ฮอนด้า เอชอาร์-วี (Honda HR-V) เจนเนอเรชั่นที่สามจะเปิดตัวทั่วโลกในวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งต้องขอบคุณผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Vanhoe Rage เราจึงพอจะเข้าใจได้ว่าการปรับโฉมนี้จะเป็นอย่างไรจากภาพสิทธิบัตรของรถ ภาพเหล่านี้แสดงให้เห็นรูปแบบภายนอกของรถถึงสองแบบด้วยกัน ซึ่งนำด้วยการออกแบบกระจังหน้าที่แตกต่างกัน
จากภาพแสดงให้เห็นรูปแบบภายนอก และ เน้นให้เห็นภาพรวมของรถ, ไฟหน้า LED ที่ดูเรียบหรู และ ส่วนหน้าที่ดูคล้ายกล่อง ภาพตัวอย่างจากบริษัทเมื่อปีที่แล้วยังเผยให้เห็นการออกแบบภายในโดยเฉพาะแผงหน้าปัด และ ระบบหน้าจอสัมผัสอินโฟเทนเมนท์ใหม่ทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีการให้ข้อมูลว่า เอชอาร์-วี รุ่นล่าสุดนี้จะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งนั่นหมายถึงพื้นที่ห้องโดยสารที่ใหญ่ขึ้นอีกด้วย
ขอบคุณภาพจาก : Honda
รถยนต์ไฮบริด หรือ รถยนต์เบนซิน (Hybrid Cars Vs Petrol Cars)
ในอดีตน้ำมันเป็นทางเลือกเดียวในการเติมเชื้อเพลิงให้กับรถของเรา แต่ตอนนี้เรามีทางเลือกที่มากขึ้นแล้ว ตอนนี้คุณสามารถซื้อรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าหรือรถยนต์ที่สามารถใช้ได้ทั้งไฟฟ้า และ เชื้อเพลิง เช่น น้ำมัน โดยเรียกว่ารถยนต์ไฮบริด ในบทความนี้เราจะทำการเปรียบเทียบรถฮอนด้า เอชอาร์-วี ซึ่งมีให้เลือกทั้ง 2 รุ่น คือ รถรุ่นธรรมดาที่ใช้น้ำมัน และ รถยนต์ไฮบริด
แต่ก่อนที่เราจะไปทำความรู้จักรถทั้ง 2 รุ่น คุณรู้หรือไม่ว่า ไม่มีรถประเภทไหนที่ดีไปกว่ากัน เนื่องจากแต่ละประเภทก็มีทั้งข้อเสีย และ ข้อดีในตัวเอง บทความนี้ได้นำเสนอทั้งข้อดี และ ข้อเสียบางส่วน ซึ่งคุณสามารถติดตามได้จากด้านล่างนี้
ข้อดี | ข้อเสีย | |
รถยนต์ไฮบริด (Hybrid Cars) | ข้อได้ปรียบหลักของการขับรถยนต์ไฮบริด คือ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า เนื่องจากรถยนต์เหล่านี้ใช้เชื้อเพลิงร่วมกับระบบไฟฟ้าจึงมีการปล่อยมลพิษที่ต่ำกว่ารถยนต์เบนซินโดยทั่วไป นอกจากนี้รถมักจะให้ระยะทางที่มากขึ้นเมื่อใช้ก๊าซอีกด้วย แม้ว่าจะใช้พลังของเครื่องยนต์ธรรมดา แต่ให้การประหยัดพลังงานที่มากกว่า รถยนต์ไฮบริดจึงดีต่อสิ่งแวดล้อม ไม่เพียงแค่นั้นคุณยังสามารถประหยัดค่าน้ำมันได้อีกด้วย | ในขณะที่รถยนต์ไฮบริดมีข้อดี แต่รถยนต์เหล่านี้ก็มีข้อเสียด้วยเช่นกัน ข้อแรกก็คือ เนื่องจากรถยนต์ไฮบริดมีขนาดเล็ก และ น้ำหนักเบากว่า รถจึงไม่ได้มีแนวโน้มในการควบคุมได้ดีเหมือนรถยนต์เบนซินโดยทั่วไป รถไฮบริดยังมีค่าใช้จ่ายในการซื้อ และ บำรุงรักษามากกว่ารถยนต์ทั่วไป และ เนื่องจากรถไฮบริดถูกสร้างขึ้นเพื่อให้มีประสิทธิภาพ และ ประหยัดได้มากกว่าจึงไม่เร็วเท่ารถยนต์โดยทั่วไป |
รถยนต์เบนซิน (Petrol Cars) | รถเบนซินเป็นรถที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในท้องตลาด รถยนต์ประเภทนี้วางจำหน่ายมานานที่สุด และ มอบสิทธิประโยชน์มากมายกว่ารถยนต์ประเภทอื่น ๆ ทั้งหมด ข้อได้เปรียบหลักของรถยนต์เบนซินคือ โดยทั่วไปจะมีราคาถูกกว่าในการซื้อ และ บำรุงรักษา รวมถึงยังมีแนวโน้มที่จะควบคุมได้ดีกว่า และ มีประสิทธิภาพสูงมากเมื่อใช้ความเร็ว
|
น้ำมันมีราคาค่อนข้างแพง ดังนั้นการเติมเชื้อเพลิงให้กับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันจึงมักจะมีค่าใช้จ่ายที่แพงกว่า อย่างไรก็ตาม ข้อเสียเปรียบหลักของรถยนต์เบนซินคือ ไม่ประหยัดพลังงาน อีกทั้งไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน
