รู้จัก อัตราสิ้นเปลือง เพื่อคำนวณค่าน้ำมันหรือเชื้อเพลิงสำหรับรถ

ในยุคปัจจุบันนี้ช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำ หลายคนหันมาสนใจเรื่องการประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่อง อัตราสิ้นเปลือง ซึ่งเป็นข้อมูลที่จะช่วยเซฟค่าใช้จ่ายสำหรับค่าน้ำมันในกระเป๋าได้มากขึ้น สำหรับหลายคนที่ยังสงสัยว่า อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน หรือ อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลง คืออะไร และจะช่วยให้เราประหยัดค่าน้ำมันมากขึ้นในช่วงข้าวของเครื่องใช้ อาหารและรวมไปทั้งน้ำมันต่างก็มีราคาที่แพงขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดในขณะนี้อย่างไร ในวันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกันให้มากขึ้น รวมไปถึง วิธีคำนวณค่าน้ำมัน จากอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอย่างง่ายๆ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับการประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย

ซื้อรถมือสอง กับ CARSOME การันตีคุณภาพรถยนต์ ผ่านการตรวจเช็กอย่างละเอียดถึง 175 จุดพร้อมปรับสภาพให้ได้มาตรฐาน รับประกันสูงสุด 2 ปีเต็ม ราคาโปร่งใส คุ้มค่า ซื้อไปแล้วไม่พอใจ การันตีคืนเงินภายใน 30 วัน

นึกถึง รถมือสอง ต้อง CARSOME

 

รู้จัก อัตราสิ้นเปลือง และ วิธีคำนวณค่าน้ำมัน
อัตราสิ้นเปลือง คืออะไร วิธีคำนวณ อัตราสิ้นเปลือง น้ำมัน คำนวณค่าน้ำมัน ด้วย อัตราสิ้นเปลือง วิธีขับรถให้ประหยัดน้ำมัน

อัตราสิ้นเปลือง คืออะไร

อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน หรือ อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลง เป็นอัตราที่บอกว่ารถแต่ละคันมีการกินน้ำมันหรือสิ้นเปลืองน้ำมันไปเท่าไหร่ โดยอัตรานี้จะสามารถบอกได้ว่ารถคันที่คุณขับนั้นจะเปลืองน้ำมันหรือไม่ โดยเราสามารถคำนวณง่าย ๆ ได้จากสูตร ระยะทางที่รถขับได้มีหน่วยเป็นกิโลเมตรแล้วหารด้วยจำนวนน้ำมันที่ลดลงไปซึ่งมีหน่วยเป็นลิตร ตัวอย่างเช่น ระยะทาง 100 กิโลเมตร ปริมาณน้ำมันที่ใช้ 5 ลิตร ดังนั้นจะเห็นได้ว่ารถยนต์ของคุณจะมีอัตราการกินน้ำมันหรืออัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 20 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งสามารถดูตัวเลขระยะทาง และปริมาณน้ำมันได้จากแผงหน้าจอด้านหน้าคนขับแล้วนำมาคำนวณได้ แต่โดยปกติแล้วรถแต่ละคันจะมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันบอกเอาไว้ก่อนที่คุณจะซื้อรถเสมอ

วิธีคำนวณ อัตราสิ้นเปลือง น้ำมัน

สำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบันล้วนต่างมีฟังก์ชันแสดงอัตราสิ้นเปลืองบนหน้าปัดกันแทบทั้งนั้น ซึ่งในความเป็นจริงตัวเลขดังกล่าวอาจมีความผิดเพี้ยนได้ แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับผู้ผลิตแต่ละราย ดังนั้นเราจึงขอนำเอาเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ สำหรับการคำนวณอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน เพื่อให้คุณ คำนวณค่าน้ำมัน ได้อย่างถูกต้องแม่นยำมาฝาก

1. เติมน้ำมันเต็มถังเท่าที่หัวจ่ายตัด

ควรกำชับพนักงานไม่ให้เติมน้ำมันเพิ่มเพื่อปัดเศษเป็น 0 จะได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำมากขึ้น

2. รีเซ็ตมาตรวัดระยะทางเพื่อให้เป็น 0 ก่อน

จากนั้นจึงขับใช้งานตามปกติ ซึ่งทางที่ดีควรแบ่งการคำนวณเป็นการขับขี่ในเมืองหรือการขับขี่นอกเมืองแยกออกจากกันจะดีกว่าค่ะ เพื่อจะได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่าการขับทั้งสองรูปแบบผสมกัน

3. กลับมาเติมน้ำมันใหม่เมื่อระยะทางเหมาะสม

หลังผ่านการใช้งานในระยะทางที่เหมาะสม ไม่จำเป็นต้องรอให้น้ำมันใกล้หมดก็ให้เติมน้ำมันกลับอีกครั้งเท่าที่หัวจ่ายตัดเช่นเดิม และทางที่ดีควรเป็นหัวจ่ายเดียวกับที่เคยเติมก่อนทำการทดสอบเพื่อลดตัวแปรต่างๆ ลงให้มากที่สุด

