หลังจากพา HAVAL H6 เปิดตัวไปเมื่อกลางปีที่แล้วในรุ่น HEV วันนี้ GWM ก็กลับมาประกาศความยิ่งใหญ่ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอีกครั้งเมื่อ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV ที่เพิ่งเปิดตัวล่าสุดมียอดจองถึง 3,067 คันภายในเวลาเพียง 24 ชั่วโมงทั้งที่ยังไม่มีการเปิดเผยราคามาก่อน โดย 2023 Haval H6 PHEV มีจุดเด่นอยู่ที่ความเป็นรถ PHEV หรือรถปลั๊กอินไฮบริดที่ สามารถขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% ได้ไกลถึง 201 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ทำให้โดดเด่นกว่ารุ่นที่เคยเปิดตัวก่อนๆ
วันนี้ CARSOME จึงจะพาไปดูรีวิวกันว่า รุ่น PHEV 2023 คันนี้จะเป็นอย่างไร พิเศษกว่ารุ่น HEV ขนาดไหน และเมื่อเปรียบเทียบระหว่าง PHEV กับ HEV แล้ว รุ่นไหนคุ้มค่าน่าซื้อมากกว่ากัน ไปดูกันเลย
ซื้อรถยนต์มือสอง กับ CARSOME การันตีคุณภาพรถยนต์ ผ่านการตรวจสภาพ 175 จุด พร้อมรับประกันสูงสุด 2 ปีเต็ม ราคาคงที่ ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง ซื้อไปแล้วไม่พอใจ การันตีคืนเงินเต็มจำนวนภายใน 30 วัน
นึกถึง รถยนต์มือสอง ต้อง CARSOME
HAVAL H6 Plug-in Hybrid เปิดราคาพร้อมรีวิว
-
ฮาวาล เอช 6 ราคาทุกรุ่น
-
ฮาวาล เอช 6 Review รุ่น Plug-in Hybrid
-
ฮาวาล เอช 6 ภายนอก : PHEV ต่างจาก HEV อย่างไร
-
ฮาวาล เอช 6 ภายใน : PHEV ต่างจาก HEV อย่างไร
-
ฮาวาล เอช 6 รีวิวปัญหา HEV จากผู้ใช้จริง
-
สรุปแล้ว ฮาวาล เอช 6 ดีไหม
HAVAL H6 PHEV ราคาไทย และราคารุ่นอื่นๆ
ล่าสุดก็ทาง GWM ก็ได้ เปิดราคา HAVAL H6 PHEV ออกมาอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อ 7 ตุลาคม 2022 โดยกำหนดไว้ก็อยู่ที่ 1,699,000 บาทพร้อมข้อเสนอพิเศษ ULTRA Deal สำหรับลูกค้าที่สั่งจองก่อน โดยไม่ผิดจากที่คอรถ EV เคยคาดการณ์กันว่า ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 1,5xx,000 – 1,6xx,000 บาท ในขณะที่ทาง GWM ก็ตั้งราคาเปิดตัว HEV อยู่ที่ 1,149,000 บาทในรุ่น Pro และ 1,249,000 บาทในรุ่น Ultra เช่นกัน
ราคา ฮาวาล เอช 6 จาก Great Wall Motor
รุ่น | ราคา |
HEV Pro | 1,149,000 บาท |
HEV Ultra | 1,249,000 บาท |
PHEV | 1,699,000 บาท* |
*อัปเดทราคาอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา
HAVAL H6 PHEV ขายเมื่อไหร่
หลังจากที่ Great Wall Motor (Thailand) ได้เผยโฉม Haval H6 PHEV พร้อมเปิดจองสิทธิ์ร่วมกับข้อเสนอพิเศษ ULTRA Deal รวมมูลค่ากว่า 350,000 บาทตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา ถึงวันที่ 7 ตุลาคม 2565 เวลา 18:00 น ก็กวาดยอดจองสิทธิ์ผ่านทางออนไลน์ไปได้มากถึง 3,067 คันภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง โดยล่าสุดมียอดจองยอดจองกว่า 7,000 คันแล้ว
แน่นอนว่า Great Wall Motor ก็ยังได้นำเสนอสิทธิ์และโปรโมชั่นเพื่อตอบรับความเชื่อมั่นและความไว้วางใจที่ผู้บริโภคชาวไทยมีต่อแบรนด์ HAVAL โดยผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนทดลองขับ ฮาวาล เฮช 6 ปลั๊กอิน ไฮบริด ได้ที่ GWM Partner Store ทั่วประเทศ (ในเฟสแรก) ตามสาขาที่ท่านได้ทำการจองรถไว้ทั้งในเขตกรุงเทพและปริมณฑลตั้งแต่วันที่ 8 –16 ตุลาคม 2022 และต่างจังหวัดตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม 2022 ถึง 7 พฤศจิกายน 2022 ขณะที่ผู้ที่สั่งจองรถตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ตุลาคม 2022 จะได้รับ สิทธิ์ PREMIERE DEAL มูลค่ากว่า 167,000 บาท ดังต่อไปนี้
