กล้องติดรถยนต์ หรือ กล้องหน้ารถ เป็นหนึ่งในสิ่งจำเป็นไปแล้วในทุกวันนี้ เพราะคุณอาจเจอกับอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันได้ ไม่ว่าจะขับในเมือง นอกเมือง รวมถึงขับขี่เที่ยวต่างจังหวัด การใช้กล้องติดรถยนต์จะช่วยให้คุณบันทึกภาพและวีดีโอเหตุการณ์ต่าง ๆ บนท้องถนนเอาไว้เพื่อใช้เป็นหลักฐานในยามจำเป็นได้นั่นเอง ในปี 2023 นี้ CARSOME ขอแนะนำ 5 อันดับ กล้องหน้ารถ รุ่นยอดนิยม คุณภาพดีเยี่ยมคุ้มราคาค่าตัวจากแบรนด์ดังยอดนิยมในประเทศไทย มาฝากเพื่อน ๆ ที่กำลังมองหากล้องติดรถยนต์ที่ภาพคมชัดสักตัวไปใช้ติดรถคันโปรดของทุกคนกัน
ซื้อรถยนต์มือสอง กับ CARSOME การันตีคุณภาพรถยนต์ ผ่านการตรวจเช็กอย่างละเอียดถึง 175 จุดพร้อมปรับสภาพให้ได้มาตรฐาน รับประกันสูงสุด 2 ปีเต็ม ราคาโปร่งใส คุ้มค่า ซื้อไปแล้วไม่พอใจ การันตีคืนเงินเต็มจำนวนภายใน 30 วัน
นึกถึง รถยนต์มือสอง ต้อง CARSOME
กล้องติดรถยนต์ รุ่นไหนดี ปี 2023 |
|---|
วิธีเลือก กล้องหน้ารถ
1. ความละเอียดวีดีโอ
ในปัจจุบันมี กล้องติดรถยนต์ วางขายจำนวนมากในท้องตลาด ตั้งแต่ราคาหลักร้อยไปจนถึงหลักพัน หนึ่งในสิ่งที่คุณควรพิจารณาก่อนซื้อกล้องติดรถยนต์สักตัว คือความละเอียดของวีดีโอ ซึ่งขั้นต่ำควรมีความละเอียดขั้นต่ำ Full HD 1080P ขึ้นไป เพื่อความคมชัดของภาพ ช่วยให้คุณเห็นป้ายทะเบียนรถคันอื่น ๆ บนถนนได้อย่างชัดเจนทั้งในตอนกลางวันและกลางคืน
2. มุมกล้อง
นอกจากความละเอียดแล้ว มุมกล้องก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นเดียวกัน ยิ่งมุมมองภาพกว้างก็จะช่วยให้วีดีโอที่บันทึกนั้นครอบคลุม มองเห็นได้อย่างชัดเจนทุกเลน ไม่ว่าจะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นที่มุมขวาหรือซ้ายของตัวรถ
3. รูรับแสง
รูรับแสง (Lens Aperture) คือตัวควบคุมปริมาณแสงที่จะผ่านเข้าไปในเลนส์ โดยมีหน่วยที่เรียกว่า “F” ยิ่งตัวเลขของรูรับแสงน้อยก็จะยิ่งช่วยให้ภาพสว่างขึ้น เช่น ภาพที่ถ่ายด้วยเลนส์ F4 จะมืดกว่าภาพที่ถ่ายด้วยเลนส์ F2.1 ดังนั้น กล้องติดหน้ารถ ที่มีเลนส์ซึ่งมีรูรับแสงน้อย ก็จะช่วยให้ภาพชัดและสว่าง มองเห็นป้ายทะเบียนรถคันอื่นได้ง่ายขึ้น
4. เฟรมเรท (Frame Rate)
หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่าค่า FPS (Frame Per Second) หมายถึงการแสดงผลจำนวนภาพต่อ 1 วินาที ยิ่งเฟรมเรทสูง ก็ทำให้ภาพมีความต่อเนื่อง ลื่นไหล หรือที่หลาย ๆ คนเรียกว่า “ไม่กระตุก” ยิ่งวีดีโอสามารถบันทึกค่า FPS ได้สูง ก็จะยิ่งใช้พื้นที่ในการจัดเก็บมากขึ้น โดยปัจจุบันกล้องติดรถยนต์หลาย ๆ ยี่ห้อจะมีค่า FPS อยู่ที่ 25-60 FPS
5. ฟังก์ชันการใช้งาน
นอกเหนือจากสเปคพื้นฐานที่ CARSOME กล่าวไปด้านบน กล้องติดรถยนต์ รุ่นใหม่ ๆ สมัยนี้ก็ได้เพิ่มฟังก์ชันที่ช่วยให้คุณขับขี่ได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้นมาด้วย เช่น ระบบแจ้งเตือนออกนอกเลน ระบบแจ้งเตือนการชน ระบบ G-Sensor ที่เมื่อเจอการชนหรือการกระแทกรุนแรง กล้องจะบันทึกภาพอัตโนมัติและล็อกไฟล์เอาไว้ เป็นต้น
