2020 Honda
CIVIC E 1.8
71,698 กม. Automatic Pra Vet
528,900
บาท
8,772 บาท
/เดือน
565,923 บาท
ราคารวมภาษี 7%, รวมค่าธรรมเนียม
ไม่พบสิ่งที่คุณกำลังมองหา?
รับการแจ้งเตือนเมื่อมีรถใหม่เข้ามา
- ประวัติของอีซูซุเริ่มต้นที่ บริษัท โตเกียว อิชิกาวาจิม่า ชิปบิลดิงก์ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2436
- ในปี พ.ศ. 2459 บริษัท โตเกียว อิชิกาวาจิม่า ชิปบิลดิงก์ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ได้เริ่มผลิตรถยนต์โดยใช้กำไรที่ได้มาจากการสร้างเรือ
- ในปี พ.ศ. 2461 บริษัท โตเกียว อิชิกาวาจิม่า ชิปบิลดิงก์ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ได้เริ่มผลิตรถยนต์โดยสาร โดยร่วมลงทุนกับบริษัทผลิตรถยนต์สัญชาติอังกฤษที่มีชื่อว่า บริษัท วอล์สลี่ มอเตอร์ จำกัด
- ในปี พ.ศ. 2465 บริษัท โตเกียว อิชิกาวาจิม่า ชิปบิลดิงก์ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ประสบความสำเร็จในการผลิตรถยนต์รุ่นวอล์สลี่ A9 ซึ่งเป็นรถโดยสารคันแรกที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่น
ความสำเร็จนี้ตามมาด้วยการผลิตรถบรรทุกขนาด 1.5 ตัน รุ่นวอล์สลี่ CP ในปี พ.ศ. 2467 ซึ่งเป็นรถบรรทุกที่รัฐบาลญี่ปุ่นกำหนดให้เป็นรถประจำกองทัพ
- ในปี พ.ศ. 2470 บริษัท โตเกียว อิชิกาวาจิม่า ชิปบิลดิงก์ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ได้ยกเลิกสัญญากับบริษัท วอล์สลี่ จำกัด และได้เริ่มผลิตรถสัญชาติญี่ปุ่น 100%
- รถตัวอย่างในยุคแรกนั้นคือรถรุ่นสุมิดะ ซึ่งถูกผลิตออกมาในปี พ.ศ. 2472 ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ A6 หรือ A4 ซึ่งมีกำลังรถสูงและประหยัดน้ำมันในเวลาเดียวกัน
- ในปีเดียวกันกับที่มีการเปิดตัวรถรุ่น “สุมิดะ” แผนกรถยนต์ได้แยกตัวออกมาจากบริษัท โตเกียว อิชิกาวาจิม่า ชิปบิลดิงก์ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด และก่อตั้งบริษัทใหม่ที่มีชื่อว่าบริษัท อิชิกาว่า ออโต้โมทิฟ เวิร์คส์ จำกัด
- ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2463 – 2472 ผู้คนเริ่มมีรถยนต์ส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว Great Kanto ผู้คนเริ่มมองเห็นประโยชน์ของรถยนต์ในการช่วยบรรเทาทุกข์ในช่วงเวลาภัยพิบัติ และเนื่องจากความต้องการรถยนต์ที่เพิ่มสูงขึ้น รัฐบาลญี่ปุ่นจึงสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นอย่างมาก
- ในปี พ.ศ. 2476 บริษัท อิชิกาว่า ออโต้โมทิฟ เวิร์คส์ จำกัด ได้ถือโอกาสเปิดตัวรถยนต์รุ่นอีซูซุ ที่ได้มาตรฐานตามข้อกำหนดของรัฐบาล ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจในการตั้งชื่อมาจากแม่น้ำอีซูซุที่ไหลผ่านศาลเจ้าอิเซ ในจังหวัดมิเอะ และภายหลัง ชื่อของบริษัทก็ได้ถูกเปลี่ยนโดยมีที่มาจากชื่อของรถยนต์รุ่นนี้นั่นเอง
