คลมยางรถยนต์ ว่า อ่อนหรือแข็งไป

ความดันลมยางที่ไม่เหมาะสมนั้นส่งผลกระทบต่อการขับขี่ ความปลอดภัย และอัตราการเผาผลาญน้ำมันของรถ ซึ่ง วิธีเช็คลมยางรถยนต์ ว่า ‘ลมยางอ่อน’ หรือ ‘ลมยางแข็ง’ จนเกินไปนั้น สามารถสังเกตง่ายๆ ดังนี้

– ลมยางรถยนต์อ่อนเกินไป

รู้สึกว่า ช่วงล่างนุ่มเกินไปเวลาขับขี่ ขับรถแล้วรู้สึกรถไม่ค่อยเกาะถนนเท่าที่ควร ยิ่งขับรถด้วยความเร็วที่มากยิ่งขึ้น รถก็ยิ่งมีอาการโงนเงน ไม่นิ่ง ไม่มั่นคง หรือรู้สึกโยนมากขึ้นเมื่อขับบนถนนที่ไม่เรียบ

ข้อเสียเมื่อลมยางอ่อนก่อนไป

เครื่องยนต์จะทำงานหนักกว่าปกติและเปลืองน้ำมันมากขึ้น ยิ่งถ้าหากลมยางอ่อนมากๆ ก็ยิ่งเสี่ยงต่อการเกิดยางระเบิด เพราะแก้มยางบิดตัวจนเกิดความร้อนทำให้แรงดันในลมยางขยายตัว

– ลมยางรถยนต์แข็งเกินไป

สังเกตได้ง่ายๆ ว่า ถึงแม้ว่าในช่วงออกตัวรถจะดูไม่มีปัญหาอะไรก็จริง แต่ประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนบนทางโค้งจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด เวลาเบรคกะทันหันจะต้องใช้ระยะเบรคมากขึ้นกว่าปกติ

ข้อเสียเมื่อลมยางแข็งเกินไป

การเติมลมยางแข็งเกินไปจะทำให้รถเกิดแรงสั่นสะเทือนระหว่างขับขี่ ถ้าขับขี่ด้วยความเร็วแล้วตกหลุมหรือเกิดแรงกระแทกรุนแรงขณะขับขี่ ก็อาจทำให้ยางระเบิดได้เช่นเดียวกับลมยางอ่อน

จะเห็นได้ว่า การ เช็คลมยางรถยนต์ เป็นเรื่องง่ายๆ มีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก แต่กลับสำคัญต่อชีวิตและทรัพย์สินในระดับที่ผู้ขับขี่จะละเลยไม่ได้ เพราะยางรถยนต์เป็นอุปกรณ์สำคัญที่คอยรองรับแรงกระแทกและเสียดสีตลอดการขับขี่ การตรวจสอบลมยางที่ถูกต้อง และสม่ำเสมอจึงเป็นอีกขั้นตอนสำคัญในการบำรุงรักษารถยนต์ให้อยู่กับคนรักรถไปได้อีกนานแสนนาน อีกทั้งเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางให้กับทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และผู้ใช้ถนนหนทางโดยทั่วไปอีกด้วย

หากคุณกำลังสนใจจะ ซื้อรถมือสอง หรือ ขายรถคันเดิม แล้วล่ะก็… ที่ CARSOME เสนอราคาให้คุณคุ้มค่าที่สุด! เรามีการดำเนินการที่มีมาตรฐาน โปร่งใส รวดเร็ว ให้คุณซื้อหรือขายรถได้อย่างสบายใจ คลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย!

CTA CARSOME ซื้อขายรถยนต์มือสอง

อ่านบทความต่อ: ปะยางแบบไหนดี มีกี่แบบ ปะยางรถยนต์ ราคากี่บาท หรือ ท่อไอเสีย คืออะไร ท่อไอเสียตัน หรือท่อรั่ว สังเกตได้อย่างไร