กล้องติดรถยนต์ รุ่นไหนดี ในปี 2023
1. 70mai M300
ราคาประมาณ 1,500 บาท
ถ้าพูดถึงกล้องติดรถยนต์ราคาประหยัดที่กำลังมาแรงในขณะนี้ ก็ต้องเจ้า 70mai รุ่น M300 โดยยี่ห้อ 70mai ก็นับว่าไว้ใจได้ เพราะเป็นยี่ห้อในเครือของ Xiaomi นั่นเองค่ะ เหตุผลที่ทำให้ 70mai M300 ขายดีเทน้ำเทท่า เพราะเป็นกล้องติดรถยนต์ตัวเริ่มต้น ราคาจับต้องได้ และคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ ครบเครื่องทั้งถ่ายตอนกลางวันและกลางคืน แต่ข้อสังเกตคือรุ่นนี้จะได้เฉพาะกล้องหน้ารถเท่านั้นนะ ไม่ได้มีกล้องบันทึกหลังรถมาให้
กล้องหน้าความละเอียด 2304*1296P F2.1 พร้อมมุมมองภาพ 140 องศา รองรับการเชื่อมต่อ WiFi และสามารถเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่น 70Mai ได้
จุดเด่น
-
- G-Sensor บันทึกภาพอัตโนมัติ เมื่อเจอการชนหรือการกระแทกรุนแรง
-
- ดูภาพวีดีโอที่บันทึกแบบ Real Time ผ่านแอพได้
-
- บันทึกภาพได้ตลอด 24 ชั่วโมง
-
- ระบบถ่าย Time lapse ทำให้ได้ภาพที่ดูรวดเร็วและช่วยประหยัดพื้นที่ในเมม
-
- ดีไซน์เรียบง่าย ไม่กินพื้นที่หรือบดบังสายตา
2. Aston Ultimate X WiFi
ราคาประมาณ 2,000 บาท
ขยับขึ้นมาจาก 70mai M300 ก็จะเป็น Aston Ultimate X WiFi ที่ให้มาทั้งกล้องหน้ารถและกล้องหลังรถ ภาพชัดทั้งกลางวันและกลางคืน อีกทั้งยังประกันศูนย์ไทย หมดห่วงหากตัวกล้องมีปัญหา
กล้องหน้าความละเอียด 1296P 2K มุมมองภาพ 150 องศา กล้องหลังความละเอียด 1080P มุมมองภาพ 150 องศา รองรับการเชื่อมต่อ WiFi และสามารถเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่นได้ทั้งระบบ iOS และ Android
จุดเด่น
-
- กล้องหลังชัดขนาด Full HD
- เมนูเป็นภาษาไทย
-
- มีให้เลือกทั้งกล้องหน้าอย่างเดียว และกล้องหน้า+กล้องหลัง
-
- จอแสดงผลขนาด 3.0 นิ้ว
-
- สายกล้องหลังยาวถึง 7.2 เมตร สามารถใช้กับรถตู้ได้
3. DDPAI Mola N3 Pro
ราคาประมาณ 2,700 บาท
แบรนด์ DDPAI ก่อตั้งมานานกว่า 10 ปี ปัจจุบันมีผู้ใช้แบรนด์นี้กว่าห้าล้านคนทั่วโลก ซึ่งนับว่าขายดีไม่น้อยหน้าแบรนด์อื่น ๆ เลยทีเดียว กล้องหน้ารถ รุ่น Mola N3 Pro เป็นหนึ่งในกล้องติดรถยนต์งบ 3,000 บาทที่คุณภาพคุ้มค่าคุ้มราคา ด้วยตัวกล้องหน้ามาพร้อมกับเลนส์ 6 ตัว ช่วยให้ภาพไม่บวม และมีความคมชัดถึง 2K นอกจากนั้นกล้องตัวนี้เชื่อมต่อด้วย WiFi 2.4 GHz และมี GPS ในตัว
กล้องหน้าความละเอียด 2560*1600P (30 FPS) มุมมองภาพ 140 องศา ส่วนกล้องหลังมีความละเอียด 1920*1080P (25 FPS) F2.0 มุมมองภาพ 125 องศา รองรับ MicroSD สูงสุด 128GB
จุดเด่น
-
- ในชุดประกอบด้วยกล้องหน้า-กล้องหลัง
-
- กล้องหน้าประกอบด้วยเลนส์ 6 ชิ้น ช่วยให้ภาพไม่บวมเหมือนเลนส์ Fish Eye
-
- G-Sensor บันทึกภาพอัตโนมัติ เมื่อเจอการชนหรือการกระแทกรุนแรง
-
