สิ่งที่คุณควรรู้ก่อนเลือกฟิล์มกรองแสงสำหรับรถของคุณ

แม้ว่ารถยนต์จะปกป้องคุณจากสิ่งต่าง ๆ รอบตัว แต่คุณก็ยังคงต้องเผชิญกับอันตรายที่มองไม่เห็นจากแสงแดดระหว่างการเดินทาง ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ หรือ ออโต้ฟิล์ม (Auto Film) จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญ ไม่เพียงแค่ให้ความเป็นส่วนตัวสำหรับรถของคุณเท่านั้น แต่ยังเพื่อการปกป้องคุณจากรังสี UV ที่เป็นอันตรายอีกด้วย ฟิล์มกรองแสงรถยนต์นั้นมีให้เลือกมากมายในท้องตลาดซึ่งมีราคาและมาตรฐานที่หลากหลาย หากเป็นเช่นนี้เราจะเลือกฟิล์มกรองแสงรถยนต์ที่ “ใช่” ได้อย่างไร? บทความนี้ได้นำเสนอคำแนะนำจาก 3M เพื่อให้คุณทำความเข้าใจสิ่งสำคัญในการติดตั้งฟิล์มกรองแสงที่เหมาะสมสำหรับรถของคุณ

ก่อนอื่น เราต้องมาทำความเข้าใจสิ่งเหล่านี้ก่อน

ค่าการส่งผ่านของแสงธรรมชาติ (Visible Light Transmission, VLT) และ ค่าการป้องกันแสงแดด (Sun Protection Factor, SPF) คืออะไร

ระดับการส่องผ่านของแสงที่สามารถมองเห็นได้โดยปกติจะแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเทียบเท่ากับเปอร์เซ็นต์ของแสงที่สามารถมองเห็นได้ที่เข้าสู่หน้าต่างรถ ตัวอย่างเช่น ค่าการส่งผ่านของแสงธรรมชาติ (VLT) 30% จะสามารถกรองแสงที่มองเห็นได้ 70% และให้แสงส่องผ่านเพียง 30% ของ VLT เท่านั้น ยิ่งมีเปอร์เซ็นต์ที่ต่ำ ฟิล์มกรองแสงก็จะยิ่งทึบขึ้นด้วย ในทางกลับกัน ค่าการป้องกันแสงแดด (SPF) คือการวัดระยะเวลาที่ครีมกันแดดจะปกป้องผิวของคุณจากรังสีอัลตราไวโอเลตชนิด B หรือ UVB ซึ่งรังสี UVB มีแนวโน้มที่จะทำลายผิวหนังชั้นนอก หรือ Epidermis ซึ่งเป็นชั้นนอกของผิวหนังของเรานั่นเอง ซึ่งตัวอย่างด้านล่างนี้คือ 3 ระดับของ SPF ที่พบบ่อยที่สุดในครีมกันแดด:

  • SPF 15 ป้องกันรังสี UVBได้ 93%
  • SPF 30 ป้องกันรังสี UVB ได้ 97%
  • SPF 50 ป้องกันรังสี UVB ได้ 98%

* เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น SPF 30 หมายความว่าครีมกันแดดจะให้การปกป้องมากกว่าการไม่มีครีมกันแดดถึง 30 เท่า

 

ฟิล์มคุณภาพต่ำ และ ฟิล์มคุณภาพสูง

เครดิต: truckparadise.com

 

คุณเคยเห็นฟิล์มที่มีการเปลี่ยนสี, มีฟองอากาศ, บิดเบี้ยว หรือหลุดลอกหรือไม่? สิ่งเหล่านี้มักเกิดจากการติดตั้งฟิล์มกรองแสงที่มีคุณภาพต่ำ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดปัจจัยเสี่ยงข้างต้น นอกจากนี้ แม้ว่าราคาอาจเป็นส่วนหนึ่งของ
แบรนด์ที่มีชื่อเสียง แต่นั่นก็ไม่สามารถปกป้องคุณและภายในรถของคุณจากรังสียูวีที่เป็นอันตรายหรือแม้แต่ความร้อน อาจเป็นเพียงแค่เพื่อความสวยงามเท่านั้น ฟิล์มคุณภาพต่ำสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์เกือบทุกแห่ง แต่มักไม่มีคุณภาพ, อายุการใช้งานต่ำ, การป้องกันและความปลอดภัยต่ำ ราคาปกติสำหรับการติดตั้งฟิล์มกรองแสงที่มีคุณภาพจะอยู่ในช่วงตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นบาทสำหรับแบรนด์ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ที่ได้มาตรฐาน

 