ในประเทศไทย ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์อีซูซุ (Isuzu) ในประเทศไทยคือ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด และมีบริษัทตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุตามภูมิภาค ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ และ มีโรงงานประกอบในประเทศไทย คือ อีซูซุ มอเตอร์ ( ประเทศไทย ) จำกัด โดยที่ตั้งของโรงงานจะอยู่ ที่จังหวัดสมุทรปราการ และ จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยอีซูซุในประเทศไทยเริ่มมีการดำเนินการตั้งแต่เมื่อ พ.ศ. 2500 ส่วนใหญ่แล้วอีซูซุจะประกอบรถกระบะ รถบรรทุก และรองลงมาจะประกอบรถยนต์เอนกประสงค์
ในช่วง พ.ศ. 2534-2540 อีซูซุได้ประกอบรถกระบะให้กับค่ายรถยนต์อื่น คือ ฮอนด้า และ โอเปิล(สมัยนั้นรถของจีเอ็มในประเทศไทย ยังเป็น โอเปิล ไม่ใช่ เชฟโรเลต) เนื่องจากฮอนด้า และ จีเอ็ม(สมัยนั้นยังเป็นโอเปิล) ยังไม่มีรถกระบะเป็นแบรนด์ของตัวเอง แต่อยากจะมีส่วนร่วมในรถกระบะบ้าง จึงให้อีซูซุประกอบให้ โดยฮอนด้าใช้ชื่อว่า ฮอนด้า ทัวร์มาสเตอร์ ส่วนโอเปิล(จีเอ็ม)ใช้ชื่อว่าโอเปิล แคมโป้ แต่ยอดขายย่ำแย่มาก
ในช่วง พ.ศ. 2539-2546 อีซูซุก็ยังไม่มีรถเก๋งเป็นแบรนด์ของตัวเอง จึงให้ฮอนด้าประกอบให้ โดยให้ชื่อว่า อีซูซุ เวอร์เท็กซ์ ถึงแม้ว่ารุ่นนี้จะเป็นรุ่นแรกที่เป็นรถซีดาน หรือรถเก๋งรุ่นแรกของอีซูซุประเทศไทย และใช้พรีเซนเตอร์ชื่อดังอย่าง ริชาร์ด เกียร์ แต่กลับทำยอดขายได้ย่ำแย่แต่ก็ขายได้ดีกว่ากระบะของฮอนด้าและโอเปิล โดยเลิกผลิตในปี พ.ศ. 2545 ในปี พ.ศ. 2545 ทางอีซูซุจึงได้เปิดตัวรถกระบะที่สมบูรณ์แบบที่สุดของอีซูซุเท่าที่เคยมีมา คือ อีซูซุ ดีแมคซ์ ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย และอีก 2 ปีถัดมา ได้มีการเปิดตัว อีซูซุ มิว-เซเว่นซึ่งเป็นรถเอนกประสงค์ที่ดัดแปลงจากรถกระบะ
ในปี พ.ศ. 2476 บริษัท อิชิกาว่า ออโต้โมทิฟ เวิร์คส์ จำกัด ได้ร่วมทุนกับ บริษัท ดีเอที ออโต้โมทิฟ แมนูแฟ็คเจอริ่ง เพื่อก่อตั้งบริษัทใหม่ภายใต้ชื่อ บริษัท ออโต้โมบิล อินดัสตรีส์ จำกัด และได้ทุ่มเทในการพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งในสมัยนั้นยังไม่ได้มีการพัฒนาเชิงพาณิชย์แม้ในประเทศก้าวหน้าอย่างประเทศแถบยุโรปหรือแถบอเมริกาเหนือก็ตาม ต่อมาภายในปี พ.ศ. 2479 บริษัทได้ประสบความสำเร็จในการพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลระบบหล่อเย็นด้วยอากาศสองรุ่นชื่อ DA6 และ DA4 ซึ่งเป็นต้นแบบของรถยนต์รุ่นอื่นๆ ที่ตามมาในปัจจุบัน
ดูศูนย์บริการอีซูซุได้ที่นี่: https://www.isuzu-tis.com/dealer/
สำหรับรถยนต์อีซูซุเป็นรถยนต์ยอดนิยมอีกค่ายของคนไทย ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ขึ้นชื่อเรื่องสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม ประหยัดน้ำ ทนทานและดูแลรักษาง่าย โดยในปัจจุบันทางอีซูซุได้ผลิตรถยนต์ออกสู่ตลาดมาแล้วหลายรุ่น ซึ่งสามารแบ่งรถยนต์ออกเป็น 2 ประเภทได้ดังนี้
Isuzu D-MAX X-Series
Isuzu D-MAX V-Cross
