เคล็ดลับดูแลรักษารถยนต์ขั้นพื้นฐาน

เคล็ดลับดูแลรักษารถยนต์ขั้นพื้นฐาน

กันไว้ย่อมดีกว่าแก้ คุณรู้หรือไม่ว่าวลีนี้มีความสำคัญต่อรถของคุณอย่างไร เพื่อที่จะเพิ่มอายุการใช้งาน และ สมรรถนะรถของคุณ คุณควรบำรุงรักษา และ ดูแลรถของคุณอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนซึ่งอาจเป็นอันตราย และ มีค่าใช้จ่ายสูงอีกด้วย

มีหลากหลายวิธีในการทำลายรถที่ดีพร้อมอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งวิธีหนึ่งที่พบบ่อยที่สุดคือการละเลยการบำรุงรักษาขั้นพื้นฐาน การขับรถด้วยหัวเทียนเดิมนานเกินไป, การลืมเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง และ การทำหูทวนลมต่อเสียงเบรก หรือ เสียงที่ดังขึ้นอย่างลึกลับซึ่งนั่นอาจหมายถึงการทำลายรถของคุณให้มีอายุการใช้งานที่สั้นลง

เพื่อให้คุณสามารถปฏิบัติตามตารางการบำรุงรักษารถได้ง่ายขึ้น เราได้จัดทำรายการตรวจสอบการซ่อมบำรุงขั้นพื้นฐานเพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานรถของคุณ

การตรวจสภาพรถในระยะสั้น

ระดับน้ำมัน และ น้ำหล่อเย็น

ก่อนการเดินทางครั้งใดควรตรวจดูใต้ฝากระโปรงรถของคุณเสมอเพื่อตรวจสอบระดับน้ำมัน และ น้ำหล่อเย็นในขณะที่เครื่องยนต์ดับ หากของเหลวเหล่านี้อยู่ในระดับต่ำอาจนำไปสู่ความเสียหายอย่างมากต่อเครื่องยนต์ของคุณหรือความเสียหายที่ไม่ควรเกิดขึ้นระหว่างทาง

ไส้กรองอากาศ

หน้าที่ของไส้กรองอากาศคือการควบคุมการไหลเวียนของอากาศที่เข้าสู่เครื่องยนต์ของคุณ และ ป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกเข้ามาในรถของคุณ คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าตัวกรองอากาศของคุณทำงานอย่างถูกต้อง ซึ่งคุณจะสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง, ลดการปล่อยมลพิษ และ ช่วยให้เครื่องยนต์มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น สิ่งนี้สามารถทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน ดังนั้นอย่าลืมตรวจสอบคำแนะนำในคู่มือสำหรับเจ้าของรถ และ ความถี่ที่ต้องเปลี่ยนไส้กรอง

ความดันลมยาง

ตัวเลขที่ระบุไว้บนยางคือจำนวนความดันสูงสุดที่ยางสามารถบรรจุได้ หากเกินขีดความสามารถนี้อาจทำให้ยางระเบิดได้ ในทางตรงกันข้ามแรงดันลมยางที่ต่ำอาจทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิง และ ยางจะร้อนขึ้น

การสลับยาง

รูปแบบดอกยางบนยางของคุณอาจแตกต่างกันไประหว่างยางหน้า และ ยางหลังหรือแม้กระทั่งจากด้านหนึ่งของดอกยางกับอีกด้านหนึ่งขึ้นอยู่กับตำแหน่งรถ, การใช้งาน และ ปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมาย การสลับยางจะช่วยยืดอายุการใช้งานโดยการปรับสมดุลการสึกหรอของดอกยาง และ ช่วยป้องกันปัญหาการสั่นสะเทือน

ไฟรถยนต์

มันเป็นสิ่งสำคัญที่ไฟบนรถของคุณจะทำงานได้อย่างปกติ แต่บ่อยครั้งสิ่งนี้อาจถูกมองข้ามได้ง่าย ลองขอความช่วยเหลือจากบุคคลอื่นเพื่อดำเนินการตรวจสอบให้เสร็จสิ้น โดยให้คุณนั่งในรถ และ เปิดไฟ รวมถึงสัญญาณทั้งหมด แล้วถามเขาหรือเธอว่าไฟสามารถทำงานอย่างปกติหรือไม่ คุณยังสามารถจอดรถไว้ด้านหน้าพื้นผิวที่เรียบเพื่อตรวจสอบว่าไฟหน้าทั้งสองทำงานอย่างถูกต้องหรือไม่ และ อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมหรือไม่

น้ำมันเครื่อง

น้ำมันเครื่องในเครื่องยนต์ของคุณทำงานในรูปแบบต่างๆ นั่นคือหล่อลื่นชิ้นส่วนที่ใช้เคลื่อนไหว, ช่วยทำหน้าที่ชะล้างเศษสิ่งสกปรก,ทำให้เครื่องยนต์เย็นลง, ลดการสึกหรอ และ ช่วยป้องกันการกัดกร่อนของเครื่องยนต์ ซึ่งนี่ขึ้นอยู่กับรถของคุณ และ ประเภทของน้ำมันที่คุณใช้อยู่ คุณอาจต้องเปลี่ยนทั้งน้ำมัน และ ไส้กรองทุกๆ 3 เดือนหรือ 10,000 กม.