คุณสมบัติในการป้องกันขั้นพื้นฐาน

ตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น การที่ผิวของคุณถูกแสงแดดอาจนำไปสู่ปัญหาผิวและในกรณีที่เลวร้ายที่สุดคือมะเร็งผิวหนัง และเพื่อป้องกันสิ่งนั้น สิ่งสำคัญคือต้องเลือกฟิล์มที่ให้การปกป้องที่คุณต้องการอย่างรอบคอบ ในการติดตั้งฟิล์มกรองแสง คุณภาพขั้นพื้นฐานจะต้องมีคุณสมบัติอย่างน้อยที่สุดในการป้องกันรังสียูวีและป้องกันความร้อน ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ที่มีมาตรฐานส่วนใหญ่สามารถป้องกันรังสี UV ได้ถึง 99%

 

เลือกแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ

บริษัท ต่าง ๆ สามารถอวดอ้างเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของตนได้ แต่คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าผลิตภัณฑ์ใดที่เชื่อถือได้? งานวิจัยสามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ลองค้นหาเอกสารเกี่ยวกับข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ทางออนไลน์เพื่อเป็นข้อมูลสนับสนุนหรือค้นหาแบรนด์ที่ได้รับการรับรองจากบุคคลที่สาม แบรนด์ต่าง ๆ เช่นฟิล์มติดรถยนต์ 3M ได้รับการแนะนำจากมูลนิธิมะเร็งผิวหนังของสหรัฐอเมริกาเนื่องจากมีค่าการป้องกันแสงแดด (SPF) สูงกว่าครีมกันแดดชั้นดีถึง
1,000 – 30 เท่า ระดับ SPF ที่มีค่าสูงของฟิล์มจะช่วยป้องกันอันตรายจากรังสี UV ของดวงอาทิตย์ ซึ่งรวมถึงผิวไหม้จากแสงแดด,ริ้วรอยก่อนวัย และ มะเร็งผิวหนัง ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ยังช่วยปกป้องการตกแต่งภายในรถของคุณจากการเปลี่ยนสีและแตกร้าวด้วยการป้องกันการแผ่รังสีของแสงยูวี

 

รักษาความเย็นและลดการใช้เชื้อเพลิง

สิ่งสำคัญคือคุณควรทราบว่าฟิล์มกรองแสงรถยนต์เพียงอย่างเดียวไม่สามารถปิดกั้นความร้อนจากภายในรถได้ทั้งหมด เนื่องจากส่วนอื่น ๆ ของรถก็สามารถดูดซับความร้อนได้ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามด้วยการสนับสนุนของฟิล์มกรองแสงรถยนต์คุณภาพดีนั้นสามารถปิดกั้นความร้อนได้อย่างมาก โดยขึ้นอยู่กับค่าสะท้อนพลังงานรวม หรือ Total Solar Energy Rejected (TSER)  ซึ่ง TSER เป็นคำที่คุณอาจเห็นได้บ่อยในโบรชัวร์ของฟิล์มกรองแสงรถยนต์ ซึ่งมีค่าเทียบเท่ากับความร้อนที่ฟิล์มสะท้อนออก ยิ่งตัวเลขมีค่าสูงขึ้น ความร้อนก็จะถูกสะท้อนออกมากขึ้น ซึ่งจะทำให้รถของคุณเย็นลงในอัตราที่เร็วขึ้นด้วย ดังนั้นจึงช่วยลดความจำเป็นในการเร่งเครื่องปรับอากาศของคุณและอาจลดการใช้เชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์บางรุ่นอีกด้วย

 

การป้องกันนิรภัย และ ความปลอดภัย

นอกจากการปกป้องผู้โดยสารในรถยนต์จากรังสียูวีที่เป็นอันตรายแล้ว ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ยังสามารถป้องกันไม่ให้หน้าต่างของคุณแตกเป็นเสี่ยง ๆ ในระหว่างที่เกิดการกระแทกอีกด้วย โดยฟิล์มนิรภัยสามารถยึดเศษกระจกที่แตกเข้าด้วยกันและป้องกันไม่ให้ปลิวกระจายในอากาศซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายแผ่เป็นวงกว้างเมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือการโจรกรรม ในมาเลเซียซึ่งมีการโจรกรรมบ่อยครั้ง ฟิล์มนิรภัย หรือ Security Films พิสูจน์แล้วว่ามีประโยชน์เนื่องจากทำให้การก่ออาชญากรรมเกิดขึ้นได้ยากและใช้เวลานานมากขึ้น อย่างไรก็ตามฟิล์มนิรภัยนั้นถูกออกแบบมาให้สามารถผ่านเข้าไปได้ในกรณีที่จำเป็นต้องดำเนินการให้ความช่วยเหลือ

 

