Skip to content
Carsome Thailand
  • เกี่ยวกับเรา
  • บทความ
    • บทความทั้งหมด
    • โปรโมชั่น
    • ข่าวสาร
    • ข้อมูลน่ารู้
    • ไลฟ์สไตล์
    • ข่าวประชาสัมพันธ์ (PR)
    • รีพอร์ต
    • รถยนต์ไฟฟ้า
  • ติดต่อเรา
  • เข้าระบบ (Log in)
    • ดีลเลอร์
    • ลงชื่อเข้าใช้
  • 6 November 2020

5 เรื่องต้องรู้ ก่อนซื้อรถยนต์ไฟฟ้า (EV)

  • ขายรถ, ขายรถง่ายได้เงินไวไว้ใจCarsome, ขายรถจบไวได้เงินทันที, ขายรถมือสอง, ขายรถยนต์ออนไลน์, ขายรถเชื่อถือได้, ขายรถให้ได้ราคาดี, ขายรถได้ราคาดี, ขายรถไว, รถ EV, รถพลังงานไฟฟ้า, รถยนต์ไฟฟ้า, ราคารถยนต์มือสอง, วิธีการดูรถมือสอง, วิธีดูรถ, เช็ครถมือสอง

ในปัจจุบันทั้งสหรัฐ จีน ญี่ปุ่น รวมถึงหลายๆ ประเทศในแถบยุโรป เริ่มหันมาใช้ รถยนต์ไฟฟ้า ยานยนต์ไฟฟ้า หรือ Electric Vehicle (EV) กันอย่างแพร่หลาย จัดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่กำลังมาแรงในยุคนี้ ด้วยกระแสการรักษาสิ่งแวดล้อม และลดมลภาวะต่อโลกของเรา

ในไทยเองก็มีหลายค่ายรถยนต์ที่ทยอยเปิดตัวรถ EV ตามกระแสโลก แต่รถ EV ก็ยังถือได้ว่าเป็นเรื่องใหม่สำหรับคนไทย ซึ่งอาจจะยังไม่คุ้นชินจากการเปลี่ยนจากรถยนต์สันดาปภายในหรือรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้กันมาอย่างยาวนาน มาเป็นรถ EV หรือการเปลี่ยนแปลงนั้นต้องทำความเข้าใจ วันนี้ Carsome มี 5 สิ่งสำคัญที่ต้องรู้ก่อนจะซื้อหรือใช้รถยนต์ EV เพื่อความเข้าใจถ่องแท้ก่อนจะตัดสินใจจ่ายเงินก้อนโต

 

1. ระยะทางที่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) วิ่งได้ ต่อการชาร์จแบตเตอรี่เต็มครั้งหนึ่ง

ระยะทางที่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) วิ่งได้ ต่อการชาร์จแบตเตอรี่เต็มครั้งหนึ่ง

รถยนต์ไฟฟ้า (EV) สามารแบ่งออกได้ 4 ประเภทหลัก แต่ถ้าให้นับเฉพาะรุ่นที่สามารถเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ได้ จะมี 2 ประเภท คือ Plug-in Hybrid (PHEV) และ Battery Electric Vehicle (BEV) เท่านั้น

 

-PHEV ใช้พลังงานจากน้ำมันเชื้อเพลิงและไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ โดยคนไทยจะคุ้นกันในชื่อ รถไฮบริด (Hybrid) ซึ่งจะได้เปรียบด้านความยืดหยุ่นในด้านพลังงานเลือกได้ทั้งไฟฟ้าและน้ำมัน แต่ต้องแลกมากับแบตเตอรี่ขนาดเล็กลง โดยระยะทางที่วิ่งได้ด้วยพลังไฟฟ้า จะขึ้นอยู่กับความจุแบตเตอรี่ ส่วนใหญู่อยู่ที่ 6-14 kW สามารถวิ่งได้ 25-50 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง

 

– BEV ใช้พลังงานไฟฟ้า 100 % ไม่ปล่อยมลพิษทางอากาศ เติมพลังงานผ่านการชาร์จไฟเท่านั้น เช่น รถเทสล่า (Tesla) Model 3 รถยนต์ไฟฟ้า BEV จะมีแบตเตอรี่ความจุ 60-90 kW วิ่งได้ไกลถึง 338-473 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง

 

2.การชาร์จรถ EV สามารถทำที่บ้านได้หรือไม่?

การชาร์จรถ EV สามารถทำที่บ้านได้หรือไม่?

การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าด้วยเต้ารับไฟบ้าน ต้องทำการขอมิเตอร์ไฟที่รองรับกระแส 15A จากการไฟฟ้า พร้อมติดตั้งเต้ารับเฉพาะสำหรับใช้ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า หรือถ้าเป็นไปได้ควรติดตั้งเครื่อง Wallbox EV Charger (เครื่อง Mode 3) ที่รับกระแสไฟได้ 16-32A สามารถชาร์จได้รวดเร็ว เต็มประสิทธิภาพ และมีระบบตัดไฟเมื่อชาร์จเต็ม และระบบป้องกันไฟเกินและความร้อนสูง ให้ความปลอดภัยต่อบ้าน ระบบไฟ และอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ เสียหาย

ส่วนใหญ่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) มักมาพร้อมสายชาร์จแถม (สาย Mode 2) ซึ่งเหมาะกับการใช้งานฉุกเฉิน แบบระยะสั้นๆ แค่ชาร์จให้แบตเตอรี่พอมีประจุ เพื่อให้สามารถขับต่อกลับบ้านหรือไปยังสถานีชาร์จที่ใกล้ที่สุดเท่านั้น ไม่มีระบบใดๆ ในการป้องกันความเสียหายจากไฟฟ้า

 

3. ชาร์จนอกสถานที่หรือที่สถานีชาร์จได้หรือไม่?

