ไส้กรองอากาศในห้องโดยสารสำคัญอย่างไร

ในขณะที่โลกยังคงต่อสู้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 พวกเราส่วนใหญ่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงพื้นที่แออัด และ อยู่บ้านตลอดเวลาเว้นแต่เมื่อจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องออกไปข้างนอก นอกจากนี้เรายังต้องปฏิบัติตามการดำเนินชีวิตแบบปกติใหม่ หรือ New Normal นั่นคือการปฏิบัติอย่างเคร่งครัดในเรื่องสุขอนามัยที่ดี, การสวมหน้ากากอนามัยและการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) แต่เมื่อต้องเดินทางด้วยรถยนต์ เราจะทำอย่างไรได้บ้างเพื่อลดโอกาสในการล้มป่วย ติดตามต่อในบทความนี้เลย

คุณรู้หรือไม่ว่ารถทุกคันก็จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยด้วยเช่นกัน หน้ากากที่เราพูดถึงในกรณีนี้คือไส้กรองอากาศในห้องโดยสาร (Cabin Air Filter ) ซึ่งเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ศูนย์บริการตลาดหลังการขายของบ๊อช ประเทศมาเลเซีย (Bosch Automotive Aftermarket Malaysia :Bosch AA) ในการบรรยายสรุปผ่านสื่อออนไลน์ “ สวมหน้ากากให้รถของคุณ (Mask Up Your Car) ” ก็ได้สนับสนุนให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันแบบเดียวกันนี้ภายในรถยนต์ของเรา

ไส้กรองอากาศในห้องโดยสาร (Cabin Air Filter) คืออะไร

ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป

โดยทั่วไปแล้วมักจะถูกสับสนกับไส้กรองอากาศเครื่องยนต์ (Engine Air Filter) ไส้กรองอากาศในห้องโดยสารคือส่วนสำคัญอย่างยิ่งของรถยนต์ซึ่งกรองอากาศที่ไหลจากภายนอกรถเข้าสู่ห้องโดยสารของรถยนต์ผ่านระบบปรับอากาศ ซึ่งไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มคุณภาพอากาศที่คุณหายใจในรถ แต่ยังช่วยเพิ่มสุขอนามัยในรถไปพร้อม ๆ กันอีกด้วย

จากการศึกษา คุณภาพอากาศในรถยนต์สามารถก่อมลพิษได้มากกว่าอากาศภายนอกรถถึง 15 เท่า การนั่งอยู่ในรถท่ามกลางการจราจรก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศสูงสุดภายในรถเนื่องจากการปล่อยมลพิษจากยานพาหนะรอบข้างไหลเข้าสู่รถ โดยการศึกษาต่อจากนั้นของศูนย์บริการตลาดหลังการขายของบ๊อช (Bosch AA) ที่ถูกจัดขึ้นในเดือนเมษายนปีนี้รายงานว่าร้อยละ 96 ของผู้ขับขี่แสดงความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพอากาศในรถ ยิ่งไปกว่านั้นไอเสีย หรือ กลิ่นไม่พึงประสงค์ และ อากาศที่มีฝุ่นละอองในรถเป็นสองประสบการณ์ที่พบบ่อยที่สุด 64% และ 58% ของผู้ขับขี่สังเกตเห็นขณะขับรถ นี่เป็นตัวบ่งชี้ว่าผู้ขับขี่ส่วนใหญ่อาจมีไส้กรองอากาศในห้องโดยสารที่อุดตัน

ในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังนั่ง และภาพระยะใกล้

ทำไมจึงควรเปลี่ยนไส้กรองอากาศในห้องโดยสารเป็นประจำ

มลพิษ – มลพิษเป็นสาเหตุที่ถูกอ้างถึงบ่อยที่สุดในการเปลี่ยนไส้กรองอากาศในห้องโดยสาร ตัวกรองเหล่านี้เป็นสิ่งที่หยุดอากาศภายนอกของถนนไม่ให้เข้าสู่อากาศภายในรถของคุณ ตัวกรองจะปิดกั้นหมอกควันจำนวนมากและไอเสียสกปรกที่ยานพาหนะอื่นๆ ปล่อยออกมาบนท้องถนน ซึ่งการเปลี่ยนตัวกรองนี้เป็นประจำจะช่วยป้องกันไม่ให้มลพิษเหล่านี้เข้ามาในห้องโดยสารของรถ ในภาพอาจจะมี รถยนต์ และสถานที่กลางแจ้ง

เศษขยะ – แม้อาจดูเหมือนว่าไม่น่าเป็นไปได้ที่จะพบกิ่งไม้และใบไม้ภายในไส้กรองอากาศในห้องโดยสารของคุณเพราะเป็นวัตถุขนาดใหญ่ที่หลายคนคิดว่าจะไม่ถูกดูดเข้าไปในตัวกรอง อย่างไรก็ตามผู้ขับขี่จำนวนมากพบว่าอุปกรณ์กรองอากาศของพวกเขาอุดตันด้วยใบไม้, กิ่งไม้ และ เศษขยะจากธรรมชาติอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากรถจอดอยู่ในบริเวณที่มีต้นไม้หรือพุ่มไม้จำนวนมาก สิ่งเหล่านี้อาจมีผลอย่างมากต่อประสิทธิภาพของระบบอากาศของคุณ และ จำเป็นที่จะต้องกำจัดออก

