สวัสดีครับเพื่อน ๆ คนใช้รถยนต์เป็นประจำก็มักจะเคยเจออุบัติเหตุกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดาใช่มั้ยครับ แต่ที่หนักหน่อย ก็คือเหตุรถคว่ำที่เราเคยเห็นแบบในหนัง เช่น มีอะไรตัดหน้าแล้วเราต้องหักหลบหรือเบรคกะทันหัน ทำให้รถเราเหวี่ยงหลุดจากถนนและรถคว่ำกลับหัวกลับหาง แล้วถ้าเราต้องเจอรถคว่ำในชีวิตจริง เพื่อน ๆ รู้มั้ยครับว่าถ้าเจอกับตัวเองจะต้องทำยังไง
ปกติเหตุรถคว่ำเนี่ยมีเปอร์เซนต์การเกิดน้อยมากนะครับ แต่เมื่อเกิดรถคว่ำแล้วจะมีโอกาสเจ็บหนักหรือเสียชีวิตได้ วันนี้พี่หมีจะมาบอกเพื่อน ๆ ครับว่าเมื่อรถคว่ำแล้ว เราควรต้องทำอย่างไรบ้าง
1. เตรียมพร้อม หากรถเริ่มเหวี่ยง ก่อนรถจะคว่ำ
ถ้ารถเพื่อน ๆ เริ่มเหวี่ยงและคาดว่าน่าจะรถคว่ำ ให้เอาเท้าออกจากคันเร่งหรือเบรคเพื่อกันข้อเท้าหัก ปล่อยพวงมาลัย กอดอกให้แน่นและเอาหลังติดพนักให้ได้มากที่สุด พยายามอย่าเอนตัวไปข้างหน้า เพราะอาจเสี่ยงแขนหักหรือกระทบกระเทือนสมองจากรถคว่ำได้ครับ
2. ดับเครื่อง
เมื่อรถคว่ำ ให้ดับเครื่องทันทีและคิดหาวิธีออกจากรถ
3. ตั้งสติและเช็คอาการบาดเจ็บจากรถคว่ำ
เมื่อรถเราหยุดหมุน ถ้าเราได้สติ ให้วางเท้าลงกับพื้นเพื่อทรงตัวและเช็คอาการของตัวเองและคนที่นั่งมาด้วย ทุกคนควรจับหัวดูว่ามีเศษแก้ว เลือด แผลใหญ่ตรงไหนบ้าง ขณะที่เพิ่งรถคว่ำใหม่ ๆ เราอาจจะยังชาอยู่จนไม่รู้ว่าเจ็บตัวตรงไหนบ้าง หายใจเข้าลึก ๆ เพื่อให้ประสาทสัมผัสกลับมา หากมีใครบาดเจ็บอย่าขยับตัวหรือเคลื่อนย้ายเขา ให้โทรเรียกกู้ภัยทันทีครับ
4. ออกจากรถ
เมื่อรถคว่ำแล้วเพื่อน ๆ ไม่ได้บาดเจ็บ ให้เอื้อมมือจับเพดาน พยายามทรงตัวแบบกลับหัวโดยเอาเท้ายันไว้แล้วปลดเข็มขัดนิรภัย ตรงนี้ต้องระวังมาก ๆ เพราะเราอาจจะตัวกระแทกได้ ดูว่าหน้าต่างบานไหนออกง่ายที่สุดแล้วค่อย ๆ คลานไป ถ้ารถไม่พังมาก ประตูจะยังเปิดได้ ถ้าเปิดไม่ได้ก็ต้องหาอะไรทุบกระจก แต่ระวังเศษกระจกด้วยนะครับ เมื่อเราออกจากรถคว่ำมาได้แล้ว ก็ช่วยคนอื่นออกมาและออกจากบริเวณรถคว่ำให้เร็วที่สุด เผื่อว่ามีน้ำมันรั่วซึ่งอาจจะเกิดระเบิดได้ครับ
5. ระวังรถที่สัญจรอยู่
เมื่อเราออกจากรถคว่ำมาได้ ก็อย่าเพิ่งวิ่งไม่รู้ทิศทางจนโดนรถชนได้นะครับ ให้ระวังรถที่สัญจรบนถนนด้วย และโทรหากู้ภัยให้มาช่วยเราอย่างปลอดภัยครับ
อ่านแล้วเพื่อน ๆ จะได้เข้าใจมากขึ้นนะครับว่า ถ้าเกิดเหตุรถคว่ำเราต้องทำอย่างไร พี่หมีหวังว่าเพื่อน ๆ จะไม่ต้องโชคร้ายเจออุบัติเหตุที่ต้องนำคำแนะนำเหล่านี้ไปใช้กับตัวเองจริง ๆ นะครับ แต่รู้ไว้ก็ไม่เสียหายใช่มั้ยครับ ยังไงก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่จะช่วยเราได้ก็คือการทำประกันรถยนต์โดยเฉพาะประกันรถชั้น 1ที่ช่วยดูแลเรายามเราเกิดอุบัติเหตุและทำให้เราอุ่นใจครับ