Eco Car นั้น หลายคนคงเข้าใจผิดนึกว่าจริงๆแล้วมันคือรถราคาถูกเพื่อคนมีรายได้น้อยเป็นหลัก แต่อันที่จริงแล้ว (Economy car) แต่จริงๆ แล้ว Eco Car มาจากศัพท์คำว่า Ecology Car ซึ่งหมายถึง รถที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก เป็ฯมิตรอย่างไรน่ะหรื? ก็ Eco Car มีการปล่อยมลพิษปลอดภัยระดับ Euro4 คือ มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่า 120 กรัมต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร เท่านั้น
แต่ความเข้าใจผิดยังไม่หมดเพียงแค่นั้น ยังมีความเข้าใจผิดอีกว่า Eco Car คือรถราคาถูก, ไม่ดี, ไม่มีมาตรฐาน, วิ่งทางไกลไม่ได้ โครงสร้างไม่แข็งแรง เรื่องเหล่านี้เป็นความเข้าใจผิดทั้งสิ้น
เนื่องจากรถ Eco Car เป็นรถที่ถือว่ามีมาตรฐานการผลิตที่สูงมาก แต่ที่ราคารถถูกลงเนื่องจากได้รับการยกเว้นภาษีอย่างมาก ทั้งในส่วนของอะไหล่ เครื่องจักร และวัสดุที่ต้องนำเข้า สรรพสามิต อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐในเรื่องการลงทุนต่างๆอีกด้วย
แล้ว Eco car ดีจริงหรือ?
ข้อดีหลักๆของ Eco car เลยคือ “ประหยัดน้ำมัน” มากกก ด้วยมาตรฐานเครื่องยนต์ขนาด 1,300 cc สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน และ 1,400 cc เครื่องยนต์ดีเซล รวมถึงอัตราการใช้น้ำมัน 5 ลิตร ต่อ 100 กิโลเมตร หากท่านยังไม่เห็นภาพ เอาแบบนี้ดีกว่า สำหรับ Eco Car แล้ว ด้วยน้ำมันเพียง 5 ลิตรท่านสามารถเดินทางจากกรุงเทพฯไปสุพรรณบุรีได้สบาย และยังไม่หมดเพียงแค่นั้น สำหรับคนเมืองกรุงฯแล้ว ด้วยขนาดที่เล็กของ Eco Car ทำให้คล่องตัวในการขับขี่อย่างมากทั้งยังหาที่จอดง่ายอีกด้วย
มาถึงความเข้าใจผิดที่ว่ากันว่า Eco Car ขับไกลไม่ได้จริงไหม? ขอตอบเลยว่าไม่จริง Eco Car ไหนๆก็ไปได้ทั่วไทยแน่นอน ขอเพียงท่านดูแลรักษารถท่านให้ดีเข้าศูนย์เช็คสภาพอย่างสม่ำเสมอเหมือนรถทั่วไป เพียงเท่านี้จะไกลแค่ไหน Eco Car ก็ไม่หวั่นแล้ว
พูดถึงข้อดีกันไปแล้ว มาถึงข้อเสียกันบ้างเนื่องจากรถ Eco Car เป็นรถเล็ก ฉะนั้นพื้นที่ในการเก็บบรรทุกสัมภาระก็จะเล็กลงตามไปด้วย และด้วยความที่มันเล็ก ผู้ขับขี่บางท่านอาจจะรู้สึกอึดอัดอยู่บ้างเวลาขับ
และจากข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวไป Eco Car ไม่ใช่รถที่ถูก, ไร้คุณภาพแต่อย่างใด เราเพียงแค่ติดในเรื่องขนาดและรูปลักษณ์ของมันเท่านั้น ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องเปลี่ยนทัศนคติมุมมองใหม่ จากรถกระป๋องเป็นรถที่ดีมีมาตรฐานและผ่านการตรวจสอบแล้วในเรื่องของการประหยัดพลังงานอย่างแท้จริง