ติดแบล็คลิสต์ เครดิตบูโร คืออะไร ติดแล้วยังออกรถได้ไหม

ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน รถยนต์จะกลายมาเป็นปัจจัยที่ 5 เพื่ออำนวยความสะดวกต่างๆ แต่ถ้าเรา ติดแบล็คลิสต์ เครดิตบูโร ก็อาจจะส่งผลต่อการกู้เงินซื้อรถหรือขอสินเชื่อในกรณีอื่นๆ เพราะถ้าหากเราขาดสภาพคล่องทางการเงิน เงื่อนไขในการขอสินเชื่อสำหรับคนที่เคยติดแบล็คลิสต์ก็อาจจะมากกว่าคนอื่นๆ เนื่องจากธนาคารหรือสถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อซื้อรถยนต์ก็ต่างต้องการความมั่นใจว่า เราจะสามารถในการผ่อนชำระค่างวดได้อย่างสม่ำเสมอ

อย่างไรก็ตาม ในยุคที่การจับจ่ายใช้สอยต่างๆ เป็นเรื่องง่าย ทำให้หลายคนประสบกับภาระการใช้จ่ายแต่ละเดือนที่มากจนหมุนเงินไม่ทัน ยิ่งถ้าติดหนี้บัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสดไว้หลายใบ ก็อาจส่งผลให้ต้องแบกรับภาระหนี้สินจำนวนมากอย่างไม่ทันตั้งตัว ก่อให้เกิดปัญหา การติดแบล็คลิสต์ (Blacklist) เนื่องจากมีพฤติกรรมผัดผ่อนหรือค้างชำระหนี้เกินกำหนด ด้วยเหตุนี้ เรื่องการติดแบล็คลิสต์เครดิตบูโรจึงใกล้ตัวพวกเรามากกว่าที่คิด วันนี้ CARSOME จึงพาไปรู้จักว่า แบล็คลิสต์ และ เครดิตบูโร คืออะไร ส่งผลต่อการออกรถทั้งรถใหม่ป้ายแดงและการซื้อรถมือสองอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย

ซื้อรถมือสอง กับ CARSOME การันตีคุณภาพรถยนต์ ผ่านการตรวจเช็กอย่างละเอียดถึง 175 จุดพร้อมปรับสภาพให้ได้มาตรฐาน รับประกันสูงสุด 2 ปีเต็ม ราคาโปร่งใส คุ้มค่า ซื้อไปแล้วไม่พอใจ การันตีคืนเงินภายใน 30 วัน

นึกถึง รถมือสอง ต้อง CARSOME

ติดแบล็คลิส ติดเครดิตบูโร อยากออกรถ ทำอย่างไร
ติดแบล็คลิสต์ ติดเครดิตบูโร คืออะไร ค้างชําระกี่เดือน ติดเครดิตบูโร เครดิตบูโร ติดกี่ปี ติดแบล็คลิสต์ แต่อยากออกรถ แก้ยังไง วิธีเช็คเครดิตบูโร ทำอย่างไร ถึงไม่เคย ติดแบล็คลิสต์ ก็มีโอกาสไม่ผ่าน

ติดแบล็คลิสต์ ติดเครดิตบูโร คืออะไร

เวลาที่เราขอสินเชื่อต่างๆ รวมถึงใช้บัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสด จะมีหน่วยงานกลางอย่าง บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือ เครดิตบูโร (National Credit Bureau) เข้ามาทำหน้าที่ดูแล ข้อมูลเครดิต ของเรา ซึ่งเวลาที่เรายื่นขออนุมัติสินเชื่อแต่ละครั้ง ทางสถาบันการเงินที่เราสมัครจะแจ้งขอความยินยอมในการตรวจสอบรายงานข้อมูลเครดิต เพื่อนำข้อมูลมาประกอบการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อนั่นเอง

บทบาทหน้าที่ของเครดิตบูโร

จะที่กล่าวข้างต้น จะเห็นได้ว่า ทางเครดิตบูโรจะไม่มีหน้าที่ติด “แบล็คลิสต์” ให้สถานะบัญชีของผู้ใด แต่เป็นเพียงผู้เก็บบันทึกข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับการขอสินเชื่อของเราไว้ในฐานระบบบูโรแห่งชาติว่า เรามีพฤติกรรมการชำระหนี้อย่างไรและกำลังมีสินเชื่อกับสถาบันการเงินใดไว้บ้างเพียงเท่านั้น 