- ดอกเบี้ยพิเศษ 1.89% นาน 48 เดือน เมื่อดาวน์ 25% มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท
- ฟรี! ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เป็นระยะเวลา 1 ปี มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท
- ฟรี! GWM โฮมชาร์จเจอร์พร้อมติดตั้งในระยะสายไฟยาวไม่เกิน 20 เมตร 1 ครั้ง มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 60,000 บาท
- ฟรี! น้ำมันรถยนต์ มูลค่ารวมสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท
- ฟรี! ค่าอะไหล่และค่าแรงบำรุงรักษาตามระยะทาง สูงสุด 10 ครั้ง ภายใน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร GWM Pro Service Inclusive – GPSI มูลค่า 37,000 บาท
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Roadside Assistance) ตลอด 24 ชั่วโมง ฟรี 5 ปี มูลค่า 10,000 บาท*
- ฟรี! เลือกรับบริการรับ (Pickup Service) หรือบริการส่ง (Delivery Service) รถยนต์เพื่อเข้ารับบริการบำรุงรักษาตามระยะทาง หรือบริการบำรุงรักษาตามระยะทางนอกสถานที่ (GWM mobile service) จำนวน 2 ครั้ง รวมมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 1,500 บาท*
- การรับประกันคุณภาพรถใหม่ ครอบคลุมระยะเวลา 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร*
- การรับประกันแบตเตอรี่ Plug-in Hybrid เป็นระยะเวลา 8 ปี หรือ ระยะทาง 180,000 กิโลเมตร*
- ฟรี! กรอบป้ายทะเบียนและพรม GWM มูลค่ารวม 2,050 บาท
- รับ GWM point 15,000 คะแนน เพื่อแลกของสมนาคุณและบริการต่างๆ บน GWM Application
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลและอ่านรายละเอียดเพิ่มเกี่ยวกับแคมเปญ PREMIERE DEAL เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ GWM.CO.TH หรือ GWM Application หรือ Official Facebook Page : GWM Thailand และ HAVAL Thailand
นึกถึง รถยนต์มือสอง ต้อง CARSOME
HAVAL H6 Review รุ่น Plug-in Hybrid
สำหรับ ฮาวาล เอช 6 PHEV (Plug-in Hybrid) เป็นรถ SUV พลังงานไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊กรุ่นใหม่ล่าสุดที่ทาง GWM พัฒนามาจาก HEV เดิม โดยยังคงวางพื้นฐานจาก GWM Lemon Platform ที่เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้รถ EV ทุกรุ่นของ GWM โดยมีจุดเด่นอยู่ที่โครงสร้างตัวถังมีความต้านทานแรงบิดและความแข็งแรงโดยใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงสูง High-strength steel ในการทำตัวโครงสร้างมากกว่า 70% และเหล็กความแข็งแรงสูงที่ 2000 MPa ผสานกับการออกแบบที่สามารถดูดซับแรงกระแทกแบบรอบทิศทาง พร้อมกับจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำซึ่งช่วยเสริมประสิทธิภาพการควบคุมรถให้ดียิ่งขึ้น ทำให้มีขนาดและรูปร่างหน้าตาคล้ายคลึงกับรุ่นเดิม
