เทคนิคเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ยังไง ให้ได้ราคาถูก

เทคนิคเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ยังไง ให้ได้ราคาถูก

 

รู้จักกันก่อนกับเบี้ยประกันภัยรถยนต์

ต้นปีแบบนี้ น่าจะใกล้เข้าช่วงต่อประกันรถยนต์ของหลายๆ คนกันแล้ว และใครที่นึกครึ้ม อยากจะเปลี่ยนประกันรถยนต์ หรือเพิ่งถอยรถมาใหม่ๆ ก็อาจจะมองหาประกันรถยนต์ ที่มีเบี้ยราคาถูก แต่เราจะเช็คเบี้ยประกันเหล่านี้ได้ที่ไหน มีเทคนิคอะไรที่จะช่วยให้ซื้อประกันได้ในราคาถูกบ้าง เรามาดูกันดีกว่า

ก่อนที่จะเริ่มต้นเลือกประกันรถยนต์ เชื่อว่าหลายคน โดยเฉพาะมือใหม่ที่เพิ่งมีรถยนต์เป็นครั้งแรกอาจจะสงสัย เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า เบี้ยประกันภัยรถยนต์ นั้นหมายถึง เงินที่ผู้ทำประกันภาคสมัครใจจะต้องจ่ายให้กับบริษัทประกันภัย เพื่อแลกกับความคุ้มครองตามกรมธรรม์เป็นรายปี

ส่วนเบี้ยประกันจะถูกหรือแพง มักขึ้นอยู่กับประเภทของประกันภัยและความคุ้มครอง (รายละเอียดกรมธรรม์จึงสำคัญและมีผลต่อเบี้ยประกัน) และพิจารณาจากอีกหลายๆ ปัจจัยของผู้ใช้รถร่วมด้วย

ทั้งนี้ หลายคนอาจให้ความสำคัญกับเบี้ยประกันที่ถูกสุดเพียงอย่างเดียว แต่คุณรู้หรือไม่ เบี้ยประกันที่ราคาถูกสุดๆ อาจไม่ใช่คำตอบหรือตอบโจทย์สิ่งที่คุณต้องการเสมอไป ดังนั้นนอกจากจะเปรียบเทียบราคาแล้ว เราควรเปรียบเทียบความคุ้มครองในส่วนต่างๆ ก่อนตัดสินใจเสมอด้วย

เริ่มต้นง่ายๆ ที่การเลือกประกันรถยนต์ เลือกดีเบี้ยประกันถูกแน่นอน

 

อย่างที่เราได้บอกไป เบี้ยประกัน บางส่วนจะขึ้นกับประเภทของประกันรถยนต์ ดังนั้น หากอยากได้เบี้ยประกันรถที่ถูก หรือทริกเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ เราอาจเริ่มต้นด้วยการเลือกประกัน และการเปรียบเทียบเพื่อหาเบี้ยประกันที่โดนใจ และให้ความคุ้มครองที่เหมาะสมกับการใช้งานของเราก่อน ตัวอย่างเช่น 

●     ประกันชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองความเสียหายครอบคลุมมากที่สุด ทั้งรถยนต์ของเรา คู่กรณี คุ้มครองบุคคลภายในรถ+นอกรถ และความเสียหายของทรัพย์สินที่เกิดจากอุบัติเหตุ รวมไปถึงความเสียหายอื่นๆ เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วมและโดนขโมย (ตามเงื่อนไขและวงเงินของกรมธรรม์) แต่ต้องทำใจหน่อย เพราะเบี้ยประกันก็ค่อนข้างสูง

●     ประกันชั้น 2+ ลักษณะความคุ้มครองใกล้เคียงกับประกันชั้น 1 แต่จะเป็นลักษณะรถชนกับรถ ส่วนรายละเอียดเงื่อนไขกรมธรรม์แต่ละประกันภัยอาจแตกต่างกัน

●     ประกันชั้น 2 ความคุ้มครองจะคล้ายกับประกันชั้น 2+ แต่จะซ่อมเฉพาะรถคู่กรณีหากเราเป็นฝ่ายผิด และคุ้มครองกรณีรถสูญหายหรือไฟไหม้ด้วย ปัจจุบันอาจไม่ค่อยนิยมแล้ว หลายคนมักเลือกประกันชั้น 2+ แทน เนื่องจากความคุ้มครองครอบคลุมกว่า