การตรวจสภาพรถในระยะยาว

หัวเทียน – หัวเทียนในรถของคุณใช้ในการจุดประกายไฟระหว่างแก๊ส และ ส่วนผสมของอากาศที่เพิ่มพลังให้กับรถของคุณนั่นเอง หากหัวเทียนทำงานอย่างไม่ถูกต้องเครื่องยนต์ของคุณอาจทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ คุณควรตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพื่อเปลี่ยนหัวเทียนที่ทำงานอย่างผิดปกติ เมื่อคุณรู้สึกว่าเครื่องยนต์ของคุณทำงานอย่างไม่ถูกต้อง

สายพานเซอร์เพนไทน์ – ชิ้นส่วนยางที่ดูเรียบง่ายนี้มีความสำคัญในการทำงานของรถคุณ โดยการเปิดเครื่องอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ เช่น ไดชาร์จ, ปั๊มพวงมาลัยเพาเวอร์ และ คอมเพรสเซอร์เครื่องปรับอากาศ คุณควรตรวจสอบสายพานด้วยสายตาเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีรอยแตก หรือ การสึกหรออื่น ๆ อย่าลืมเปลี่ยนตามคำแนะนำของผู้ผลิตรถยนต์ของคุณ

ชุดเฟืองท้ายด้านหน้า และ ด้านหลัง – ชุดเฟืองท้าย คือ อุปกรณ์ที่แยกแรงบิดจากเครื่องยนต์ และ ส่งกำลังไปยังยางรถยนต์ เช่นเดียวกับชิ้นส่วนต่างๆในรถของคุณ ชุดเฟืองท้ายเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการหล่อลื่นอยู่เสมอเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถใช้งานได้ คุณควรตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน และ เปลี่ยนของเหลวทุกครั้งที่จำเป็น

โช๊ค และ สตรัท – การทำงานของโช๊ค และ สตรัทรถของคุณเพื่อควบคุมแรงกระแทกของลูกระนาด และ หลุมบนถนนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับระบบบังคับเลี้ยวอัตโนมัติของคุณ สิ่งเหล่านี้ควรได้รับการตรวจสอบโดยมืออาชีพทุกๆ 100,000 กม. หรือ เมื่อคุณสังเกตเห็นความนุ่มนวลที่ลดลง หรือ สูญเสียการควบคุมขณะขับขี่

น้ำมันเกียร์ – เช่นเดียวกับน้ำมันเครื่องของคุณ ของเหลวชนิดนี้เป็นน้ำมันหล่อลื่นที่ช่วยให้ชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวทั้งหมดภายในระบบเกียร์ทำงานได้อย่างถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นเกียร์ธรรมดา หรือ อัตโนมัติ สิ่งสำคัญคือต้องได้รับการตรวจสอบ และ เปลี่ยนของเหลวนี้ทุกครั้งที่จำเป็นเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่รุนแรงบนท้องถนน

น้ำมันกระปุกเกียร์ – กระปุกเกียร์ คือ สิ่งที่เปลี่ยนกำลังจากเกียร์ไปยังเพลา คุณควรจะตรวจสอบน้ำมันกระปุกเกียร์ตามคำแนะนำของผู้ผลิตรถยนต์เพื่อให้แน่ใจว่ามีการเติมอย่างถูกต้อง และ ไม่มีการรั่วไหล สิ่งนี้จะทำให้คุณต้องเข้าไปตรวจสอบใต้ท้องรถดังนั้นเราจึงขอแนะนำให้คุณมอบให้กับมืออาชีพเป็นผู้ตรวจสอบ

น้ำยาหล่อเย็น – หม้อน้ำในรถของคุณเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยให้เครื่องยนต์ของคุณเย็น และ ทำงานได้อย่างถูกต้อง การล้างระบบน้ำหล่อเย็นเป็นประจำจะช่วยกำจัดสิ่งปนเปื้อนที่สามารถสะสมอยู่ภายใน และ ทำให้หม้อน้ำของคุณอยู่ในระดับที่เหมาะสม

การตรวจสภาพรถเป็นครั้งคราว

การเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝน – เราขอแนะนำให้คุณเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝนทุกๆ 6-12 เดือน ที่ปัดน้ำฝนทำจากยางซึ่งย่อยสลายได้ และ มีประสิทธิภาพลดลงเมื่อเวลาผ่านไป คุณควรสร้างนิสัยในการตรวจสอบที่ปัดน้ำฝนเป็นประจำ และ รู้ว่าสัญญาณใดที่ควรระวังเมื่อเริ่มเสื่อมสภาพ สัญญาณบางอย่าง ได้แก่ ชิ้นส่วนยางที่สึกหลอ, แยก, แตกหัก, ที่ปัดน้ำฝนที่แสดงคราบบนกระจกหน้า, กรอบที่งอ และ เสียงแปลก ๆ เมื่อลากผ่านกระจก

การตรวจสอบประสิทธิภาพแบตเตอรี่ – แบตเตอรี่รถยนต์ของคุณเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดสำหรับการทำงานของรถคุณ แบตเตอรี่รถยนต์จ่ายกระแสไฟฟ้าจำนวนมากสำหรับสตาร์ทเครื่องยนต์ และ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ในรถยนต์ อุณหภูมิที่สูงมากส่งผลต่อประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ดังนั้นการทดสอบแบตเตอรี่เป็นประจำจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าแบตเตอรี่จะสามารถทำงานได้เมื่อคุณต้องการ

ในตอนนี้คุณก็ได้รู้เคล็ดลับการซ่อมบำรุงพื้นฐานเพื่อรักษาประสิทธิภาพของรถแล้ว เราขอแนะนำให้คุณทำตามคำแนะนำเหล่านี้! นอกเหนือจากนี้หากคุณสนใจที่จะขายรถมือสองของคุณอย่าลืมตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมจาก Carsome 

Carsome เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายรถยนต์มือสองออนไลน์ในประเทศไทย รถยนต์ทุกคันจาก Carsome ผ่านการตรวจสอบสภาพรถยนต์ทั้ง 175 จุด และ ได้รับการรับรองจาก Carsome