การรับประกัน

นอกจากการดูรายละเอียดคุณลักษณะที่ฟิล์มกรองแสงรถยนต์มอบให้คุณแล้ว คุณควรตรวจสอบด้วยว่ามีการรับประกันด้วยหรือไม่ ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพส่วนใหญ่มักมาพร้อมกับการรับประกันจากผู้ผลิตซึ่งดำเนินการผ่านตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาต ซึ่งในกรณีที่ฟิล์มมีตำหนิหรือเริ่มลอกภายในระยะเวลารับประกันคุณควรจะสามารถเคลมได้ ด้วยเหตุนี้การซื้อฟิล์มกรองแสงรถยนต์จากตัวแทนจำหน่ายที่ถูกต้องตามกฎหมายจึงเป็นเรื่องสำคัญ เคล็ดลับคือไปที่เว็บไซต์ของแบรนด์เพื่อตรวจสอบรายชื่อตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตใกล้พื้นที่ของคุณ ทั้งนี้เพื่อให้แน่ใจว่าคุณยังคงอยู่ภายใต้การรับประกันที่มีอยู่แม้ว่าร้านค้านั้นจ้ะลิกดำเนินกิจการแล้วก็ตาม คุณควรเปรียบเทียบระยะเวลาและความครอบคลุมของการรับประกัน เนื่องจากบางยี่ห้อให้ระยะเวลาที่นานกว่าเพื่อให้คุ้มค่าในระยะยาว ด้วยเหตุนี้เราจึงขอแนะนำให้เลือกแบรนด์ที่เชื่อถือได้ซึ่งมีประวัติที่ดีในด้านคุณภาพการทำงานและบริการหลังการขาย

 

ฉันควรติดตั้งฟิล์มอาบไอโลหะหรือไม่?

ฟิล์มอาบไอโลหะ หรือ ฟิล์มเมทัลไลท์ (Metallised Films) เป็นฟิล์มติดรถยนต์ที่ได้รับความนิยมในตลาดเนื่องจากราคาไม่แพงและคุณภาพที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว นี่อาจฟังดูเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่ฟิล์มที่ทำด้วยโลหะมักมีปัญหาบางประการ เนื่องจากสารประกอบโลหะในฟิล์มฟิล์มเคลือบโลหะอาจรบกวนสัญญาณ GPS, สัญญาณโทรศัพท์มือถือ, แท็ก RFID และแม้แต่สัญญาณประตูอัตโนมัติของคุณ ปัญหาอื่น ๆ ของฟิล์มอาบไอโลหะคือการกัดกร่อน การกัดกร่อนเกิดขึ้นเมื่อโลหะสัมผัสกับน้ำและอากาศทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมี มีผลต่อลักษณะของฟิล์มและแม้กระทั่งประสิทธิภาพการปฏิเสธความร้อน ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไป โทนสีจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงหรือสีน้ำตาล ซึ่งส่งผลต่อการมองเห็นในที่สุด สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ควรพิจารณาหากคุณได้รับการแนะนำให้ใช้ฟิล์มอาบไอโลหะ

 

ฟิล์มที่ทึบกว่าไม่ได้หมายถึงการป้องกันความร้อนที่ดีกว่า

สิ่งแรกคือ ให้คุณตรวจสอบกฎระเบียบของการติดตั้งฟิล์มกรองแสงรถยนต์ในปัจจุบันก่อนนำไปใช้ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับหน่วยงานในพื้นที่ ซึ่งกฎข้อบังคับสำหรับการติดตั้งฟิล์มกรองแสงรถยนต์ในมาเลเซียในปัจจุบันคือ 70% VLT สำหรับกระจกหน้ารถ, 50% VLT สำหรับหน้าต่างด้านหน้า และ เปอร์เซ็นต์เท่าใดก็ได้ สำหรับกระจกหลัง อย่างไรก็ตาม ฟิล์มสีเข้มหรือทึบไม่จำเป็นต้องสะท้อนความร้อนได้ดีกว่าฟิล์มใสเสมอไป การสะท้อนความร้อนคำนวณจาก TSER ดังนั้นเมื่อต้องการเลือกฟิล์มเพื่อทำให้รถของคุณเย็นลง เราอยากให้คุณทราบว่าการติดตั้งฟิล์มที่ทึบมากกว่า ไม่ได้หมายความว่าจะช่วยลดความร้อนได้ดียิ่งขึ้น

การถกเถียงกันเรื่องฟิล์มกรองแสงรถยนต์ที่ดีที่สุดยังคงเป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล เนื่องจากทุกคนมีความชอบ, งบประมาณ และ ความต้องการที่แตกต่างกัน เราหวังว่าเคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยจำกัดตัวเลือกของคุณให้แคบลงและช่วยให้คุณได้ตัดสินใจเลือกฟิล์มกรองแสงรถยนต์ที่ใช่สำหรับความต้องการของคุณมากที่สุด!