สารก่อภูมิแพ้ – นอกจากมลพิษ และ เศษขยะแล้ว ไส้กรองอากาศในห้องโดยสารยังช่วยลดจำนวนสารก่อภูมิแพ้ที่จะเข้าไปในรถของคุณได้อีกด้วย ละอองเกสรสามารถเข้าไปในรถของคุณได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องใช้แผ่นกรองอากาศ และ เมื่อไม่ได้เปลี่ยนไส้กรองอากาศบ่อย ๆ ลองนึกภาพปริมาณละอองเกสรในห้องโดยสารรถของคุณสิ!

สารก่อภูมิแพ้ที่สร้างขึ้นในไส้กรองอากาศในห้องโดยสารของคุณนั้นพบได้บ่อยในหลายรัฐที่มีฤดูเกสรจำนวนมากโดยเฉพาะพื้นที่ที่มีพืชมีดอกจำนวนมาก อย่างไรก็ตามไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดสิ่งสำคัญคือต้องเปลี่ยนตัวกรองอากาศเพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องรับมือกับสารก่อภูมิแพ้ใด ๆ ที่เข้ามาในรถของคุณ

ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป, ผู้คนกำลังนั่ง และภาพระยะใกล้

ประสิทธิภาพที่ลดลง – เมื่อไส้กรองอากาศในห้องโดยสารของคุณอุดตันเครื่องปรับอากาศของคุณจะต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อดันอากาศเย็นให้ผ่านตัวกรอง ซึ่งอาจส่งผลให้ระบบปรับอากาศมีเสียงดังหรือไม่มีประสิทธิภาพ นี่อาจเป็นปัญหาอย่างมากในมาเลเซียเนื่องจากอากาศร้อน และ มีแดดจัดอยู่เสมอ หากตัวกรองอากาศของคุณเต็มไปด้วยเศษขยะ และ สิ่งสกปรก ซึ่งจะต้องใช้เวลาที่นานขึ้นกว่าที่ห้องโดยสารจะเย็นลง ยิ่งไปกว่านั้นไส้กรองอากาศที่อุดตันยังส่งผลต่อประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงของคุณเนื่องจากเครื่องยนต์ของคุณจะต้องทำงานหนักเป็นพิเศษเพื่อเพิ่มพลังให้แก่ระบบ!

ผลิตภัณฑ์ไส้กรองอากาศในห้องโดยสารบ๊อช (Bosch Cabin Filter) รุ่น Bosch Aeristo Premium

ไส้กรองอากาศในห้องโดยสารทั่วไปจะกรองสิ่งปนเปื้อนและสิ่งสกปรกที่ไม่ต้องการออกไปเช่นฝุ่น,สิ่งสกปรก,ควัน,สปอร์ของเชื้อราและขนของสัตว์เลี้ยง รวมถึงคุณสมบัติในการต้านเชื้อแบคทีเรีย และ ไวรัสที่สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการสัมผัสกับมลพิษในอากาศ,แบคทีเรียและ ไวรัสอีกด้วย

นอกจากนี้ยังผลิตด้วยวัสดุที่มีประจุไฟฟ้าสถิต ซึ่งขจัดอนุภาคละเอียดและพิษทางอากาศที่มีขนาดเล็กถึง 2.5 ไมครอน มีประสิทธิภาพในการกรองของฟิลเตอร์ PM2.5 ซึ่งสามารถกรองอนุภาคอากาศละเอียดได้ 98 เปอร์เซ็นต์ที่ 2.5 ไมครอน นอกจากนี้ไส้กรองภายในห้องโดยสารรุ่นนี้ยังติดตั้งชั้นถ่านกัมมันต์ (Activated Carbon) ที่ดูดซับและปรับสภาพกลิ่นไม่พึงประสงค์ รวมถึงก๊าซที่เป็นอันตราย เช่น หมอกควัน, ท่อไอเสียรถยนต์ หรือ โอโซนอีกด้วย และยังมีชั้นป้องกันภูมิแพ้ที่มีคุณสมบัติต้านเชื้อราเพื่อกรองสารก่อภูมิแพ้ทั่วไปในอากาศ รวมทั้งป้องกันการเติบโตของเห็ดราและเชื้อราบนไส้กรองภายในห้องโดยสาร

สรุปว่า หากคุณจำไม่ได้ว่าครั้งสุดท้ายที่เปลี่ยนไส้กรองภายในห้องโดยสารคือเมื่อไหร่ คุณควรรีบตรวจสอบให้เร็วที่สุด ไส้กรองอากาศภายในห้องโดยสารควรถูกเปลี่ยนทุกปี หรือทุก ๆ 15,000 กม. แล้วแต่อย่างใดจะถึงก่อน พวกเราชาว Carsome ขอแนะนำให้สิ่งนี้เป็นหนึ่งในสิ่งที่คุณควรให้ความสำคัญในครั้งต่อไปที่คุณนำรถเข้ารับบริการ #CarsomeCares.