●     ประกันชั้น 3+ คล้ายประกันชั้น 2+ แต่ไม่คุ้มครองกรณีรถสูญหายหรือไฟไหม้ ที่น่าสนใจคือ ปัจจุบันประกันภัยบางรายมีเพิ่มความคุ้มครองในส่วนนี้แล้ว แต่ทุนประกันอาจไม่สูงนัก

●     ประกันชั้น 3 ประกันภาคสมัครใจที่มีค่าใช้จ่ายถูกสุด ความคุ้มครองต่ำสุด หลักๆ จะเน้นคุ้มครองเฉพาะรถคู่กรณี แต่ไม่คุ้มครองรถที่เอาประกันภัย คือพูดง่ายๆ คือ ซ่อมเขา ไม่ซ่อมเรา นั่นเอง


 

อยากได้เบี้ยประกันถูก ต้องดูกรมธรรม์

 

ไม่ว่าคุณจะเลือกทำประกันภัยภาคสมัครใจประเภทไหน สิ่งสำคัญที่สุด และไม่ควรละเลย ก็คือการดูรายละเอียดของกรมธรรม์นี่แหละ

โดย กรมธรรมณ์ จะหมายถึง เงื่อนไข วงเงิน และขอบเขตของความคุ้มครองด้านต่างๆ ว่าคุ้มครองมากน้อยอย่างไร

เราแนะนำทริกเลยว่า อย่าดูแค่เบี้ยประกันอย่างเดียว เพราะรายละเอียดแต่ละกรมธรรม์มีการคุ้มครองต่างกันหลายรูปแบบ ถึงแม้จะเป็นประกันชนิดเดียวกัน แต่ถ้าต่างบริษัทประกัน ย่อมให้การคุ้มครองที่แตกต่าง เช่น ประกันชั้น 3 บริษัท A อาจคุ้มครองต่างจากบริษัท B เป็นต้น

 

นอกจากเรื่องกรมธรรมแล้ว บริษัทประกันแต่ละเจ้า ก็อาจกำหนดวงเงินความคุ้มครองแต่ละส่วนไม่เท่ากันด้วย รวมถึงเงื่อนไข และข้อบังคับต่างๆ ที่อาจทำให้กรมธรรมณ์เป็นโมฆะได้หากคุณทำการละเมิด  ดังนั้น ผู้ทำประกันควรจะศึกษาให้ดี อ่านรายละเอียดกรมธรรม์ให้ถี่ถ้วนก่อนตกลงทำเสมอ

หากความเสียหายในส่วนต่างๆ ที่เกินวงเงินประกัน ผู้เอาประกันจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ (กรณีเป็นฝ่ายผิด) เพราะฉะนั้นการศึกษาเรื่องกรมธรรม์จึงสำคัญที่สุด สำหรับการตัดสินใจหรือแม้แต่เลือกแล้วตาม เพราะสิ่งนี้เป็นเหมือนข้อตกลงระหว่างเรากับบริษัทประกันภัยในการชดใช้ค่าเสียหาย 

เลือกบริษัทประกันรถยนต์อย่างไร ให้ชัวร์สุด

สิ่งที่ต้องดูควบคู่ไปด้วย คือการเลือกบริษัทประกันที่น่าเชื่อถือนี่แหละ เพราะหากเกิดเหตุจริง เราต้องมั่นใจได้ว่า ทางประกันจะสามารถให้บริการ ช่วยประสานงานได้ตลอดตั้งแต่เกิดเรื่อง และการ ซ่อมรถ ต้องวางใจได้

ส่วนการใช้โบรคเกอร์หรือตัวแทนขายประกัน ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเสมอไป เพราะสะดวก ไม่ต้องติดต่อให้ยุ่งยาก แถมยังช่วยประสานงาน จัดการเอกสารต่างๆ ให้อีก แถมบางเจ้ายังสามารถช่วยคุณเลือก และเปรียบเทียบ เช็คเบี้ยประกันได้อย่างง่ายดาย พร้อมกับของแถม และโปรโมชั่นพิเศษ ที่ดีกว่าการเดินเข้าไปทำประกันเองเป็นไหนๆ

 

อย่างเช่น rabbit finance ที่ช่วยให้คุณเปรียบเทียบ เช็คเบี้ยประกันได้ง่ายดาย ด้วยทีมงานมืออาชีพ อีกทั้งยังเต็มไปด้วยบริษัทประกันรถยนต์ที่น่าเชื่อถือมากมาย พร้อมให้คำแนะนำตลอด 24 ชั่วโมง