Isuzu D-MAX Spacecab
Isuzu D-MAX Cab 4
Isuzu D-MAX Spark
การเลือกซื้อรถยนต์ นอกจากจะพิจารณาเรื่องฟังก์ชันการใช้งาน ดีไซน์ และฟีเจอร์ต่าง ๆ แล้ว รถยนต์แต่ละรุ่นก็ยังมีความแตกต่างและเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งผู้ใช้งานเองก็จะต้องทำความเข้าใจและศึกษาแต่ละรุ่นให้ถี่ถ้วน โดยวันนี้ทาง Carsome จะพาไปทำความรู้จักกับรถยนต์อีซูซุที่เป็นยี่ห้อที่ครองใจคนไทยมาอย่างยาวนานว่าจะมีรุ่นไหนที่น่าซื้อบ้างในปี 2022 ค่ะ
สำหรับรุ่นนี้มีจุดเด่นตรงที่เครื่องยนต์จะมีกำลังแรงเป็นพิเศษ และยังถูกพัฒนาขึ้นบนรุ่น Hi-Lander ขับเคลื่อนสองล้อยกสูง 4 ประตู พร้อมชุดแต่งที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเครื่องบินรบ Stealth เน้นความแข็งแกร่ง ดุดัน เน้นจับกลุ่มลูกค้าที่ชอบไลฟ์สไตล์ในเมือง มีให้เลือกเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตร Ddi Blue Power เหมาะสำหรับคนที่ชอบขับรถลุย ๆ สามารถขับได้ทุกเส้นทางไม่มีสะดุด ช่วงล่างแน่น อีกทั้งยังประหยัดน้ำมันอีกด้วย ใครที่มองหารถกระบะ 4 ประตูใช้งานได้อเนกประสงค์ ไม่มีปัญหาจุกจิก รับรองว่าเลือกรุ่นนี้ไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
- ราคารถยนต์ Isuzu D-MAX BLUE POWER CAB-4 HI-LANDER มือหนึ่ง: ราคาเริ่มต้นของรุ่นนี้อยู่ 691,000 บาท
- ราคารถยนต์ Isuzu D-MAX BLUE POWER CAB-4 HI-LANDER มือสอง: ราคาเฉลี่ยนอยู่ ที่ราว ๆ 5 แสนปลาย ๆ - 7 แสนปลาย ๆ
สไตล์โดดเด่น ดุดัน เท่แบบสปอร์ต มาพร้อมกับกระจังหน้าโครเมี่ยมดีไซน์ใหม่ พร้อม Multifunctional Daylight แบบ Bulit in ทำให้รถรุ่นนี้ดูมีความทันสมัยมากขึ้น อีกทั้งรุ่นนี้ห้องโดยสารกว้างขวางดูหรูหรา เหมาะสำหรับเป็นรถครอบครัว เพราะมีที่นั่งกว้างขวาง สะดวกสบายแก่ผู้โดยสาร พร้อมกับมีความบันเทิงอย่าง Isuzu iConnect ที่สามารถเชื่อมต่อได้อย่างง่านดาย นอกจากนี้ระบบขับขี่ยังมีกำลังสม่ำเสมอ ทำให้ขับได้สนุก ส่งถ่ายกำลังได้อย่างมีประสิทธิภาพและขับได้อย่างปลอดภัย
- ราคารถยนต์ Isuzu D-MAX CAB-4 HI-LANDER DDI มือหนึ่ง: ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 8 แสนต้น ๆ
- ราคารถยนต์ Isuzu D-MAX CAB-4 HI-LANDER DDI มือสอง: ราคาเฉลี่ยเริ่มต้นอยู่ที่ 6 แสนต้น ๆ - 6 แสนปลาย ๆ
ISUZU D-MAX Hi-Lander 1.9 Ddi Z-Prestige เป็นรถปิกอัพรุ่นล่าสุดที่ได้รับการพัฒนาให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น พร้อมดีไซน์ที่สดใหม่เร้าใจกว่าเดิม เพิ่มเติมฟังก์ชั่นล้ำสมัย โดยเน้นไปที่การใช้งานง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น สามารถตอบทุกไลฟ์สไตล์ภายใต้แนวคิด UNIVERSAL DESIGN ซึ่งภายในห้องโดยสารจัดเต็มความสะดวกสบายพร้อมดีไซน์พรีเมี่ยมยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่มความอเนกประสงค์ด้วยเบาะที่สามารถพับได้แบบ 60:40 พร้อมจุดยึดที่นั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX)