|
ฮอนด้า เอชอาร์-วี (Honda HR-V) หรือจะเป็น ฮอนด้า เอชอาร์-วี ไฮบริด (Honda HR-V Hybrid)
เครื่องยนต์ และ ประสิทธิภาพ
ขอบคุณภาพจาก : Honda
ฮอนด้า เอชอาร์-วี (Honda HR-V) รถคันนี้เหมาะอย่างยิ่งหากคุณกำลังมองหารถอเนกประสงค์ หรือ SUV ขนาดกะทัดรัดที่ใช้งานได้ไม่ยุ่งยากสำหรับขับไปซื้อของ และ ไปรับเด็ก ๆ จากโรงเรียน รถคันนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน SOHC i-VTEC 1.8 ลิตร 142 แรงม้า (PS) ที่ 6,500 รอบต่อนาที และ 172 นิวตันเมตรที่ 4,300 รอบต่อนาที รวมถึงระบบเกียร์อัตโนมัติ (CVT) นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับแป้นเปลี่ยนเกียร์ หรือ Paddle Shift, กุญแจระบบ Smart Entry พร้อมปุ่มสตาร์ท และ ระบบควบคุมความเร็วอัติโนมัติ
ฮอนด้า เอชอาร์-วี ไฮบริด (Honda HR-V Hybrid) รถรุ่นนี้ติดตั้งระบบขับเคลื่อนที่มีชื่อว่า Sport Hybrid i-DCD (ระบบขับเคลื่อนคลัตช์คู่อัจฉริยะ) ของผู้ผลิตรถยนต์ ซึ่งรวมเอาเครื่องยนต์ i-VTEC แบบแคมคู่ (Twin-cam) ขนาด 1.5 ลิตรของ Atkinson Cycle และ มอเตอร์ไฟฟ้า 22 กิโลวัตต์ (30 PS) / 160 นิวตันเมตรพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบ Blue Energy สำหรับจ่ายพลังงาน, ควบรวมกับเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ (แบบแห้ง) คลัทช์คู่ มอเตอร์ไฟฟ้า เมื่อรวมเข้ากับกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า ระบบจะให้กำลังรวม 152 แรงม้า (PS) และ แรงบิด 190 นิวตัน เมตร (Nm) ซึ่งสูงกว่ารุ่นเอชอาร์-วี แบบใช้น้ำมันอย่างเดียวเพียงเล็กน้อย
ราคา, การรับประกัน และ สี
ฮอนด้า เอชอาร์-วี | ฮอนด้า เอชอาร์-วี ไฮบริด | |
ราคา | 949,000 บาท | 1,119,000 บาท |
การรับประกัน | รับประกัน 5 ปี (ไม่จำกัดระยะทาง) | รับประกัน 8 ปี (ไม่จำกัดระยะทาง) |
สี | ● สีแดงมุก (Passion Red Pearl)
● สีขาวมุก (White Orchid Pearl) ● สีเงิน (Lunar Silver Metallic๗ ● สีดำมุก (Modern Steel Metallic) ● สีเทาดำ (Ruse Black Metallic) |
● สีขาวมุก (White Orchid Pearl)
● สีเงิน (Lunar Silver Metallic๗ ● สีดำมุก (Modern Steel Metallic)
|
การตกแต่งภายใน และ ภายนอกตัวรถ
ขอบคุณภาพจาก : Honda
ฮอนด้า เอชอาร์-วี | ฮอนด้า เอชอาร์-วี ไฮบริด | |
ภายนอก | ● กันชนส่วนล่างด้านหน้า / ด้านหลังแบบไม่ทาสีดำและขอบข้าง
● กระจกมองข้าง สีเดียวกับตัวรถ ● ไฟหน้าแบบฮาโลเจน, แบบอัตโนมัติ, แบบปรับระดับด้วยตนเอง ● ไฟท้ายแบบ LED ● ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน ● ไฟตัดหมอกหน้า ● เสาครีบฉลาม ● กระจังหน้า โครเมียมรมดำ |
● กันชนส่วนล่างด้านหน้า / ด้านหลังแบบไม่ทาสีดำและขอบข้าง
● กระจกมองข้าง สีเดียวกับตัวรถ ● มือจับเปิดประตูด้านหน้า สีเดียวกับตัวรถ ● ไฟหน้าแบบฮาโลเจน, แบบอัตโนมัติ, แบบปรับระดับด้วยตนเอง ● ไฟท้ายแบบ LED ● ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน ● ไฟตัดหมอกหน้า ● เสาครีบฉลาม ● กระจังหน้า โครเมียมรมดำ ● ชุดซ่อมแซมยางรถยนต์แบบชั่วคราว (Temporary Tire Repair Kit) |
ภายใน | ● ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์เเบบอัจฉริยะ (Smart entry/push button start)