ดังนั้น การที่บุคคลจะมีสถานะที่เรียกว่า ติดแบล็คลิสต์ แท้จริงแล้วไม่ใช่การติดแบล็คลิสต์กับทางเครดิตบูโรหรือที่เรียกติดปากทั่วไปว่า ติดเครดิตบูโร แต่เป็น การติดแบล็คลิสต์กับสถาบันการเงินที่ยื่นขออนุมัติสินเชื่อ  เนื่องจากมีประวัติการชำระหนี้ที่ล่าช้า ไม่เป็นไปตามปกติตามเกณฑ์การพิจารณาของสถาบันการเงินนั้นๆ ส่งผลให้การขอสินเชื่อของบุคคลดังกล่าวไม่ได้รับอนุมัติ เนื่องจากผู้ขอสินเชื่อขาดความน่าเชื่อถือ และมีโอกาสสูงที่จะไม่ได้เงินกู้คืนหลังปล่อยสินเชื่อนั่นเอง

ค้างชําระกี่เดือน ติดเครดิตบูโร

ปกติแล้ว ผู้ที่ติดแบล็คลิสต์ตามประวัติเครดิตบูโรจะเป็นผู้ที่ค้างชำระหนี้หรือชำระล่าช้านานกว่าระยะเวลาที่กำหนด  โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 60-90 วันตามเกณฑ์ที่แตกต่างกันของแต่ละสถาบันการเงิน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร)

เครดิตบูโร ติดกี่ปี

ตามปกติแล้ว ทางเครดิตบูโรมีการเก็บประวัติย้อนหลังเป็นเวลา 36 เดือนหรือ 3 ปีจากงวดล่าสุด โดยรายงานเครดิตบูโรจะบันทึกตั้งแต่งวดแรกที่ผิดชำระ และจะแสดงผลว่า ‘ค้างชำระ’ ไปเรื่อยๆ โดยมีกำหนดวันพ่วงเข้ามาด้วย และจะเพิ่มจำนวนวันขึ้นเรื่อยๆ หากยังไม่มีการชำระหนี้เข้ามา ทั้งนี้สำหรับระยะเวลาในการรับพิจารณา อาจรวมกับประวัติการขอสินเชื่อหรือประวัติชำระครั้งอื่น ๆ ที่เป็นข้อมูลภายในของแต่ละสถาบันการเงิน เงื่อนไขแต่ละสถาบันการเงินเป็นผู้สงวนสิทธิ์ในการรับพิจารณา

ติดแบล็คลิสต์ แต่อยากออกรถ แก้ยังไง

อย่างที่กล่าวไปว่า ทางเครดิตบูโรจะแสดงผลว่า ‘ค้างชำระ’ ไปเรื่อยๆ ตามระยะเวลาที่ผิดนัดชำระ ดังนั้น ก่อนที่จะขอสินเชื่อเพื่อออกรถ เราควรพยายาม สะสางหนี้ที่มีอยู่ให้หมดก่อน เพื่อให้มีการหักลบหนี้ก้อนที่เก่า และรอให้เกิดการบันทึกประวัติใหม่นานครบ 3 ปี เพื่อให้ประวัติเครดิตของเรากลับมาน่าเชื่อถืออีกครั้ง หรือถ้ายังไม่มีเงินก้อนเพื่อปิดหนี้ที่มีอยู่ก็จำเป็นต้องแจ้งขอปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งการปรับโครงสร้างหนี้ก็สามารถทำได้หลากหลายวิธี แต่ละวิธีก็จะมีผลต่อการบันทึกประวัติในเครดิตบูโรแตกต่างกันไป และส่งผลให้โอกาสที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อแตกต่างกันไปด้วย ดังนี้ ทางออกที่ดีที่สุดในกรณีนี้ก็คือ พยายาม ปลดล็อคแบล็คลิสต์เครดิตบูโร ด้วยการชำระหนี้ให้ครบถ้วนก่อนจะเริ่มขอสินเชื่อรถยนต์เพิ่มนั่นเอง

วิธีกู้ซื้อรถได้ง่ายขึ้นเมื่อเคย ติดแบล็คลิสต์

หลังจากที่ปิดหนี้เดิมเรียบร้อย บางคนอาจจะมีความจำเป็นต้องใช้รถในขณะที่ประวัติเครดิตเดิมยังคงอยู่ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลเรื่องความสะดวกสบายส่วนตัวหรือใช้งานสำหรับธุรกิจก็ตามแต่ ถึงอย่างนั้น รายชื่อผู้ติดแบล็คลิสต์ ที่ยังไม่อัปเดทก็ส่งผลให้ผู้ที่เคยติดแบล็คลิสต์จะต้องรับเงื่อนไขเพิ่มเติม หรือมองหาวิธีการขอสินเชื่อรถยนต์ที่จะช่วยให้สินเชื่อที่ยื่นขอไปได้รับการอนุมัติง่ายขึ้น ดังต่อไปนี้