อย่างไรก็ตาม ฮาวาล เอช 6 Plug-in Hybrid มีฟังก์ชั่นบางส่วนเพิ่มเติมจาก H6 Hybrid SUV ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟฟ้า EV ที่เป็นจุดขายสำคัญของ PHEV ตัวนี้เนื่องจาก ระยะทางขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนของ Plug-in Hybrid สามารถทำได้สูงสุดถึง 201 กิโลเมตรต่อหนึ่งการชาร์จ ตามมาตรฐาน NEDC ซึ่งนับว่า สูงที่สุดเมื่อเทียบกับรถปลั๊กอินไฮบริดที่วางจำหน่ายในไทยปัจจุบัน โดยสังเกตความแตกต่างได้ตรงช่องสำหรับชาร์จไฟบริเวณเหนือซุ้มล้อหลังด้านขวาที่รองรับทั้งการชาร์จปกติด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC ผ่านหัวชาร์จ Type 2 ใช้เวลา 6 ชั่วโมง และการชาร์จเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC ผ่านหัวชาร์จ CCS Combo ใช้เวลา 35 นาที
ในส่วนของระบบเครื่องยนต์ PHEV ยังมีความแตกต่างจาก HEV ไม่มากนัก โดยนอกจากระบบขับขี่แบบ EV ที่เพิ่มขึ้นมาพร้อม แบตเตอรี่ Lithium Ternary ขนาด 34 kWh ตัวชูโรงสำคัญที่ช่วยรุ่น PHEV มีกำลังรวมสูงสุดเพิ่มขึ้นแล้ว ระบบเครื่องยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงก็ยังคงเป็นระบบเดียวกับ HEV คือ DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบเบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตรพร้อมเทอร์โบแปรผัน VGT ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าและระบบเกียร์ DHT ซึ่ง GWM ประกาศว่า เป็นหนึ่งในระบบเครื่องยนต์ที่ดีที่สุดของ GWM อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการประกาศ Eco Sticker ของ PHEV แต่อัตราสิ้นเปลืองอาจจะใกล้เคียงกับ HEV ประมาณ 19.2 กม./ลิตรอ้างอิงตาม Eco Sticker
นอกจากนั้น ยังมีจุดตกแต่งอื่นๆ ที่แตกต่างกัน เช่น กระจังหน้าแบบ Star Matrix และ ไฟตัดหมอก LED ที่ถูกย้ายตำแหน่ง รวมไปถึง ยางขนาด 235/55 R19 ที่มาพร้อมล้ออัลลอยด์ 19 นิ้วเท่ากับตัว Hybrid รุ่น Ultra นั่นเอง
จุดที่ฮาวาล เฮช 6 รุ่น PHEV ต่างจาก HEV ทั้ง Ultra และ Pro
จุดที่แตกต่าง | รุ่น Plug-in Hybrid | รุ่น Hybrid Ultra | รุ่น Hybrid Pro |
ขนาดตัวถัง (ยาว x กว้าง x สูง/ มม.) | 4,683 x 1,886 x 1,724 | 4,653 x 1,886 x 1,724 | 4,653 x 1,886 x 1,724 |
ความสูงใต้ท้องรถ | 170 มม. | 175 | 175 |
ความจุถังน้ำมัน | 55 ลิตร | 61 | 61 |
หัวชาร์จไฟ | CCS Type2 Combo บริเวณเหนือซุ้มล้อหลังด้านขวา | ไม่มี | ไม่มี |
ดีไซน์หน้ารถ | Star Matrix | Classic Geometric Pattern | Classic Geometric Pattern |
กระจังหน้า | สีโครเมียม | สีโครเมียม | สีดำ |
ไฟตัดหมอก LED | มี (เปลี่ยนตำแหน่ง) | มี | ไม่มี |
ไฟเบรคดวงที่สาม | มี | ไม่มี | ไม่มี |
ระบบเครื่องยนต์ | 1.5 Turbo Hybrid กำลังรวมสูงสุด 240 kW (326 แรงม้า) แรงบิด 530 นิวตันเมตร | 1.5 Turbo Hybrid กำลังรวมสูงสุด 179 kW (243 แรงม้า) แรงบิด 530 นิวตันเมตร | 1.5 Turbo Hybrid กำลังรวมสูงสุด 179 kW (243 แรงม้า) แรงบิด 530 นิวตันเมตร |
แบตเตอรี่ | Lithium Ternary 34kWh | Lithium-ion 1.69 kWh | Lithium-ion 1.69 kWh |
ระบบเกียร์ | DHT+ระบบ EV+ระบบ Hybrid | DHT+ระบบ Hybrid | DHT+ระบบ Hybrid |
