ชาวเมืองมีเฮกับอีโคคาร์ใหม่ Mitsubishi Attrage ที่ตอบโจทย์ความประหยัดควบคู่ดีไซน์ที่คล่องตัว
เพราะชีวิตชาวเมืองนั้นต้องการความเร่งรีบ ประหยัด และคล่องตัว ทำให้ต้องการรถที่มีคุณสมบัติดังกล่าวเป็นสำคัญ และคุณสมบัติดังกล่าวนี้ก็สามารถพบได้ในรถอีโคคาร์รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Mitsubishi อย่าง Mitsubishi Attrage ซึ่งได้รับการออกแบบมาสำหรับไลฟ์สไตล์ชาวเมืองอย่างคุณโดยเฉพาะ เรามาดูกันดีกว่าว่าทำไมรถอีโคคาร์ Mitsubishi Attrage ถึงจะมาครองใจชาวเมืองอย่างคุณได้ตั้งแต่แรกเห็น
Mitsubishi Attrage 2017–2018: สุดยอดอีโคคาร์ประหยัดน้ำมันในราคาสบายใจ
ถ้าจะให้พูดถึงรุ่นรถอีโคคาร์ที่ดีที่สุดในขณะนี้ ต้องมีรถ Mitsubishi Attrage 2017-2018 ติดโผมาด้วยอย่างแน่นอน เพราะมันคือรถอีโคคาร์ที่ช่วยประหยัดน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยสามารถประหยัดน้ำมันได้สูงสุดถึง 22 กิโลเมตร/ลิตร พร้อมความอัจฉริยะของฟังก์ชันต่าง ๆ ภายในรถยนต์ แต่จำหน่ายในราคาโดนใจเริ่มต้น 443,000 – 582,000 บาทเท่านั้น มีให้เลือกขับกันถึง 6 สีสัน ได้แก่ Wine Red, Cerulean Blue Mica, White Pearl, Cool Silver Metallic, Titanium Gray และ Pyreness Black
ดีไซน์ภายนอก
- ไฟหน้ามัลติรีเฟล็กเตอร์แบบฮาโลเจน
- ชุดไฟตกแต่งแบบ LED บริเวณกันชนหน้า
- ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว
- ที่เก็บสัมภาระท้ายรถความจุ 450 ลิตร
ดีไซน์ภายใน
- เบาะนั่งและวัสดุหนังสังเคราะห์คุณภาพดี
- พนักพิงศีรษะบริเวณเบาะนั่งด้านหลัง 3 ตำแหน่ง สามารถปรับระดับสูง-ต่ำได้
- มาตรวัดการขับขี่แบบ Semi-High Contrast ทำให้ดูง่าย
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
- ระบบเครื่องเสียง 2 DIN พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 5 นิ้ว
- เครื่องเล่น DVD / MP3 พร้อมระบบรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนและ Apple CarPlay (เฉพาะรุ่น GLS-LTD)
- พวงมาลัยควบคุมประกอบด้วยสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง, ควบคุมการสั่งงานด้วยเสียง, ปุ่มรับสาย-วางสายโทรศัพท์ที่พวงมาลัย
- ช่องต่ออุปกรณ์ USB
- ระบบกุญแจอัจฉริยะ (KOS) ช่วยให้สามารถล็อกและปลดล็อกประตูอย่างสะดวกสบายภายในรัศมี 70 เซนติเมตร
- ปุ่มสตาร์ทและดับเครื่องยนต์ พร้อมระบบ IMMOBILIZER SYSTEM ที่ช่วยป้องกันการโจรกรรม ซึ่งจะอนุญาตให้ติดเครื่องยนต์ได้เฉพาะระบบกุญแจอัจฉริยะที่ส่งรหัสสัญญาณตรงกับระบบเท่านั้น
- ระบบ Cruise Control ช่วยล็อกความเร็วบนท้องถนนด้วยพวงมาลัย ทำให้ลดความเมื่อยล้าเมื่อต้องขับรถระยะทางไกล
ระบบเครื่องยนต์
รถ Mitsubishi Attrage 2017-2018 นั้นใช้เครื่องยนต์ DOHC MIVEC 12-VALVE ENGINE ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เบนซิน DOHC MIVEC 1.2 ลิตร 78 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 100 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที และ CAMSHAFT WITH ROLLER ที่ช่วยลดการเสียดทานของเครื่องยนต์พร้อมระบบวาล์วแปรผันด้านไอดี MIVEC (MITSUBISHI INNOVATIVE VALVE TIMING ELECTRONIC CONTROL SYSTEM) ช่วยให้เครื่องยนต์มีแรงบิดดีขึ้นในรอบต่ำ ทำให้เครื่องยนต์มีอัตราเร่งดีเยี่ยม ประหยัดน้ำมัน ลดมลพิษ และรักษาสิ่งแวดล้อม
ระบบเกียร์
รถรุ่นนี้จะใช้เกียร์ NVECS-III CVT ซึ่งเป็นระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ควบคุมการทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ช่วยให้ทุกการเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างต่อเนื่องและนุ่มนวล ทำงานควบคู่กับระบบ INC ที่ช่วยควบคุมและตัดระบบส่งกำลังไปยังเพลาขับอัตโนมัติในขณะรถหยุดนิ่งและเหยียบเบรกในตำแหน่งเกียร์ “D” จึงช่วยลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันได้ในทุกการขับขี่ และลดการสึกหรอของระบบเกียร์ ช่วยยืดอายุการใช้งานของเกียร์ให้ยาวนานขึ้น พร้อมด้วยระบบ G-SENSOR ช่วยควบคุมการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ให้มีความแม่นยำมากขึ้นในทางลาดชัน INVECS-III (INTELLIGENT AND INNOVATIVE VEHICLE ELECTRONIC CONTROL SYSTEM III) ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์อัจฉริยะ INVECS-III ช่วยวิเคราะห์ให้และจดจำลักษณะการขับขี่ เพื่อนำไปประมวลผลการเปลี่ยนเกียร์ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการขับขี่ของแต่ละบุคคล
Credit by Benzy iPrice