อากาศร้อน ๆ แบบนี้ คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการนั่งอยู่ในห้องแอร์เย็น ๆ ชิว ๆ ใช่ไหมละคะ จริง ๆ ฟังแล้วก็ดูไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเสียเท่าไร แต่ถ้าหากเรามีเหตุให้ต้องเดินทางละ? อาจจะต้องวางแผนเดินทางกันให้ดีเสียหน่อย ยิ่งถ้าเป็นช่วงเวลากลางวันละก็ รถแอร์ไม่เย็นงานนี้คงต้องมีหงุดหงิดกันบ้างไม่มากก็น้อย เพราะฉะนั้นก่อนที่จะเดินทางไกล คุณได้มีการวางแผนเตรียมรับมือกันแล้วหรือยัง ถ้ายังละก็ เรามาเริ่มต้นจากการสำรวจความเย็นของแอร์รถยนต์กันก่อนเลยค่ะ
วิธีการเช็คก็ไม่ได้ยากอะไรเลย ส่วนใหญ่เราจะสามารถรู้ได้ทันทีว่า แอร์ในรถยนต์ของเรามีปัญหาหรือไม่ด้วยการสังเกตจาก “ความเย็น” ซึ่งปัญหาที่ทำให้แอร์ของเราไม่เย็นก็ได้แก่
- ตู้แอร์รั่ว
- ระบบแผงระบายความร้อนหรือพัดลมหน้าแผงคอยล์ไม่ทำงาน
- ลูกสูบภายในคอมเพรสเซอร์หลวม
- สายพานคอมเพรสเซอร์แอร์หย่อน
- น้ำยาแอร์หมด
และปัญหาที่พบได้บ่อยก็คือ ข้อสุดท้ายนี่ละค่ะ!! เนื่องจากคนส่วนใหญ่โดยเฉพาะคุณผู้หญิงทั้งหลายมักจะไม่ค่อยทราบว่า คุณต้องคอยหมั่นเช็คและตรวจสอบดูน้ำยาแอร์รถยนต์ของคุณด้วย … บางคนอาจจะตอบว่า “รู้!! แต่ดูไม่เป็น!” ต่อจากนี้ไปคำถามนี้จะไม่เกิดขึ้น เพราะทีมงาน Carsome Thailand จะมาอธิบายวิธีการดูแบบเข้าใจง่าย ๆ ไม่ยุ่งยากกันค่ะ
จะรู้ได้อย่างไรว่าต้องเติมน้ำยาแอร์?
คำตอบคือ ก็ตอนที่เริ่มรู้สึกว่าแอร์ไม่เย็นไง
แล้วจะดูอย่างไรว่าน้ำยาแอร์ยังมีอยู่หรือใกล้หมดแล้ว?
คำตอบคือ ให้สังเกตตาแมวของรถยนต์ ด้วยการสตาร์ทเครื่องแล้วเปิดระบบเครื่องปรับอากาศ อย่าลืมกดปุ่ม A/C ให้คอมเพรสเซอร์แอร์ได้ทำงานด้วยนะคะ หลังจากนั้นให้ส่องดูว่า ตาแมวมีลักษณะเป็นเช่นไร ถ้ามีฟองเล็ก ๆ สีขาวจำนวนมากและตลอดเวลาละก็ แสดงว่า น้ำยาแอร์ลดลง ควรต้องรีบเติมแล้วละค่ะ แต่ถ้าหากมีฟองขนาดใหญ่สลับกับไม่มีฟอง แสดงว่าน้ำยาแอร์ของคุณยังมีอยู่ ถ้าจะลดก็ลดลงไปนิดเดียว ไม่มีอะไรต้องกังวลใจ
พูดง่าย ๆ ก็คือ มีฟองเล็ก ๆ สีขาว ๆ ตลอดแสดงว่า น้ำยาแอร์จะหมด ทำได้อย่างเดียวคือต้องรีบเติม! แต่ถ้าหากดูไม่เป็นก็ไม่เป็นไรนะคะ ขับรถตรงเข้าอู่วิ่งหาช่าง ๆ เอาเครื่องวัดไม่ถึงสามนาทีก็ทราบผลแล้วละค่ะ ใครสะดวกแบบไหนก็ลองเลือกมาปรับใช้กันดูนะคะ