4. นำเลขหัวจ่ายมาคำนวณ อัตราสิ้นเปลือง

หลังจากที่หัวจ่ายตัด ให้นำตัวเลขที่ปรากฏบนหัวจ่ายมาคำนวณ โดยนำเอาปริมาณน้ำมันที่มีหน่วยเป็นลิตร พร้อมเลขทศนิยมทุกหลัก มาหารด้วยระยะทางบนหน้าปัดที่วิ่งไป ก็จะได้ อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน เป็นหน่วยกิโลเมตรต่อลิตร (กม./ลิตร) ยกตัวอย่างเช่น ขับรถไปกลับ 400 กิโล ปริมาณน้ำมันที่ใช้ไป 16.46 ลิตร สามารถคำนวณ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ได้ดังนี้

1. ระยะทางที่ใช้ไป: 400 กิโลเมตร
2. จำนวนลิตรที่เติม: 16.46 ลิตร
3. อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง จะเท่ากับ 400/16.46 = 24.31 กม./ลิตร

นึกถึง รถมือสอง ต้อง CARSOME

คำนวณค่าน้ำมัน ด้วย อัตราสิ้นเปลือง

การ คํานวณค่าน้ำมัน ช่วยให้เราวางแผนค่าใช้จ่ายก่อนเดินทางได้ง่ายยิ่งขึ้น เพราะทำให้เรารู้ว่ารถที่ใช้กินน้ำมันมากน้อยแค่ไหน รวมทั้งช่วยวางแผนในการออกรถใหม่ เนื่องจากการออกรถหนึ่งคัน ไม่ได้มีแค่ค่างวดรถที่ต้องจ่าย แต่เจ้าของรถจะต้องรับภาระค่าใช้จ่ายสารพัดที่จะตามมาอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นค่าประกันภัย, ค่าบำรุงรักษา หรือค่าภาษีประจำ อย่างไรก็ตาม เมื่อเรารู้ อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน ของรถ เราก็สามารถ คํานวณค่าน้ำมันจากระยะทาง ได้ว่า การเดินทางในชีวิตประจำวันจะใช้งบประมาณเท่าไร หรือ คิดค่าน้ำมัน สำหรับรถคันใหม่ที่เรากำลังจะซื้อได้ดังนี้

วิธีคำนวณค่าน้ำมัน กิโลเมตรละกี่บาท

วิธีคิดค่าน้ำมัน ให้นำ อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง มาหารระยะทางก่อนเพื่อให้ได้ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ในหน่วยลิตร จากนั้น คูณ ราคาน้ำมัน ณ ปัจจุบัน ออกมาเป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายสำหรับรถยนต์ของเรานั่นเอง

ตัวอย่างเช่น ขับรถไปกลับ 200 กิโลเมตร ค่าน้ำมันกี่บาท สำหรับรถคันเดิมที่ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เท่ากับ 24.31 กม./ลิตร

1. หาปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้

ด้วยการนำ ระยะทาง (กิโลเมตร) / อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง (กิโลเมตร/ลิตร) = ปริมาณเชื้อเพลิงที่ใช้ (ลิตร)

ระยะทาง (กิโลเมตร) / อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง (กิโลเมตร/ลิตร) = (200 กิโลเมตร) /(24.31 กม./ลิตร)

ปริมาณเชื้อเพลิงที่ใช้ = 8.22 ลิตร

2. นำราคามาคูณจำนวนน้ำมัน

นำราคาน้ำมัน ณ ปัจจุบัน มาคูณกับจำนวนน้ำมันเชื้อเพลิง (ลิตร) จะได้ค่าน้ำมันสำหรับการเดินทางโดยคร่าวๆ

สมมติว่า รถดังกล่าวใช้น้ำมันดีเซลลิตรละ 34.94 บาท

ค่าน้ำมัน (บาท) = จำนวนน้ำมันเชื้อเพลิง (ลิตร) x ราคาน้ำมัน (บาท)
= 8.22 x 34.94
= 287.21 บาท

ดังนั้น ค่าน้ำมันจะอยู่ที่ประมาณ 287.21 บาท

วิธีขับรถให้ประหยัดน้ำมัน

หลังจากได้ทราบวิธีคำนวณอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันกันไปแล้ว เราก็มีเคล็ดลับการขับรถให้ประหยัดน้ำมันแบบง่ายๆ เพื่อให้ผู้ขับขี่ใช้รถได้อย่างสบายใจ สบายกระเป๋า ดังนี้

