ปัญหาเครื่องยนต์ส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้น เกิดจากปัญหาเรื่องระบบระบายความร้อนของ หม้อน้ำรถยนต์ ที่เจ้าของรถยนต์ส่วนใหญ่ต่างละเลย และไม่ค่อยให้ความสำคัญมากเท่าไหร่นัก ที่สำคัญยังขาดความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องหม้อน้ำรถยนต์ว่ามีความสำคัญอย่างไร รวมไปถึงการดูแลอย่างผิดวิธี ไม่ว่าจะเป็นการใช้น้ำเปล่าเติมแทนน้ำยาหม้อน้ำ ทำให้เกิดการอุดตันหรือตะกรันที่มีสาเหตุมาจากการใช้น้ำเปล่าเติมอย่างผิดวิธี และการเลือกใช้น้ำยาหล่อเย็นที่ไร้คุณภาพ ซึ่งในวันนี้ทาง CARSOME ขอแนะนำเคล็ดลับดี ๆ ในการดูแลหม้อน้ำรถยนต์อย่างถูกวิธี พร้อมกับทำความเข้าใจเรื่องหม้อน้ำรถยนต์ให้มากขึ้น ซึ่งคนรักรถไม่ควรละเลยเป็นอันขาด
ซื้อรถยนต์มือสอง กับ CARSOME การันตีคุณภาพรถยนต์ ผ่านการตรวจเช็กอย่างละเอียดถึง 175 จุดพร้อมปรับสภาพให้ได้มาตรฐาน รับประกันสูงสุด 2 ปีเต็ม ราคาโปร่งใส คุ้มค่า ซื้อไปแล้วไม่พอใจ การันตีคืนเงินเต็มจำนวนภายใน 30 วัน
นึกถึง รถยนต์มือสอง ต้อง CARSOME
สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับ หม้อน้ำรถยนต์ |
---|
หม้อน้ำรถยนต์ คืออะไร?
หม้อน้ำรถยนต์ เป็นอุปกรณ์แลกเปลี่ยนความร้อนของรถยนต์ซึ่งมีความสำคัญมาก และเป็นระบบการหล่อเย็นด้วยน้ำ โดยการทำงานจะเป็นน้ำไหลมาตามโพรงเสื้อสูบ แล้วเข้าสู่หม้อน้ำทางด้านบน ต่อมาน้ำเหล่านั้นก็จะไหลมาตามท่อในหม้อน้ำ ซึ่งท่อพวกนี้จะติดอยู่กับรังผึ้ง หรือที่เรียกอีกอย่างว่าครีบระบายความร้อน ซึ่งทำมากจากโลหะ ที่ถ่ายเทความร้อนได้ดี เมื่อน้ำร้อนเหล่านี้ เคลื่อนลงมาด้านล่าง ก็จะถ่ายเอาความร้อนออกไปให้กับรังผึ้ง ซึ่งในเวลาเดียวกันพัดลมหม้อน้ำก็จะทำงาน ดูเอาอากาศที่อยู่ด้านหน้าหมอน้ำ ผ่านรังผึ้งระบายความร้อนหม้อน้ำ ออกมาทางด้านหลัง เปลี่ยนความร้อนไปเป็นอากาศ และเมื่อน้ำที่ร้อนไหลลงด้านล่าง อุณหภูมิก็จะลดลง ตรงด้านหน้าของหม้อน้ำจะมีท่อยางหม้อน้ำ ต่อเข้ากับผนังเสื้อสูบอีกที ทำให้มีน้ำอนู่ในระบบ ไหลเวียนอยู่ในโพรงผนังห้องเครื่องกับหม้อน้ำแบบนี้อย่างต่อเนื่อง
