เจ้าของรถยนต์ทุกคนนอกจากจะต้องดูแลรถยนต์แล้ว การ ต่ออายุภาษีรถยนต์ ก็เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรละเลยเช่นกัน เนื่องจากการต่อภาษีรถยนต์นั้นมีผลทางกฎหมาย อีกทั้งยังมีความเกี่ยวข้องในเรื่องของ พรบ. รถยนต์และประกันภัยต่าง ๆ ด้วย ซึ่งหากใครที่ยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องการต่อภาษีรถยนต์ว่ามีความสำคัญอย่างไร ก็สามารถศึกษาจากรายละเอียดที่เราได้รวบรวมมาให้ได้เลยค่ะ
ซื้อรถมือสอง กับ CARSOME การันตีคุณภาพรถยนต์ ผ่านการตรวจเช็กอย่างละเอียดถึง 175 จุดพร้อมปรับสภาพให้ได้มาตรฐาน รับประกันสูงสุด 2 ปีเต็ม ราคาโปร่งใส คุ้มค่า ซื้อไปแล้วไม่พอใจ การันตีคืนเงินภายใน 30 วัน
ต่ออายุภาษีรถยนต์ |
---|
ภาษีรถยนต์ คืออะไร?
ภาษีรถยนต์ คือ ป้ายกระดาษสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ที่หลาย ๆ คนอาจคุ้นเคยกันดี ซึ่งผู้ที่มีรถยนต์ทุกคนต้องจ่ายภาษีรถยนต์ตามที่กฎหมายบังคับ เมื่อถึงกำหนด ซึ่งภาษีรถยนต์ที่เราจ่ายไปในทุกปีทางหน่วยงานภาครัฐจะนำไปพัฒนาปรับปรุงถนน รวมไปถึงการคมนาคมภายในประเทศต่อไป ดังนั้นเจ้าของรถยนต์ทุกคนจะต้องทำการต่อภาษีรถยนต์หรือต่อทะเบียนรถยนต์ทุกปี หากไม่เช่นนั้นแล้วอาจจะต้องเสียค่าปรับอีกทั้งยังเสียเวลาในการดำเนินการ
โดยป้ายกระดาษนี้ยังมีความสำคัญร่วมกันกับทะเบียนรถยนต์ที่ติดอยู่ด้วย ซึ่งเปรียบเสมือนตัวแทนชื่อรถในการเดินทาง และหากในกรณีที่เกิดเหตุต่าง ๆ ก็สามารถทำการตรวจสอบได้ผ่านทางป้ายทะเบียนรถยนต์ หากเจ้าของรถยนต์นั้นขาดการต่อภาษีอาจจะต้องเสียค่าปรับอยู่ที่ 400-1,000 บาทอีกด้วย
ข้อสำคัญที่ควรรู้ก่อนทำการต่อภาษีรถยนต์
เพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดในการต่อภาษีรถยนต์ เจ้าของรถทุกคนควรทำการศึกษาถึงเงื่อนไขรายละเอียดในการเสียภาษีรถยนต์ให้ละเอียด โดยเงื่อนไขและรายละเอียดต่าง ๆ นั้นมีดังนี้ค่ะ
- การต่อภาษีรถยนต์ในแต่ละครั้งจะต้องทำการต่อในปีที่ภาษีกำลังจะหมดอายุ เพื่อให้คุณสามารถต่อภาษีรถยนต์ได้ก่อนวันที่จะหมดอายุล่วงหน้า 90 วัน (3 เดือน) เพื่อป็นการเวลาวางแผนสำหรับการจัดสรรงบประมาณเพื่อการต่อภาษีรถยนต์นั่นเอง
- ในกรณีที่คุณต่อภาษีรถยนต์ช้ากว่ากำหนด ไม่ว่าจะเป็น 1 วันขึ้นไป ทางกฎหมายมีการระบุว่าเป็นการขาดการต่อภาษีรถยนต์ โดยจะนับเวลาตั้งแต่ 1–3 ปี และต้องเสียค่าปรับร้อยละ 1 ต่อเดือน ซึ่งหมายความว่ายิ่งช้า ค่าปรับจะยิ่งเพิ่มนั่นเอง
- หากขาดการต่อภาษีรถยนต์มากกว่า 3 ปี ขึ้นไป จะถือว่าป้ายทะเบียนนั้นถูกยกเลิกไปโดยปริยาย ซึ่งหากต้องการต่อภาษีรถยนต์ใหม่ จะต้องนำป้ายทะเบียนเดิมไปคืนให้กับกรมการขนส่งทางบก พร้อมกับชำระค่าปรับจึงจะสามารถรับป้ายทะเบียนรถใหม่ได้