ชาร์จนอกสถานที่หรือที่สถานีชาร์จได้หรือไม่?

ทำได้! เพราะปัจจุบันในประเทศไทยเริ่มมีการให้บริการชาร์จไฟรถบ้านสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ทั้งตามปั๊มน้ำมันและห้างสรรพสินค้า ให้เห็นมากขึ้น อาจจะไม่แพร่หลายถึงขนาดมีทุกๆ ที่ แต่ก็มีให้ใช้งานพอสมควรในกรุงเทพฯ เพียงแต่ระบบชาร์จส่วนใหญ่จะเป็นระบบชาร์จกระแสสลับ และไม่มีหัวชาร์จครบทุกรูปแบบ ทำให้รถบางยี่ห้ออาจจะชาร์จไม่ได้ เพราะแต่ละประเทศจะใช้มาตรฐานหัวชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่แตกต่างกัน

 

4.รถยนต์ไฟฟ้าชาร์จนานแค่ไหน?

รถยนต์ไฟฟ้าชาร์จนานแค่ไหน?

เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ของรถยนต์ EV แต่ละคันไม่เท่ากัน เนื่องจากมีขนาดความจุของแบตเตอรี่ที่ต่างกัน หากใช้สายชาร์จแถม (Mode 2) ก็จะใช้เวลาชาร์จนาน ชาร์จได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หากใช้ชาร์จรถไฮบริด (Hybrid) ที่มีแบตเตอรี่ขนาดเล็ก ความจุ 6 – 14 kW จะใช้เวลาประมาณ 3 – 7 ชั่วโมง และหากเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ แบตเตอรี่จะมีขนาดใหญ่ 60 – 90 kW ใช้เวลาชาร์จนานถึง 40 ชั่วโมง

ส่วนการติดตั้งเครื่อง Wallbox EV Charger (Mode 3) จะสามารถช่วยย่นระยะชาร์จเวลาได้มาก ตามประสิทธิภาพรถและรุ่นรถ โดยเครื่องชาร์จ สามารถชาร์จรถไฮบริด (Hybrid) จนเต็มได้ในเวลาเพียง 1-2 ชม. ส่วนรถพลังงานไฟฟ้าล้วน จะลดเวลาชาร์จจนเต็ม (จากสายแถม 40 ชม.) ให้เหลือเพียง 3-4 ชม. เท่านั้น

 

5. ราคาค่าไฟฟ้าที่ต้องจ่าย

หากหยิบยกค่าน้ำมันเชื้อเพลิงของรถยนต์สันดาปภายในมาเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ค่าชาร์จพลังงานด้านพลังงานของรถ EV จะประหยัดกว่าเติมน้ำมันเชื้อเพลิงถึง 3 เท่า!! โดยอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง จะอยู่ที่ 3 บาท/กิโลเมตร ส่วนค่าไฟในการชาร์จรถ EV จะอยู่ราวๆ 0.7 – 1 บาท/กิโลเมตร เท่านั้น แต่หากชาร์จตามสถานที่อื่นๆ ก็อาจจะมีเพิ่มค่าบริการอีกเล็กน้อย ตามแต่สถานที่

 

จาก 5 เรื่องน่ารู้ที่ได้เล่าไปข้างต้น คิดว่าพร้อมสำหรับการใช้รถยนต์ไฟฟ้าหรือไม่? อาจจะมีค่าใช้จ่ายสูงบ้าง แต่ก็เป็นระยะสั้นๆ ตอนซื้อรถ และช่วงติดตั้งเครื่องชาร์จ Wallbox EV Charger แต่ในระยะยาวนอกจากจะมีค่าซ่อมบำรุงและเชื้อเพลิงที่น้อยกว่าแล้ว ก็ยังดีต่อสิ่งแวดล้อมด้วย
ถ้าพร้อมใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถ EV แล้ว คันปัจจุบันของคุณสามารถขายต่อที่ Carsome ได้ทันที ลงทะเบียนขายรถได้ ที่นี่ รับการตรวจสภาพรถยนต์ ประเมินราคา แล้วรับซื้อครบจบในที่เดียว

Download Best WordPress Themes Free Download
Download Best WordPress Themes Free Download
Premium WordPress Themes Download
Free Download WordPress Themes
lynda course free download
download huawei firmware
Premium WordPress Themes Download
Facebook Instagram
  • เกี่ยวกับเรา
  • คำถามที่พบบ่อย
  • ติดต่อเรา
  • ข้อกำหนดการใช้งาน
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว

© 2559-2562 Carsome Thailand.