- ราคารถยนต์ Isuzu D-MAX DOUBLE CAB HI-LANDER Z-PRESTIGE มือหนึ่ง: ราคาเฉลี่ยเริ่มต้นอยู่ที่ 965,000 บาท
- ราคารถยนต์ Isuzu D-MAX DOUBLE CAB HI-LANDER Z-PRESTIGE มือสอง: ราคาเฉลี่ยเริ่มต้นอยู่ที่ราคา 5 แสนปลาย ๆ - 6 แสนต้น ๆ
อีซูซุเป็นบริษัทผลิตยานยนต์สัญชาติญี่ปุ่น ได้จัดจำหน่ายในประเทศไทยมายาวนานกว่า 60 ปี มีชื่อเสียงในเรื่องของคุณภาพและความน่าเชื่อถือ และยังเป็นผู้ริเริ่มคิดค้นพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ต่างๆ ในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอีกด้วย รถอีซูซุที่ได้รับความนิยมมากในไทย ได้แก่ Isuzu Hi-lander, Isuzu D-Max, Isuzu Cab 4 และอีซูซุรุ่นอื่นๆ อีกมากมาย
สำหรับใครที่มองหารถยนต์อีซูซุมือสองนั้นต้องบอกเลยว่าคุ้มค่ามาก ๆ เนื่องจากเป็นรถยนต์ที่มีช่วงล่วงแน่น ประสิทธิภาพการขับขี่ดีเยี่ยม เป็นรถประหยัดน้ำมัน สามารถใช้งานได้อเนกประสงค์ มีออปชั่นครบเพียงพอกับการใช้งาน และยังมีห้องโดยสารที่กว้างขวางเพียงพอกับการบรรจุหรือบรรทุกด้วย
อีซูซุถือเป็นตัวเลือกการซื้อรถมือสองที่คุ้มค่า เนื่องจากอีซูซุมีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานในเรื่องความน่าเชื่อถือ ความคงทน และประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ และยังโด่งดังเป็นพิเศษในด้านเครื่องยนต์ดีเซล รถกระบะ และรถ SUV เอนกประสงค์ สิ่งเหล่านี้ทำให้อีซูซุเป็นแบรนด์รถสัญชาติญี่ปุ่นที่น่าเชื่อถือระดับโลก ดังนั้น การซื้อรถอีซูซุมือสองจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเลยทีเดียว
ผ่านไป 3 ปี ราคาขายรถอีซูซุจะตกลง 32 ถึง 38 เปอร์เซ็นต์จากราคาขายเดิม ผ่านไป 5 ปี ราคาจะตกลง 45 ถึง 59 เปอร์เซ็นต์จากราคาเดิม
การคำนวณเบี้ยประกันจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่ รุ่น เครื่องยนต์ ประเภทเครื่องยนต์ และปีที่ผลิต ยกตัวอย่างเช่น ราคาเบี้ยประกันรถชั้น 1 ของ Isuzu D-Max ต่ำสุดจะอยู่ที่ 7,501 บาทต่อปี ขึ้นอยู่กับแผนประกันและบริษัทประกันรถยนต์ที่เราเลือก
ค่าบำรุงรักษาอีซูซุถือว่าไม่แพงเลย การคิดค่าบำรุงรักษาก็ขึ้นอยู่กับรุ่น ปี และเลขระยะทางของรถยนต์ ตัวอย่างเช่น
อีซูซุดีแมคซ์ บลูเพาเวอร์ 2016-2019 1.9 AT 4x2 มีค่าบำรุงรักษา (รวมค่าแรงและอะไหล่) อยู่ที่ระหว่าง 1,477 บาท (ที่ระยะทาง 10,000) ถึง 6,161 บาท (ที่ระยะทาง 200,000)
ออลนิว อีซูซุ-เอ็กซ์ มีค่าบำรุงรักษา 1.9 AT 4x2 (รวมค่าแรงและอะไหล่) อยู่ที่ระหว่าง 829 บาท (ที่ระยะทาง 10,000) ถึง 3,059 บาท (ที่ระยะทาง 200,000)
สำหรับอีซูซุรุ่นอื่นๆ สามารถเช็คราคาได้ที่นี่