โหมดการขับขี่ | 8 โหมด (โหมด Hybrid 4 โหมด และโหมดไฟฟ้า 4 โหมด) | โหมด Hybrid 4 โหมด | โหมด Hybrid 4 โหมด |
ล้อ | ล้ออัลลอยด์ 19 นิ้ว | ล้ออัลลอยด์ 19 นิ้ว | ล้ออัลลอยด์ 18 นิ้ว |
ยาง | 235/55 R19 | 225/55 R19 | 225/60 R18 |
หลังคาซันรูฟแบบ Panoramic | มี | มี | ไม่มี |
ระบบ Hand-free ประตูท้าย | มี | ไม่มี | ไม่มี |
สีห้องโดยสารภายใน | Two-Tone ดำ-เทา | Two-Tone ดำ-เทา | ดำล้วน |
อุปกรณ์ตกแต่ง | สีโรสโกลด์ | สีโรสโกลด์ | สีเงิน |
หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกด้านหน้า | มี | มี | ไม่มี |
เบาะคนขับปรับได้ 6 ทิศทาง พร้อมดันหลังไฟฟ้า | มี | มี | ไม่มี |
เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับได้ 4 ทิศทาง | มีปุ่มปรับตำแหน่งด้านคนขับ | มีปุ่มปรับตำแหน่งด้านคนขับ | ไม่มีปุ่มปรับตำแหน่งด้านคนขับ |
ระบบระบายอากาศเบาะหน้า | มี | มี | ไม่มี |
ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย | มี | มี | ไม่มี |
ระบบปรับอากาศแยกซ้าย-ขวาอัตโนมัติพร้อม CN95 Filter | มีระบบ Ionizer | มีระบบ Ionizer | ไม่มีระบบ Ionizer |
หน้าจอเครื่องเสียงแบบสัมผัสขนาด 12″ นิ้ว | มี | มี | ไม่มี |
HAVAL H6 ภายนอก : PHEV ต่างจาก HEV อย่างไร
ทั้ง H6 Plug-in Hybrid และ H6 Hybrid มีลักษณะตัวถังภายนอกที่ใกล้เคียงกัน โดย PHEV มีความยาวของตัวถังมากกว่าเพียง 30 มม. พร้อมการดีไซน์หน้ารถแบบ Star Matrix ที่ดูล้ำสมัยด้วยกระจังหน้าโครเมียมไล่ระดับช่องระบายอากาศอย่างมีมิติ พร้อมกับลวดลายกราฟิกแถบริ้วเรียวยาวรับกับโคมไฟหน้า ส่วนบริเวณด้านล่างมีลักษณะเป็นตะแกรงรังผึ้งสีดำ ขณะที่ชายล่างของกันชนหน้าก็ตกแต่งด้วยแถบโครเมียมและเป็นส่วนของพลาสติกกันกระแทกสีดำเพิ่มภาพลักษณ์ความแข็งแรง แตกต่างจากหน้าของรุ่น Hybrid ที่เป็นดีไซน์แบบ Classic Geometric Pattern พร้อมกระจังหน้าสีโครเมียมและสีดำ รับกับกันชนหน้าดีไซน์สปอร์ตพร้อมด้วยแถบกันกระแทกพลาสติกสีดำที่ชายล่าง
ฮาวาล เอช 6 ทุกรุ่นมีให้เลือกทั้งหมด 5 สีคือ ดำ, เทา, ขาว, น้ำเงิน และแดง โดยมาพร้อมอุปกรณ์ภายนอกที่ครบครันทั้งระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะที่ให้ความสว่างแบบ Ultra-High Flow พร้อมระบบ LED Daytime Running Light, ราวหลังคาสีเงิน และประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้า โดยจะมีแค่ PHEV เท่านั้นที่มีระบบแฮนด์ฟรี ที่ใช้การเตะเท้าไปใต้กันชนหลังเพื่อเปิดหรือปิดประตูท้ายโดยอัตโนมัติ นอกจากนั้น ดีไซน์ท้ายรถยังโดดเด่นด้วยระบบไฟท้ายแบบ LED Light Strip รวมไปถึงสปอยเลอร์หลังคาดีไซน์สปอร์ตและเสาอากาศครีบฉลาม พร้อมกันชนหลังที่มีแถบเรืองแสงและไฟตัดหมอก LED ด้านหลัง โดย PHEV จะเป็นรุ่นเดียวที่มีไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED
สำหรับ ฮาวาล เอช 6 ปลั๊กอิน ไฮบริด ยังมาพร้อมกับหลังคากระจกพาโนรามิกซันรูฟขนาดใหญ่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมกระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยว และระบบพับอัตโนมัติเมื่อล็อกรถที่มีเฉพาะใน ฮาวาล เอช 6 ไฮบริด รุ่น Ultra เท่านั้น
HAVAL H6 ภายใน : PHEV ต่างจาก HEV อย่างไร