หน้าที่สำคัญของหม้อน้ำรถยนต์ คือ ช่วยระบายความร้อนส่วนเกินจากการเผาใหม้ของเครื่องยนต์ เพราะการเผาไหม้เชื้อเพลิงแต่ละครั้ง จะมีอุณหภูมิสูงมาก ความร้อนที่เกิดขึ้นจะต้องน้ำยาหล่อเย็นเป็นตัวนำพาความร้อนส่วนเกินนี้ มาลดอุณหภูมิลงที่บริเวณรังผึ้งหม้อน้ำโดยมีพัดลมหม้อน้ำเป็นตัวช่วยให้เย็นลง และวนกลับไปรับความร้อนในเครื่องยนต์อีกครั้ง ทั้งนี้น้ำยาหล่อเย็นจะหมุนวนโดยการสร้างแรงผลักโดยปั๊มน้ำ โดยมีวาล์วน้ำคอยปิด-เปิดควบคุมการไหลของน้ำเพื่อให้อุณหภูมิของเครื่องอยู่ในจุดที่เหมาะสมกับการทำงานนั่นเอง
ประเภทของหม้อน้ำรถยนต์
หม้อน้ำรถยนต์นั้นสามารถแบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ ๆ ตามวัสดุได้ 2 ประเภท คือ
1. หม้อน้ำอลูมิเนียม
เป็นหม้อน้ำชนิดนี้ใช้ทั่วไปในปัจจุบัน เพราะมีน้ำหนักเบา ต้นทุนต่ำ ราคาไม่แพง และทำหน้าที่ระบายความร้อนได้อย่างดี แบ่งได้อีกสองแบบคือ
- แบบที่ฝาเป็นพลาสติก
- แบบที่เป็นอลูมิเนียมทั้งอัน : ราคาจะแพง และหาซื้อได้ค่อนข้างยาก ส่วนใหญ่สั่งทำเอา ระบายความร้อนได้ดีและทนกว่าพลาสติก ข้อเสียคือ ไม่ทนเท่าทองแดงและ ถ้าชำรุดก็ต้องยกเปลี่ยนเลย
2. หม้อน้ำทองแดง
ในสมัยก่อนหม้อน้ำชนิดนี้เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก พบได้ในรถเก่า 20 ปีขึ้นไป โดยมีอยู่สองแบบด้วยกัน คือ
- ผลิตจากทองเหลืองผสมทองแดง ระบายความร้อนได้ดีมาก ถึงจะมีความร้อนสะสมอยู่บ้างเล็กน้อย
- ผลิตจากทองแดงล้วน ๆ หม้อน้ำชนิดนี้ระบายความร้อนได้ดีกว่า แต่ราคาค่อนข้างแพงและบางรุ่นอาจจะต้องสั่งทำ ส่วนข้อดีของมันคือ แข็งแรงทนทาน ซ่อมได้หากชำรุด
อาการหม้อน้ำรถยนต์มีปัญหา
การโอเวอร์ฮีท (Over Heat) ของเครื่องยนต์ เป็นอาการที่แสดงให้เห็นว่าหม้อน้ำรถยนต์กำลังมีปัญหา อาจจะเกิดจากการที่น้ำในหม้อน้ำแห้ง ซึ่งมาจากการใช้งาน ถ้าเราใช้รถโดยไม่มีการตรวจเช็คน้ำในหม้อน้ำเลย ก็อาจจะทำให้เกิดการที่น้ำในหม้อน้ำไม่เพียงพอต่อการระบายความร้อนจนทำให้เครื่องโอเวอร์ฮีทได้ อีกประเด็นคือ การชำรุดของหม้อน้ำซึ่งอาจจะมีการชำรุดที่ตัวท่อ ฝาหม้อน้ำ หรือตัวหม้อน้ำ ที่รั่วซึมทำให้ของเหลวในหม้อน้ำไหลออกจนไม่สามารถทำการระบายความร้อนออกจากเครื่องยนต์ได้ตามปกติ และนอกจากการชำรุดของตัวหม้อน้ำแล้ว การชำรุดของพัดลมก็ทำให้เกิดการโอเวอร์ฮีทได้เช่นกัน ซึ่งต่อให้หม้อน้ำอยู่สภาพปกติ แต่ใบพัดไม่ทำงาน การดูดความร้อนออกมาก็ทำไม่ได้ ทำให้รถเกิดการโอเวอร์ฮีทได้เช่นกัน ผลของการที่รถเกิด Over heat คือถ้าร้อนจนเกิดไปจะทำให้เครื่องดับ ไม่สามารถขับต่อได้ ซึ่งจะทำให้ฝาสูบโก่ง และทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมอย่างแน่นอน ซึ่งข้อควรระวังหากเกิดเหตุการเครื่องยนต์โอเวอร์ฮีทคือ ห้ามเปิดฝาหม้อน้ำขณะที่เครื่องยนต์ยังร้อนมากๆ เพราะอาจจะทำให้เกิดการบาดเจ็บได้
นึกถึง รถยนต์มือสอง ต้อง CARSOME
วิธีตรวจเช็กหม้อน้ำรถยนต์
สำหรับวิธีตรวจเช็กหม้อน้ำรถยนต์จะมีวิธีการเช็คที่สำคัญอยู่ 2 อย่าง คือ
วิธีตรวจเช็ก
วิธีการนี้เป็นการตรวจเช็กในกรณีทั่วไป รถยังทำงานได้ปกติไม่ได้ความร้อนขึ้น แต่เป็นการตรวจสอบเบื้องต้นเพื่อหาสาเหตุ โดยมีวิธีการตรวจเช็ก ดังนี้
- เปิดฝาหม้อน้ำขณะเครื่องเย็น ไม่ควรเปิดฝาขณะเครื่องกำลังร้อน เพราะน้ำกำลังเดือดอยู่และอาจกระเด็นมาโดน ทำให้เกิดอันตรายได้ ทางที่ดีควรมีถุงมือหรือผ้าจับกันมือร้อนด้วย
- ดูระดับน้ำในหม้อน้ำว่าลดลงไปมากหรือไม่ หากลดมากอาจเป็นไปได้ว่าหม้อน้ำรั่ว ค่อยๆ เติมน้ำลงไปจนเต็ม รวมถึงตรงกระปุกพักน้ำให้อยู่ระดับ MAX ทิ้งไว้ข้ามคืน หรือลองใช้รถตามปกติ แล้วกลับมาสังเกตดูว่าน้ำยังลดลงอยู่มั้ย
- ถ้ายังลดอยู่ ต้องตามหารอยรั่ว สังเกตดูตามรังผึ้ง ท่อยางหม้อน้ำ ฝาหม้อน้ำ หางปลาหม้อน้ำ และจุดต่างๆ โดยดูจากสีของน้ำยาหล่อเย็นว่ามีอยู่ตรงไหนบ้าง หากเจอสีของน้ำยาหล่อเย็นอยู่ที่บริเวณไหน ก็เป็นไปได้ว่าหม้อน้ำรั่วตรงจุดนั้น จะได้รักษาอาการได้ทันท่วงที
วิธีเช็กอาการหม้อน้ำตัน
หากหม้อน้ำตัน ก็อาจส่งผลให้การหมุนเวียนของระบบน้ำภายในหม้อน้ำทำได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้น้ำร้อนเร็วกว่าปกติ โดยวิธีการเช็กก็มีวิธีง่าย ๆ ดังนี้
- สังเกตสีของน้ำในหม้อน้ำ สีจะเปลี่ยนไปเป็นสีส้มๆ แดงๆ หรือสีสนิม หรือมีคราบตะกรันอยู่
- สังเกตสถานะไฟบนหน้าปัดรถยนต์ มีการแจ้งเตือนความร้อนขึ้นในขณะที่เพิ่งขับรถไปได้ไม่นาน แอร์ไม่เย็น เป็นต้น
- ให้รีบเปลี่ยนถ่ายน้ำในหม้อน้ำ โดยปล่อยน้ำออกให้หมด แล้วล้างหม้อน้ำโดยใช้น้ำเปล่าใส่และเปลี่ยนถ่ายสักสองสามครั้ง หรือมากกว่านั้น ทั้งนี้ดูได้จากน้ำที่ถ่ายออกมาว่ายังมีคราบตะกรันและสิ่งสกปรกออกมาอีกหรือไม่ หากอาการหนักอาจต้องใช้น้ำยาล้างหม้อน้ำ ซึ่งถ้าหากไม่ชำนาญแนะนำว่า ควรให้ช่างล้างดีกว่า