- เทคโนโลยีภาพ Realcube ให้สีสันสดใสยิ่งขึ้น
-
- ใช้ Super Capacitor แทนแบตเตอรี่ทั่วไป ทนแดดทนร้อนได้ดีขึ้น
นึกถึง รถยนต์มือสอง ต้อง CARSOME
4. Transcend DrivePro 250
ราคาประมาณ 4,000 บาท
หากมีงบประมาณที่สูงขึ้นมาอีกหน่อย ยี่ห้อ Transcend ก็เป็นตัวเลือกที่ดี โดย Transcend DrivePro 250 มาพร้อมประกันถึง 2 ปี เซ็นเซอร์ภาพ STARVIS ™ จับภาพวิดีโอความละเอียดสูงพร้อมการไล่โทนสีที่ละเอียดแม้ในที่แสงน้อย สามารถเชื่อมต่อ WiFi และมี GPS มาให้แล้วในตัวกล้อง (ใช้บันทึกพิกัดและความเร็วรถไว้ในวีดีโอ) นอกจากนั้นยังมีระบบความปลอดภัยพิเศษที่เพิ่มมาให้แบบจัดเต็มต่างจากยี่ห้ออื่น ๆ เช่น ระบบเตือนเปิดไฟหน้ารถ ระบบเตือนรถออกนอกเลน เป็นต้น
กล้องความละเอียด Full HD 1080P มุมมองภาพ 140 องศา เนื่องจากใช้เลนส์ของ Sony จึงได้ความสว่างภาพที่ชัดเจนแม้อยู่ในสถานการณ์แสงน้อย
จุดเด่น
-
- ระบบเตือนเมื่อขับรถด้วยความเร็วเกินกว่ากำหนด
-
- ระบบเตือนรถออกนอกเลน
-
- ระบบเตือนเมื่อขับรถเข้าใกล้รถคันข้างหน้ามากเกินไป
-
- G-Sensor บันทึกภาพอัตโนมัติ เมื่อเจอการชนหรือการกระแทกรุนแรง
-
- มีแบตเตอรี่ในตัว
-
- มีปุ่ม Snap Shot ถ่ายภาพเหตุการณ์สำคัญได้โดยไม่ต้องหยุดวีดีโอ
5. 70mai A800S
ราคาประมาณ 4,000 บาท
กล้องติดรถยนต์ ตัวท็อปรุ่นใหม่ล่าสุดจากยี่ห้อ 70mai ค่ายในเครือ Xiaomi มาพร้อมความชัดระดับ 4K โดดเด่นด้วยการใช้เลนส์จาก Sony ช่วยเพิ่มความคมชัดของวีดีโอ และ Super Night Vision พร้อม 3D DNR ช่วยเพิ่มการมองเห็นตอนกลางคืน และได้สีที่คมชัดขึ้น
กล้องหน้าความละเอียด 4K 3840*2160P (30 FPS) มุมมองภาพ 140 องศา พร้อมเลนส์แก้ว 7 ชั้น และ IR Filter ให้ภาพเคลียร์ ใส ชัดเจน กล้องหลังความละเอียด Full HD 1920*1080P (30 FPS) สามารถเชื่อมต่อ WiFi และใช้งานผ่านแอพพลิเคชัน 70mai ได้
จุดเด่น
-
- มีขายทั้งกล้องหน้า และกล้องหน้า + กล้องหลัง
-
- หน้าจอขนาด 3.0 นิ้ว แสดงภาพแบบ HD
-
- ระบบเตือนการชนนอกช่องทางและด้านหน้า
-
- บันทึกวีดีโอ 24 ชั่วโมงพร้อม G-Sensor ในขณะจอดรถ
-
- G-Sensor บันทึกภาพอัตโนมัติ เมื่อเจอการชนหรือการกระแทกรุนแรง
สรุปเกี่ยวกับ กล้องติดรถยนต์
นอกจากระบบความปลอดภัยพื้นฐานของรถยนต์แล้ว กล้องติดหน้ารถ ก็เป็นไอเทมจำเป็นที่ขาดไม่ได้ในยุคสมัยนี้ ซึ่งกล้องทั้งห้าตัวที่ CARSOME รวบรวมมาวันนี้ สามารถการันตีคุณภาพได้ด้วยยอดขายจำนวนมากในไทย เพื่อน ๆ สามารถเลือกจับจองได้ตามงบประมาณที่ต้องการได้เลย
หากคุณกำลังสนใจจะ ซื้อรถมือสอง หรือ ขายรถคันเดิม แล้วล่ะก็… ที่ CARSOME เสนอราคาให้คุณคุ้มค่าที่สุด! เรามีการดำเนินการที่มีมาตรฐาน โปร่งใส รวดเร็ว ให้คุณซื้อหรือขายรถได้อย่างสบายใจ คลิกที่เว็บไซต์เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย!
อ่านบทความต่อ: Toyota Yaris ATIV 2022 เจาะลึกสเปคและราคา หรือ 26 รถยนต์ไฟฟ้า ปี 2023 พร้อมราคารถไฟฟ้าที่มีขายในไทย