● ระบบควบคุมเสียงบนพวงมาลัย ● ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle shift) ● มาตรวัดเรืองเเสงพร้อมหน้าจอเเสดงข้อมูลการขับขี่แบบแอดวานซ์ (Advanced multi-information combination meter) ● ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ● ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise control) ● พวงมาลัยประระดับ 3 ทิศทาง, หุ้มหนัง ● วัสดุหุ้มเบาะ หนังเเท้เเละวัสดุหนังสังเคราะห์ ● ระบบเครื่องเสียงเเบบหน้าจอสัมผัสขนาด 6.8 นิ้ว, ลำโพง 4 ตัว ● ช่องเชื่อมต่อ HDMI/USB พร้อมระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย |
● ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์เเบบอัจฉริยะ (Smart entry/push button start)
● ระบบควบคุมเสียงบนพวงมาลัย ● ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle shift) ● มาตรวัดเรืองเเสงพร้อมหน้าจอเเสดงข้อมูลการขับขี่แบบแอดวานซ์ (Advanced multi-information combination meter) ● ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ● ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise control) ● พวงมาลัยประระดับ 3 ทิศทาง, หุ้มหนัง ● วัสดุหุ้มเบาะ หนังเเท้เเละวัสดุหนังสังเคราะห์ ● ระบบเครื่องเสียงเเบบหน้าจอสัมผัสขนาด 6.8 นิ้ว, ลำโพง 4 ตัว ● ช่องเชื่อมต่อ HDMI/USB พร้อมระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย ● หน้าจอแสดงข้อมูลอัจฉริยะ (Intelligent Multi-Information Display: i-MID) พร้อมพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น |
พื้นที่ห้องโดยสาร | ● พื้นที่ห้องโดยสารสามารถจุได้ 437 ลิตร
● สามารถจุได้ถึง 1,032 ลิตรเมื่อพับเบาะหลังลง |
● พื้นที่ห้องโดยสารสามารถจุได้ 404 ลิตร
● สามารถจุได้ถึง 991 ลิตรเมื่อพับเบาะหลังลง |
ด้านความปลอดภัย
ขอบคุณภาพจาก : Honda
ฮอนด้า เอชอาร์-วี ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับคุณสมบัติด้านความปลอดภัยขั้นสูงที่คุณสามารถคาดหวังได้จากรถอเนกประสงค์ (SUV) ที่มีระดับ ประกอบไปด้วย ถุงลมนิรภัย 6 จุด, กล้องมองหลังแบบปรับมุมมองได้หลายระดับ, เบรกมือไฟฟ้า, ระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันที่ช่วยเพิ่มเสถียรภาพการทรงตัว (Vehicle Stability Assist: VSA) รวมถึงไฟสัญญาณกะพริบอัตโนมัติ ( Emergency Stop Signal : ESS) ตามการใช้งานปกติของคุณ รวมถึงระบบเบรกมือแบบทำงานโดยอัตโนมัติ (Auto Brake Hold: ABH)
คุณลักษณะด้านความปลอดภัยเพิ่มเติมอีกอย่างหนึ่งที่มีในฮอนด้า เอชอาร์-วี แต่ไม่มีในรุ่นไฮบริด คือระบบความปลอดภัย Lane Watch ที่ช่วยคุณลดจุดบอดด้านผู้โดยสารเพื่อให้คุณเปลี่ยนเลนได้อย่างปลอดภัย ทุกครั้งที่คุณเปิดใช้สัญญาณ กล้องจะเปิดขึ้นที่จอแสดงผลมัลติเอนเตอร์เทนเมนต์เพื่อให้คุณรู้ว่าเวลาใดเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่คุณจะเปลี่ยนเลน
ตามที่คุณเห็นได้จากการเปรียบเทียด้านบนนี้ ความแตกต่างระหว่างรถไฮบริดกับรถรุ่นปกติถือว่ามีไม่มากนัก ซึ่งนอกเหนือจากความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจน เช่น ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ และ ราคาแล้ว ทั้งสองรุ่นยังมีคุณสมบัติที่คล้ายคลึงกัน สรุปแล้วนั่นก็ขึ้นอยู่กับประเภทของรถที่คุณต้องการขับ หากคุณชอบความรวดเร็วคุณควรเลือกใช้ ฮอนด้า เอชอาร์-วี แต่ถ้าคุณกำลังมองหารถที่ประหยัดน้ำมัน ฮอนด้า เอชอาร์-วี ไฮบริด ก็ถูกสร้างมาเพื่อตอบโจทย์นั้นแก่คุณ