อีซูซุมีออฟชั่นและเทคโนโลยีความปลอดภัยที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS, ACC (Full Speed Range Adaptive Cruise Control) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชัน Stop and Go, FCW (Forward Collision Warning) ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า, AEB (Autonomous Emergency Braking) ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ, LDW (Lane Departure Warning) ระบบแจ้งเตือนออกนอกเลน, AHB (Automatic High Beam) ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ, PMM (Pedal Misapplication Mitigation) ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด, MSL (Manual Speed Limiter) ระบบตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุดด้วยตัวเอง, และฟังก์ชั่นอื่นๆ อีกมากมายแล้วแต่รุ่นรถของอีซูซุแต่ละคัน
ภาษีรถยนต์จะคำนวณจากความจุกระบอกสูบ (CC) ยกตัวอย่าง ISUZU D-MAX BLUE POWER 1.9 ความจุกระบอกสูบอยู่ที่ 1,898 CC จะต้องจ่ายภาษีปีละ 2,492 บาท
4JA1 เป็นรหัสสำหรับเครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อน Crosswind AUV เป็นรุ่นเครื่องยนต์ที่มีความน่าเชื่อถือ บำรุงรักษาง่าย และประหยัดน้ำมันมาก
เครื่องยนต์ดีเซลของอีซูซุมีความทนทานและสามารถใช้ได้ยาวนาน อย่างเครื่องยนต์ Isuzu 4HK1-TC ก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถใช้ได้นานถึง 375,000 ไมล์ก่อนที่จะต้องการการซ่อมบำรุงเลยทีเดียว
Isuzu D-MAX ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์คอมมอนเรลดีเซลเทอร์โบ Isuzu 4JJ3-TCX 3.0L ที่ได้รับการกลั่นให้มีความบริสุทธื์ขั้นสูง ซึ่งให้ประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงที่เหนือกว่าด้วยแรงเสียดทานต่ำ การเพิ่มประสิทธิภาพการฉีดเชื้อเพลิง และอินเตอร์คูลเลอร์ขนาดใหญ่ที่ติดตั้งด้านหน้า
ในไทย รถอีซูซุที่เป็นที่นิยมและขายดีที่สุดได้แก่ Isuzu D-Max, Isuzu V-Cross, และ Isuzu MU-X
รถยนต์อีซูซุเหมาะกับคนที่กำลังมองหารถยนต์ที่สามารถใช้งานได้อเนกประสงค์ ครอบคลุมการใช้งานหลายอย่าง ต้องการรถประหยัดน้ำมัน ดูแลรักษาง่ายไม่จุกจิก และมีความทนทาน
รถยนต์ที่ Carsome เป็นรถยนต์ที่ผ่านการรับรองของ Carsome (Carsome Certified) ถือว่าเป็นรถยนต์มือสองคุณภาพดีที่ได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มงวดถึง 175 จุด เพื่อให้มั่นใจว่าไม่เคยผ่านอุบัติเหตุหนัก, ไม่มีความเสียหายที่โครงสร้าง, ไม่เคยผ่านน้ำท่วมหรือไฟไหม้
โดยรถยนต์ที่ผ่านการรับรองของ Carsome ยังได้รับการปรับสภาพก่อนนำขึ้นเสนอขายบนเว็บไซต์ และมาพร้อมกับคำสัญญาจาก Carsome (Carsome Promise) ซึ่งประกอบด้วย ราคาเบ็ดเสร็จที่ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง พร้อมกับการรับประกันจากทางศูนย์ถึง 1 ปี และพร้อมรับประกันคืนเงินภายใน 5 วันหากไม่พอใจสินค้า
ซึ่งหากใครที่สนใจซื้อรถยนต์มือสองอีซูซุราคาประหยัด สภาพดีเยี่ยม สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Carsome นอกจากนี้ทางเรายังพร้อมให้บริการทดลองขับและส่งรถตรงถึงบ้านของคุณ และยังมีการให้ข้อมูลการซื้อขายรถยนต์ประเภทอื่น ๆ ด้วย