- ในการต่อทะเบียนรถทุกครั้ง สำหรับรถยนต์ที่มีอายุไม่ถึง 5 ปี ไม่จำเป็นต้องตรวจสภาพ แต่ถ้ามีอายุมากกว่า 5 ปีขึ้นไป จำเป็นต้องทำการตรวจสภาพรถยนต์ก่อนจึงจะต่ออายุภาษีรถยนต์ได้
- ที่สำคัญการต่อภาษีรถยนต์นั้นจำเป็นจะต้องทำการต่อ พรบ รถยนต์ หรือประกันภัยภาคบังคับก่อน จึงจะสามารถต่อภาษีรถยนต์ได้ค่ะ
การต่ออายุภาษีรถยนต์ต้องทำยังไง
สำหรับการต่ออายุภาษีรถยนต์นั้นก่อนอื่นควรมีการเตรียมความพร้อมด้านเอกสารให้เรียบร้อย เพื่อที่จะได้ไม่เสียเวลาในการหาเอกสารให้ยุ่งยาก ซึ่งการต่อภาษีรถยนต์จะต้องใช้เอกสารดังต่อไปนี้
- สมุดคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ (ตัวจริงหรือสำเนา)
- หนังสือรับรองการตรวจสภาพรถยนต์ (ตรอ.) (สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน หรือรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ที่มีอายุมากกว่า 7 ปีขึ้นไป หรือรถจักรยานยนต์ที่มีอายุมากกว่า 5 ปีขึ้นไป)
- พ.ร.บ. รถยนต์ ที่ยังไม่หมดอายุ
เมื่อเตรียมเอกสารครบเรียบร้อยแล้วก็สามารถยื่นชำระภาษีรถยนต์ได้ที่
- กรมการขนส่งทางบก
- สำนักงานขนส่งทั่วไทย ไม่ว่ารถยนต์คันนั้นจะจดป้ายทะเบียนไว้ที่จังหวัดใดก็ตาม ก็สามารถยื่นเอกสารเพื่อต่อภาษีได้ทุกพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีบริการชำระภาษีรถยนต์ให้เลือกเพิ่มอีก 2 แบบ ทั้งเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax) และตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ (Kiosk)
- ที่ทำการไปรษณีย์ จะมีค่าธรรมเนียมการชำระ 40 บาท โดยตัวป้ายสี่เหลี่ยมจะถูกส่งไปยังที่อยู่ที่เจ้าของรถระบุเอาไว้
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
- ห้างสรรพสินค้าที่เข้าร่วมโครงการ ‘ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี’ (Shop Thru for Tax) เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในช่วงสถานการณ์โควิด-19 โดยให้บริการอยู่ในบริเวณพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์
- เคาน์เตอร์เซอร์วิสทั่วประเทศ ต่อได้เฉพาะรถยนต์ที่อายุไม่เกิน 7 ปี และรถจักรยานยนต์ที่อายุไม่เกิน 5 ปี โดยตัวป้ายสี่เหลี่ยมจะส่งตามมาทีหลังตามชื่อที่อยู่ที่ระบุไว้ และมีค่าธรรมเนียมการให้บริการ 20 บาท ค่าจัดส่งเอกสารทางไปรษณีย์เพิ่มอีก 40 บาท
- แอปพลิเคชัน mPay และ TrueMoney Wallet
- เว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก https://eservice.dlt.go.th/ หรือแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax
หากใครต้องการที่จะต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ผ่านเว็บไซต์กรมขนส่งทางบกก็สามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ
ขั้นตอนการชำระภาษีรถยนต์ผ่านเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก
- เข้าไปที่เว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th (สำหรับผู้ที่ยื่นภาษีออนไลน์ครั้งแรก ต้องลงทะเบียนเพื่อเข้าใช้งานเว็บไซต์)
- เลือกเมนู “ยื่นชำระภาษีรถยนต์ประจำปี”
- กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับรถและยื่นชำระภาษี
- กรอกรายละเอียดหลักฐานการเอาประกันตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 หรือซื้อจากระบบ
- เลือกช่องทางชำระเงิน โดยสามารถเลือกชำระได้ผ่านการหักบัญชี, บัตรเครดิตหรือเดบิต, เคาน์เตอร์บริการต่าง ๆ หรือตู้ ATM ของธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ
- เมื่อชำระเงินเรียบร้อยแล้ว กรมการขนส่งทางบกจะส่งใบเสร็จรับเงิน พร้อมเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีทางไปรษณีย์
ขั้นตอนการชำระภาษีรถยนต์ผ่านแอพพลิเคชั่น DLT Vehicle Tax
- ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น DLT Vehicle Tax สำหรับผู้ที่ใช้งานครั้งแรก
- กรอกข้อมูลชื่อ-นามสกุล อีเมล เลขประจำตัวประชน และเบอร์โทรศัพท์ แล้วกดปุ่ม “กดเพื่อรับรหัส OTP”
- กรอกรหัส OTP ที่ได้รับจากอีเมล แล้วกดยืนยัน
- ตั้งรหัส PIN 6 หลัก
- เมื่อลงทะเบียนเสร็จแล้ว กดเมนู “ชำระภาษีรถ”
- เลือกรูปแบบชำระภาษี
- กรอกข้อมูลหมายเลขบัตรประชาชน หรือ เลขทะเบียนนิติบุคคลผู้ครอบครองรถ
- เลือกประเภทรถที่ต้องชำระภาษี และกรอกข้อมูลทะเบียนรถ
- กรอกข้อมูลประกันภัยรถ (พ.ร.บ.)
- เลือกรับเครื่องหมายการเสียภาษีรถประจำปีทางไปรษณีย์ทั่วไปหรือตู้ kiosk เฉพาะในกรุงเทพมหานคร
- เลือกช่องทางการชำระเงินได้ 2 ช่องทาง ได้แก่ SCB Easy App และ QR ชำระเงิน
สำหรับข้อมูลทั้งหมดนี้ก็ถือว่าเป็นขั้นตอนการต่อภาษีรถยนต์ที่มีทั้งแบบออฟไลน์ (การยื่นด้วยตนเอง) และช่องทางออนไลน์ที่สะดวก รวดเร็ว อีกทั้งประหยัดเวลา ซึ่งการยื่นเสียภาษีรถยนต์ควรทำให้เรียบร้อยก่อนหมดเวลา ไม่เช่นนั้นแล้วอาจจะเสียค่าปรับบานปลายตามมาภายหลังได้ค่ะ และหลีกเลี่ยงความยุ่งยากของการต่อ พรบ รถยนต์และประกันรถยนต์ด้วย
หากคุณกำลังสนใจจะ ซื้อรถมือสอง หรือ ขายรถคันเดิม แล้วล่ะก็… ที่ CARSOME เสนอราคาให้คุณคุ้มค่าที่สุด! เรามีการดำเนินการที่มีมาตรฐาน โปร่งใส รวดเร็ว ให้คุณซื้อหรือขายรถได้อย่างสบายใจ คลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย!
อ่านบทความต่อ: 26 รถยนต์ไฟฟ้า พร้อมราคารถไฟฟ้า ที่มีขายในไทย หรือ อบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์ 2566 ต่อใบขับขี่ ผ่านเว็บ DLT e-Learning