ห้ามพลาด! 3 ซูเปอร์คาร์รุ่นโด่งดังที่สุดของ Lamborghini

Lamborghini

Lamborghini แบรนด์รถสปอร์ตชื่อดังที่ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในรถสปอร์ตที่ดีที่สุดในโลก ด้วยพละกำลังความแรงของรถสปอร์ตแลมโบกินี่ ดีไซน์เท่ดุดันตามสไตล์กระทิงดุ และราคาที่สูงแตะหลักสิบล้านบาท บ่งบอกถึงสไตล์ของคนขับได้เป็นอย่างดี ทำให้แลมโบกินี่กลายเป็นสปอร์ตคาร์สุดหรูที่คนกระเป๋าหนาทั้งหลายหมายปอง

แลมโบกินี่ สปอร์ตคาร์สายเลือดอิตาเลียนที่มีสัญลักษณ์เป็นรูปกระทิงซึ่งเป็นสัญลักษณ์ราศีเกิดของ Ferruccio Lamborghini ผู้ก่อตั้งแบรนด์นั่นเอง ส่วนชื่อของสปอร์ตคาร์แต่ละรุ่นได้แรงบันดาลใจมาจากชื่อของกระทิงตัวแกร่งที่เข้าร่วมสังเวียนในศึกต่อสู้กระทิงที่ประเทศสเปน หากคุณกำลังสนใจสปอร์ตคาร์แบรนด์นี้ มาเริ่มบทเรียนแรกด้วยการทำความรู้จักกับยานยนต์ 3 รุ่นที่ฮอตที่สุดของแลมโบกินี่กัน

Lamborghini Gallardo

Lamborghini Gallardo

แลมโบกินี่ กัลลาร์โดเป็นรถรุ่นที่มียอดจำหน่ายสูงที่สุดของแลมโบกินี่ ตลอดหนึ่งทศวรรษที่โลดแล่นอยูในวงการสามารถทำยอดขายได้ถึง 14,022 คัน แลมโบกินี่ ชื่อรุ่นของรถถูกนำมาจากชื่อของกระทิงที่มีชื่อเสียงจากศึกต่อสู้กระทิงในสเปน กัลลาร์โดเริ่มอวดโฉมครั้งแรกเมื่อปีค.ศ. 2003 ทางแลมโบกินี่ได้ประกาศยกเลิกการผลิตรถรุ่นนี้ในปีค.ศ. 2013 แลมโบกินี่ กัลลาร์โดเป็นรถ 2 ประตู 2 ที่นั่ง วางเครื่องยนต์กลางลำท้าย ขับเคลื่อนสี่ล้อ (M4) และขับเคลื่อนสองล้อ (RMR) ใช้เครื่องยนต์ V10 ที่ถูกพัฒนามาจากเครื่องยนต์ V8 ของ Audi ถึงแม้จะเลิกผลิตไปแล้ว 4 ปี แต่สปอร์ตคาร์รุ่นนี้ก็ยังคงเป็นรุ่นยอดนิยมในปัจจุบัน

Lamborghini Aventador

Lamborghini Aventador

แลมโบกินี่ อเวนทาดอร์ สปอร์ตคาร์สมรรถนะสูง วางเครื่องยนต์กลางลำหลัง ขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD) 2 ประตู 2 ที่นั่ง เครื่องยนต์ V12 โดยรถรุ่นนี้สร้างขึ้นมาทดแทนลัมโบกินี่รุ่น Murciélago แน่นอนว่าตามธรรมเนียมของแลมโบกินี่ ชื่อรุ่นของรถได้มาจากกระทิงที่ชนะเลิศในการต่อสู้เมื่อปีค.ศ. 1993 ราวกับจะมาบอกว่านี่คือแชมป์สปอร์ตคาร์ตัวจริงเสียงจริง นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในงานเจนีวามอเตอร์โชว์ปีค.ศ. 2011 แลมโบกินี่ อเวนทาดอร์ก็เป็นที่กล่าวขานถึงหน้าตาที่เท่ดุดันและขุมพละกำลังที่แรงไม่แพ้ใคร โดยมีอัตราเร่ว 0-100 ในเวลาเพียง 2.9 วินาทีเท่านั้น

แลมโบกินี่ อเวนทาดอร์ได้รับการยกย่องให้เป็น ‘สปอร์ตคาร์ที่ดีที่สุดเท่าที่แลมโบกินี่เคยมีมา’ และยังชนะเลิศรางวัล ‘ซูเปอร์คาร์แห่งปี 2011’