ออล นิว ฮาวาล เอช 6 Plug-in Hybrid SUV มีรูปแบบการตกแต่งห้องโดยสารเหมือน HEV รุ่น Ultra เกือบทั้งหมด โดยการตกแต่งห้องโดยสารภายในจะเป็นสี Two-Tone ดำ-เทา พร้อมอุปกรณ์ตกแต่งสีโรสโกลด์ มาพร้อมเบาะหนังสังเคราะห์นุ่มสบาย โดยเบาะคนขับสามารถปรับไฟฟ้า 6 ทิศทางและมีระบบดันหลังไฟฟ้า รวมถึงปุ่มปรับตำแหน่งเบาะผู้โดยสารด้านคนขับพร้อมระบบระบายอากาศที่ให้มาเพิ่มเติมต่างจากรุ่น Pro
สำหรับระบบความสะดวกสบาย ฮาวาล เอช 6 PHEV จะมีหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกด้านหน้าคู่กับหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ขนาด 10.25 นิ้ว พร้อมด้วยระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย รวมไปถึงระบบล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อถึงความเร็วที่กำหนด, ระบบสั่งการด้วยเสียง (Voice command) และระบบเบรกมือไฟฟ้าพร้อมฟังก์ชั่นหยุดอัตโนมัติขณะรถหยุดนิ่ง ทำงานควบคู่กับเกียร์แบบ Electronic Shifter สีพิเศษแบบ High Gloss ใช้วิธีการหมุนสำหรับเปลี่ยนเกียร์ และพวงมาลัยหุ้มหนังแบบมัลติฟังก์ชันพร้อมปุ่มกดเบรกมือไฟฟ้าและปุ่มฟังก์ชัน Auto Brake Hold ที่ช่วยให้การขับขี่สะดวกสบายยิ่งขึ้น
HAVAL H6 รีวิวปัญหา HEV จากผู้ใช้จริง
แน่นอนว่า ก่อนจะถอยรถคันที่เพิ่งออกใหม่ เราก็ต้องลองศึกษารถรุ่นก่อนจากค่ายเดียวกันว่า มี defect จากผู้ใช้จริงออกมาบ้าง ซึ่ง ฮาวาล เอช 6 รุ่น HEV ที่เคยออกมาสู่ท้องตลาดเมื่อปีที่แล้วก็เริ่มมีเสียงสะท้อนจากในกลุ่มบน Facebook และกระทู้ Pantip.com ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วงล่างที่นุ่มเกินไปจนทำให้มีเสียงโช็คกระแทกเวลาเร่งเครื่อง, ระบบซอฟท์แวร์ที่ยังติดขัดบ้าง รวมไปถึงจำนวนศูนย์บริการที่ยังมีน้อยและไม่ได้มีศูนย์ซ่อมในตัวทุกแห่งตามมาด้วยปัญหารออะไหล่นานเนื่องจากเหตุการณ์ประเทศจีนปิดประเทศก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ทาง Great Wall Motor ก็ลงมาติดตามแก้ปัญหาให้อย่างเต็มที่ ทำให้ PHEV ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างคงได้รับกระแสตอบรับอย่างท่วมท้นจากผู้ที่กำลังมองหารถ EV SUV ระดับ C-Segment ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นจัดเต็มคุ้มราคา
สรุปแล้ว ฮาวาล เอช 6 ดีไหม
เมื่อพิจารณาจากฟีเจอร์ที่ได้มาเทียบกับราคาแล้ว ออล นิว ฮาวาล เอช 6 รุ่นปลั๊กอิน ไฮบริด ก็ยังจัดว่าเป็นรถ Plug-in Hybrid SUV ที่ช่วยตอบโจทย์ผู้ขับขี่ยุคใหม่ด้วยดีไซน์ที่ล้ำสมัย อัดแน่นด้วยฟีเจอร์มากมาย พร้อมด้วยสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ยอดเยี่ยม HAVAL H6 จึงเหมาะกับผู้ที่กำลังมองหารถ EV สำหรับครอบครัวใหญ่ที่ช่วยประหยัดพลังงาน และตอบโจทย์เรื่องความสะดวกสบายสำหรับไลฟ์สไตล์การเดินทางที่หลากหลายนั่นเอง
หากคุณกำลังสนใจจะ ซื้อรถมือสอง หรือ ขายรถ แล้วล่ะก็… ที่ CARSOME เสนอราคาให้คุณได้คุ้มที่สุด! เรามีขั้นตอนการชำระเงินที่รวดเร็ว และไม่มีขั้นตอนยุ่งยากใด ๆ คลิกที่เว็บไซต์เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย!
อ่านบทความต่อ: Toyota Yaris ATIV 2022 รีวิวเจาะลึกสเปคและราคาทุกรุ่นย่อย หรือ NEW MG5 ราคา ล่าสุด พร้อมข้อมูล สี รุ่น ครบแล้วที่นี่