แม้ว่าในปัจจุบัน บริษัทประกันภัยรถยนต์หลายแห่ง จะมีประกันภัยรถยนต์ให้เราได้เลือกความคุ้มครองได้ตามที่เราต้องการ แต่ในความเป็นจริงแล้วบริษัทประกันภัยรถยนต์เองก็ไม่ได้มีประกันภัยรถยนต์ไว้ให้บริการรถทุกประเภทนะคะ ยังมีรถบางประเภทที่บริษัทประกันภัยรถยนต์ส่วนใหญ่มักจะปฏิเสธความคุ้มครองค่ะ
1. รถที่มีการตกแต่งพิเศษ
รถที่มีการตกแต่งพิเศษ ในที่นี้หมายถึง รถที่มีการนำไปตกแต่งมากกว่าปกติ เช่น รถที่มีการติดอุปกรณ์เพิ่มและอุปกรณ์ที่คุณติดเพิ่มนั้นเป็นอุปกรณ์ที่ก่อให้เกิดความเสียหายง่าย เช่น สปอยเลอร์รถยนต์ หรือ รถที่การโหลดต่ำมากเกินไป ทั้งนี้เพราะรถในลักษณะดังกล่าวนั้นจะเกิดความเสียหายง่าย และเมื่อมีความเสียหายเกิดขึ้นก็มักจะเป็นความเสียหายที่เกิดในจุดเดิมซ้ำๆ จึงเป็นเหตุในบริษัทประกันภัยรถยนต์ส่วนใหญ่ปฎิเสธที่จะรับประกันรถดังกล่าว
หรือในกรณีที่บริษัทประกันภัยรถยนต์รับทำประกันไปแล้ว และมารู้ทีหลังว่าคุณมีการนำรถยนต์ไปตกแต่งแบบพิเศษมา บริษัทประกันภัยรถยนต์ก็สามารถขอยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ได้ แม้ว่าจะมีการเรียกเคลมแค่ครั้งเดียวก็ตามค่ะ
2. รถที่มีสถิติสูญหายสูง หรือ รถที่มีใบสั่งจองจากตลาดมืดสูง
รถที่มีใบสั่งจองจากตลาดมืดส่วนใหญ่จะเป็นรถปิกอัพ และรถเก๋งบางรุ่นบางยี่ห้อ ซึ่งส่วนใหญ่รถยนต์ที่จัดอยู่ในกลุ่มนี้เมื่อเกิดเหตุสูญหายแล้วมักจะไม่ได้คืน หรืออาจจะตรวจจับได้ตามด่านชายแดนเมื่อมีการใช้รถยนต์เหล่านี้ขนของผิดกฏหมาย
ซึ่งบริษัทประกันภัยรถยนต์แต่ละแห่งย่อมมีข้อมูลและสถิติการสูญหายบันทึกไว้อยู่แล้ว และในส่วนของเงื่อนไขการรับประกันนั้นก็เป็นไปตามข้อกำหนดของบริษัทประกันภัยรถยนต์แต่ละแห่ง ซึ่งบางแห่งอาจจะไม่รับประกันภัยรถยนต์เหล่านี้เลย หรือบางแห่งอาจจะเลือกรับประกันภัยรถยนต์กับลูกค้าที่เก่าที่มีประวัติการทำประกันภัยรถยนต์กับบริษัทแล้วเท่านั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแม้ว่าจะรับประกันรถยนต์เหล่านี้ แต่ก็จะมีทุนประกันรถหายที่ต่ำมากๆนั่นเองค่ะ
3. รถที่มีอะไหล่แพง ค่าซ่อมแพง หรืออะไหล่หายาก
ส่วนใหญ่รถประเภทนี้จะเป็นรถที่มียอดขายทางตลาดต่ำมากๆ และมีราคาตกอย่างรวดเร็ว ส่วนใหญ่รถประเภทนี้เมื่อเกิดความเสียหายแต่ละครั้งจะต้องเข้าซ่อมกับห้างอย่างเดียว เพราะไม่มีอะไหล่ขายทั่วไป รวมถึงในบางครั้งต้องรออะไหล่จากการสั่งจากต่างประเทศ กว่าจะได้ก็กินระยะเวลานาน เพราะบางครั้งรถประเภทนี้ก็ไม่มีอะไหล่มือสองขายนั่นเองค่ะ และแน่นอนว่าบริษัทประกันภัยรถยนต์จะมีข้อมูลของรถยนต์ประเภทนี้อยู่แล้ว บริษัทประกันภัยรถยนต์ส่วนใหญ่จึงพยายามหลีกเลี่ยงและไม่ค่อยให้การรับประกันเท่าไหร่นัก หรือหากรับประกันก็จะมีเบี้ยประกันที่สูงมากนั่นเองค่ะ
รู้กันแบบนี้ หลายคนอาจจะค่อนขอดบริษัทประกันภัยรถยนต์อยู่ในใจ แต่เชื่อเราเถอะค่ะว่า ทุกอย่างย่อมเป็นไปตามความเหมาะสม และในบางครั้ง แม้รถของเราจะทำประกันภัยรถยนต์ไว้ ก็ไม่ได้หมายความว่า ประกันที่เราทำไว้จะให้ความคุ้มครองทุกครั้งเสมอไป เพราะหลายครั้งบริษัทประกันภัยรถยนต์เองก็ต้องเช็คความปลอดภัย รวมถึงตรวจสอบประวัติการขับขี่ของเราอยู่แล้ว ดังนั้น อย่าเผลอใจว่า มี ประกันรถยนต์แล้วจะขับรถแบบไหนก็ได้ เพราะบางความเสียหายที่เกิดขึ้น คุณอาจจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบอยู่ฝ่ายเดียวก็ได้ค่ะ