- หากเปลี่ยนถ่ายน้ำแล้ว สามารถเติมน้ำยาหล่อเย็นเข้าไปได้ใหม่ เพื่อช่วยให้หม้อน้ำสะอาดและหมุนเวียนได้ดีทั้งระบบ
วิธีดูแลรักษาหม้อน้ำรถยนต์
- ตรวจสอบน้ำยาหล่อเย็น (Coolant) ในหม้อน้ำให้เต็ม และน้ำยาหล่อเย็นในหม้อพักให้อยู่ในระดับที่กำหนดไว้ โดยปกติจะอยู่กึ่งกลางระดับ min กับ max ที่ถูกทำเครื่องหมายไว้ โดยในหม้อพักน้ำ ห้ามเติมน้ำยาหล่อเย็นให้เต็มหม้อเด็ดขาด เพราะเมื่อเกิดความร้อนจะมีแรงดันทำให้น้ำดันออกจากหม้อน้ำหมดได้ แนะนำให้อย่างน้อยตรวจสอบน้ำยาหล่อเย็นในถังพักน้ำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ถ้าพบหม้อน้ำเคยมีปัญหาการรั่วซึมมาก่อนแล้ว แนะนำให้ตรวจสอบทุกวัน
- แน่นอนที่สุดคือต้องไม่เติมน้ำเปล่าลงในหม้อน้ำ เพราะการเติมน้ำเปล่าส่งผลเสียหายต่อหม้อน้ำ เพราะนอกจากจะเกิดสนิม กัดกร่อนทำให้หม้อน้ำผุรั่วแล้ว ยังเกิดการอุดตันของคราบตะกรันต่างๆ เช่นหินปูนบริเวณแผงระบายความร้อนในหม้อน้ำ เครื่องจะมีความร้อนขึ้นสูงจนเกิดปัญหาตามมา
- เติมน้ำยารักษาหม้อน้ำหรือน้ำยาหล่อเย็นที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัยต่อเครื่องยนต์
- ถ้าหากพบว่าต้องเติมน้ำหล่อเย็นเพิ่มเข้าหม้อน้ำบ่อยครั้ง แสดงว่ามีอาการรั่วซึม แต่หากว่าผู้ใช้ได้เติมน้ำซึ่งไม่มีสีไปก่อนหน้านี้เป็นระยะเวลาหนึ่ง ทำให้ไม่เห็นรอยรั่วซึมเนื่องจากน้ำไม่มีสี จึงเห้นรอยรั่วซึมได้ยาก ดังนั้นควรตรวจสอบหารอยรั่วหลังจากเติมน้ำยาหล่อเย็น (น้ำยาหม้อน้ำหรือน้ำยาหล่อเย็นจะถูกออกแบบมาให้มีสีเพื่อให้ตรวจสอบรอยรั่วได้ง่าย) โดยดูจากรอยหยดน้ำที่มีสีเดียวกับน้ำยารักษาหม้อน้ำ เมื่อพบแล้วให้นำรถเข้าแก้ไขที่ศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมทันที
หากคุณกำลังสนใจจะ ซื้อรถมือสอง หรือ ขายรถคันเดิม แล้วล่ะก็… ที่ CARSOME เสนอราคาให้คุณคุ้มค่าที่สุด! เรามีการดำเนินการที่มีมาตรฐาน โปร่งใส รวดเร็ว ให้คุณซื้อหรือขายรถได้อย่างสบายใจ คลิกที่เว็บไซต์เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย!
อ่านบทความต่อ: เคลือบแก้ว คืออะไร? ข้อดีมีอะไรบ้าง เคลือบแก้วรถเองได้ไหม? หรือ 5 กล้องติดรถยนต์ 2023 รุ่นไหนดี ภาพชัด ราคาไม่แพง