Lamborghini Huracán

Lamborghini Huracán

แลมโบกินี่ ฮูราแคน เป็นสปอร์ตคาร์รุ่นที่มาแทนที่แลมโบกินี่ กัลลาร์โด ซึ่งก็เปิดตัวได้อย่างสวยงามด้วยการคว้ารางวัล Supercar of The Year 2014 ไปครอบครองในปีแรกที่เปิดตัว โดยแลมโบกินี่ ฮูราแคนเป็นรถ 2 ประตูซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบคูเป้และแบบสไปเดอร์หรือแบบเปิดประทุน เครื่องยนต์วางกลางลำท้าย ขับเคลื่อน 4 ล้อ (M4) และขับเคลื่อน 2 ล้อ (RMR) ระบบกียร์ดูโอคลัช 7 จังหวะ ใช้เครื่องยนต์ 5.2 ลิตรชนิด V10 602 แรงม้า จุดเด่นของแลมโบกินี่ ฮูราแคนอยู่ที่การออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ขั้นสูง ใช้โครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา และเครื่องยนต์สมรรถนะสูง มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เหมือนใคร ผสานนักขับกับรถให้เป็นหนึ่งเดียวกันแบบที่คุณคาดไม่ถึง

Credit by Nasry iPrice

 

เกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับแลมโบ

รถแลมโบกินี่ (Lamborghini) ถือว่าเป็น Super car ในฝันของใครหลาย ๆ คน ด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีความดุดันโฉบเฉี่ยว เทคโนโลยีของแลมโบกินี่ที่มีสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยมและการตกแต่งภายในรถที่แฝงไปด้วยความล้ำสมัย จึงทำให้รถแลมโบกินี่ได้รับความนิยมอยู่มาอย่างต่อเนื่อง

ประวัติความเป็นมาของรถแลมโบกินี่ถูกก่อตั้งในปี 1963 ต่อจากนั้นจึงถูกซื้อไปโดย Audi ในปี 1998 และถือว่าเป็นบริษัทในเครือ Volkswagen ซึ่งผู้ก่อตั้งบริษัทรถแลมโบกินี่ คือ เฟร์รุชชิโอ แลมโบกินี่ โดยที่ตัวเขาเองนั้นเกิดในราศีพฤษจึงทำให้ตราสัญลักษณ์กระทิงดุกลายเป็นรุ่นรถของแลมโบกินี่ทุกรุ่นอีกด้วย

นอกจากนี้โดยเริ่มแรกของการก่อตั้งบริษัทนั้น แลมโบกินี่ยังเป็นผู้ผลิตรถไถมาก่อนและในปัจจุบันก็ยังมีแผนกรถไถที่ชื่อว่า Lamborghini Trattori หรือ Lamborghini Tractors โดยทีมออกแบบนั้นเคยมีผลงานในแลมโบกินี่กัลลาร์โด (Lamborghini Gallardo) ที่เป็นผลงานชิ้นเยี่ยมของแลมโบกินี่อีกด้วย

สำหรับการดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของแลมโบกินี่ การตัดเย็บเบาะและแผงคอนโซลต่าง ๆ เป็นฝีมือของช่างตัดเย็บหญิงเท่านั้น ผู้ชายจะไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานในส่วนนี้ นอกจากเรื่องการดีไซน์ที่แลมโบกินีจะมีความพิถีพิถันเป็นพิเศษ เรื่องของการขับขี่ทางแลมโบกินี่ได้มีศูนย์ฝึกการขับขี่ในฤดูหนาว โดยมีการสอนเทคนิคการขับขี่บนพื้นน้ำแข็งและหิมะ ซึ่งมีไม่กี่ที่บนโลกเท่านั้นด้วย

ผู้ที่ชื่นชอบแลมโบกินี่สีแดง อาจจะต้องจ่ายเงินเพิ่มในส่วนของการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนสีตัวถัง ก้ามเบรก หรือส่วนอื่น ๆ เพราะว่าสีแดงนั้นเป็นสีที่เป็นสัญลักษณ์ของคู่แข่งอย่าง Ferrari นั่นเอง ส่วนใครที่เป็นแฟนประตูปีกนกนั้นอาจจะต้องมองหาแลมโบกินี่รุ่น V 12 เพราะประตูนี้ถูกสงวนไว้ให้รุ่น V12 โดยเฉพาะค่ะ

   

สรุป

ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านมานานหลายปีแต่ Supercar กระทิงดุอย่าง Lamboghini ก็ยังได้รับความสนใจมาตลอดเวลาและดูเหมือนว่ามูลค่าจะไม่ตกเลยอีกด้วย และถึงจะมีวิฤกฤติอย่าง Covid เข้าทำ disrupt เศรษฐกิจให้ซบเซา แต่ปรากฏว่ารถสปอร์ต Supercar อย่างแลมโบกินี่กลับมียอดขายที่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์ที่ทางบริษัทให้ความสำคัญในการเปลี่ยนแปลงและตอบโจทย์กลุ่มแฟน Lamborghini ตลอดมาจึงไม่เป็นที่แปลกใจเท่าไหร่ว่าทำไมถึงได้ครองใจผู้คนมาอย่างเหนียวแน่น และเร็ว ๆ นี้ก็ดูเหมือนว่าจะมีการออกรุ่นพิเศษออกมาด้วย สำหรับใครที่เป็นแฟน Supercar อย่างกระทิงดุก็อย่าลืมอัปเดตข่าวด้วยนะคะ