1. วางเงินดาวน์ให้สูงขึ้น

จากที่ผู้ขอสินเชื่อคนอื่นอาจจะต้องดาวน์แค่เพียง 5% – 10% ผู้ที่เคยติดแบล็คลิสต์อาจจะต้องวางเงินดาวน์อย่างน้อย 25-30% ของราคารถยนต์ เพื่อลดยอดจัดสินเชื่อ และทำให้ค่างวดรถต่อเดือนลดลงด้วย

2. หาผู้ค้ำประกันที่มีเครดิตดี

ผู้ขอสินเชื่อที่เคยมีประวัติติดแบล็คลิสต์จำเป็นต้องมีผู้ค้ำประกันที่มาช่วยรับรองว่า หากมีการค้างชำระค่างวดรถเกิดขึ้น จะมีผู้รับผิดชอบภาระหนี้แทนให้ได้ โดยผู้ค้ำประกันจะต้องมีประวัติเครดิตที่ดี และอาจจะต้องเป็นเจ้าบ้าน หรือเป็นผู้ที่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ที่ดิน อาคาร หรือบ้านพักอาศัย และมีที่มาของรายได้ชัดเจน เป็นต้น

3. แสดงความมั่นคงทางการเงิน

หากผู้ขอสินเชื่อเริ่มมีอาชีพหน้าที่การงานมั่นคง และมีรายได้ที่สูงเกินครึ่งของค่างวดรถที่ต้องผ่อนชำระ โอกาสที่สินเชื่อจะได้รับการอนุมัติก็สูงขึ้น เพราะนับว่า เป็นผู้มีรายได้มากพอที่จะชำระหนี้ต่องวดได้ โดยมีหลักฐานการทำงานที่สามารถตรวจสอบได้ เช่น หนังสือรับรองเงินเดือนหรือสลิปเงินเดือน, รายการเดินบัญชี หรือ Statement จากสถาบันการเงินย้อนหลัง 6 เดือน เป็นต้น

4. พิจารณารถมือสองจาก CARSOME

เพราะนอกจากราคาของรถมือสองที่ช่วยให้ประหยัดงบประมาณไปค่อนข้างมากแล้ว ที่ปรึกษาการขายจาก CARSOME ยินดีจะให้คำปรึกษาทุกเรื่องเกี่ยวกับรถมือสอง รวมไปถึงการบริการทางด้านสินเชื่อรถมือสอง พร้อมช่วยจัดการด้านเอกสารและการดำเนินการต่างๆ เพื่อให้คุณได้เป็นเจ้าของรถในฝันได้ในที่สุด

นึกถึง รถมือสอง ต้อง CARSOME

วิธีเช็คเครดิตบูโร ทำอย่างไร

ขอขอบคุณข้อมูลจาก บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร)

สำหรับใครที่วางแผนจะขอสินเชื่อรถยนต์หรือสินเชื่ออื่นๆ สามารถ เช็คแบล็คลิสต์ หรือ เช็คเครดิตบูโร ของตนเองได้ด้วยวิธีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปรับรายงานด้วยตัวเองที่สาขา หรือจะ เช็คเครดิตบูโรออนไลน์ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายก็สามารถทำได้ผ่านวิธีตรวจสอบแบล็คลิสต์ดังต่อไปนี้

1. ติดต่อรับบริการศูนย์ตรวจเครดิตบูโร

ศูนย์ตรวจเครดิตบูโรมีหลากหลายจุดในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทั้งที่ให้บริการแบบรอรับได้เลยภายใน 15 นาที พร้อมค่าบริการ 100 บาท, เครดิตบูโรคาเฟ่ และ Bureau Lab (บูโรแล็บ) รวมถึงบริการตู้ตรวจเครดิตบูโรด้วยตนเอง (ตู้คีออส) ที่ผู้ขอประวัติสามารถรับรายงานทางอีเมลได้ทันที โดยสามารถตรวจสอบจุดให้บริการต่างๆ ได้ที่เว็บไซต์ของ National Credit Bureau นั่นเอง

2. ขอเครดิตบูโรออนไลน์

สำหรับในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด สามารถขอรายงานรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (NCB e-Credit Report) ทางอีเมลผ่าน Mobile Banking หรือ Mobile App ของธนาคารต่างๆ ที่ร่วมให้บริการฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย โดยเราจะต้องมีบัญชีกับธนาคารที่ต้องการใช้บริการ และข้อมูลประวัติเครดิตของเราจะถูกส่งมายังอีเมล์ที่ลงทะเบียนไว้กับทางธนาคารนั่นเอง

3. เคาน์เตอร์ธนาคารต่างๆ

นอกจากนั้น ผู้ที่อยู่ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดยังสามารถติดต่อเคาน์เตอร์ธนาคารที่ให้บริการ หรือทำรายการผ่านตู้ ATM กรุงไทยหรือไทยพาณิชย์ที่มีบัตร ATM อยู่ โดยรายงานประวัติเครดิตบูโรที่ยื่นขอจะส่งให้ทางไปรษณีย์ลงทะเบียนภายใน 7 วันทำการ และมีค่าบริการ 150 บาท

4. ที่ทำการไปรษณีย์

นอกจากบริการจากธนาคารต่างๆ แล้ว ผู้ที่ต้องการเช็คเครดิตบูโรของตนเอง สามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่ที่ทำการไปรษณีย์ไทยและเคาน์เตอร์บริการไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศด้วย

ถึงไม่เคย ติดแบล็คลิสต์ ก็มีโอกาสไม่ผ่าน

ถึงแม้ว่าจะไม่เคยมีประวัติติดแบล็คลิสต์เครดิตบูโร ก็อาจจะมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลให้การขอสินเชื่อรถยนต์ไม่ผ่าน ไม่ว่าจะเป็นการยื่นเอกสารที่ไม่ครบถ้วนหรือเป็นเท็จ, คุณสมบัติบางอย่าง เช่น อายุ, ระยะเวลาทำงาน ฯลฯ ที่ไม่ผ่านหรือไม่ตรงกับเงื่อนไขของไฟแนนซ์และลีสซิ่งแต่ละแห่ง รวมถึงผู้ค้ำประกันหรือหลักทรัพย์ค้ำประกันมีคุณสมบัติไม่น่าเชื่อถือเพียงพอ 

นอกจากนั้น ผู้ที่กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีความทั้งแพ่งและอาญา ไม่ว่ารูปคดีจะอยู่ในระหว่างรอพิพากษา, ระหว่างพิพากษา รวมไปถึงมีคำสั่งศาลหรือถูกสั่งให้ล้มละลาย ก็อาจจะไม่ได้รับอนุมัติการขอสินเชื่อเช่นกัน

จะเห็นได้ว่า การ ติดแบล็คลิสต์ เครดิตบูโรค่อนข้างส่งผลกับการขออนุมัติสินเชื่อรถยนต์ ด้วยเหตุนี้ สิ่งที่ดีที่สุดก็คือ การพยายามชำระสินเชื่อของตนเองให้ตรงต่อเวลา และวางแผนการเงินส่วนบุคคลของตนเองอย่างรอบคอบ แต่ถ้าเคยพลาดติดแบล็คลิสต์แต่มีความจำเป็นต้องใช้รถในชีวิตประจำวันแล้ว รถยนต์มือสองก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะ รถมือสองที่ได้รับการรับประกันคุณภาพจาก CARSOME ที่ช่วยให้คุณรับความคุ้มค่าได้มากขึ้น เพราะมีการรับประกันนานสูงสุด 2 ปีเต็มและการการันตีคืนเงินภายใน 30 วัน 

นอกจากนั้น รถทุกคันยังได้รับการตรวจเช็กอย่างละเอียดถึง 175 จุด พร้อมปรับสภาพให้ได้มาตรฐาน ทำให้คุณมั่นใจได้ว่า ได้รับรถที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่ง CARSOME พร้อมจะทางออกให้คุณได้เป็นเจ้าของรถในฝันได้ในราคาโปร่งใส คุ้มค่า และคอยเป็นกำลังใจให้การฟันฝ่าอุปสรรคด้านการเงินของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นได้ในที่สุด

หากคุณกำลังสนใจจะ ซื้อรถมือสอง หรือ ขายรถคันเดิม แล้วล่ะก็… ที่ CARSOME เสนอราคาให้คุณคุ้มค่าที่สุด! เรามีการดำเนินการที่มีมาตรฐาน โปร่งใส รวดเร็ว ให้คุณซื้อหรือขายรถได้อย่างสบายใจ คลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย!

อ่านบทความต่อ: การโอนรถ เปลี่ยนเจ้าของ ใช้เอกสารโอนรถ คิด ค่าโอนรถยนต์ อย่างไร หรือ สัญญาซื้อขายรถยนต์ คืออะไร มีข้อควรระวังอะไรก่อนทำสัญญาบ้าง