วิธีประหยัดน้ำมันลดอัตราสิ้นเปลือง

1. เช็กสภาพรถทุกอย่างก่อนและหลังใช้งานเสมอ

เพราะการเช็กสภาพรถจะทำให้คุณทราบว่ามีส่วนไหนของรถที่ควรได้รับการซ่อมแซม และไม่ต้องมีปัญหารถเสียระหว่างทาง หากคุณพบส่วนของรถที่ต้องได้รับการซ่อมแซมควรรีบซ่อมให้เรียบร้อย เพราะสภาพรถที่ไม่พร้อมต่อการใช้งานจะทำให้เครื่องยนต์เสื่อมเร็ว อีกทั้งยางของล้อรถที่มีลมไม่พอย่อมทำให้เครื่องยนต์ต้องทำงานหนักกว่าปกติ ซึ่งเครื่องยนต์ที่เสื่อม หรือต้องทำงานหนักมีผลต่ออัตราการกินน้ำมันที่เพิ่มขึ้นด้วย

2. ใส่ใจเรื่องเครื่องยนต์ให้มากขึ้น

ถ้าเครื่องยนต์ทำงานหนักเกินไปหรือใช้เครื่องยนต์ที่เสื่อมสภาพอาจเป็นการทำให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้นได้ โดยการใส่ใจเครื่องยนต์เป็นเรื่องพื้นฐานที่สำคัญ แค่ให้คุณมั่นใจว่าก่อนขับรถ เครื่องยนต์อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ ไม่มีการซ่อมแซมใด ๆ และในขณะขับรถก็ควรสังเกตความร้อนของเครื่องยนต์ไม่ให้ร้อนจนเกินไป

3. อย่าบรรทุกของหนักเยอะจนเกินไป

สิ่งของที่บรรทุกอยู่บนรถเป็นปัจจัยมีผลต่ออัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันอย่างมาก ยิ่งรถที่ต้องบรรทุกของที่มีน้ำหนักมาก ก็ยิ่งทำให้รถกินน้ำมันมากขึ้น หากรถของคุณไม่ต้องบรรทุกของหนัก คุณก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเปลืองน้ำมันเลย

4. อย่าเปิดแอร์ที่เย็นจัด

อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้รถกินน้ำมันได้อย่างรวดเร็วก็คือ การเปิดแอร์ที่เย็นจัด หรือเปิดแอร์ไปพร้อม ๆ กับการเปิดกระจกรถให้อากาศที่ร้อนกว่าภายนอกรถเข้ามาภายในรถ ถ้าไม่อยากเปลืองค่าน้ำมันแล้วล่ะก็ ควรเปิดแอร์ให้เย็นพอเหมาะ และบรรทุกของเท่าที่จำเป็นเท่านั้น

5. ไม่ควรเร่งเครื่องขณะที่จอดรถนิ่งอยู่ 

เพราะจะเปรียบเสมือนเป็นการเร่งเครื่องตลอดเวลา และจะทำให้เครื่องยนต์ร้อนง่ายอีกด้วย ซึ่งการเร่งเครื่องโดยไม่จำเป็นนั้นเป็นสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้รถกินน้ำมันมากกว่าเดิมโดยที่คุณไม่รู้ตัว นอกจากจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันแล้ว ยังทำให้คุณมีโอกาสเผลอเหยียบคันเร่งโดยลืมใส่เกียร์ว่างหรือเบรกมือ ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้เช่นดัน

6. ออกรถช้าๆ ไม่ต้องรีบ

ใครที่ชอบขับรถซิ่งหรือออกตัวรถแรง ขอบอกเลยว่าการออกตัวรถแบบนั้นจะมเป็นการเพิ่มอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันโดยเปล่าประโยชน์ เนื่องจากการออกตัวแรงทำให้เครื่องยนต์ต้องคุณต้องสูบน้ำมันออกมาเป็นจำนวนมากเพื่อให้รถพุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วนั่นเอง รวมถึงในขณะขับรถอยู่ คุณควรใช้ความเร็วที่เสมอตลอดทาง ไม่ควรเบรกโดยไม่จำเป็น เพราะการเบรกบ่อย ๆ เป็นอีกหนึ่งต้นเหตุที่ทำให้เปลืองน้ำมัน

สำหรับ วิธีการคำนวณอัตราสิ้นเปลือง ดังกล่าวนั้นอาจจะเป็นวิธีเบื้องต้นที่ช่วยทำให้ทราบข้อมูลได้คร่าว ๆ เท่านั้น ซึ่งอาจจะไม่แม่นยำ 100 % เนื่องจากมีปัจจัยอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน ของเครื่องยนต์ และสภาพอุณหภูมิอากาศ โดยปัจจัยเหล่านี้เป็นปัจจัยภายนอกที่ควบคุมได้ยาก ดังนั้นวิธีที่ง่ายที่สุด คือ การหันมาขับรถให้ประหยัดน้ำมันกันมากขึ้น ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยได้อย่างแน่นอนและเป็นวิธีที่ยั่งยืนอีกด้วย

หากคุณกำลังสนใจจะ ซื้อรถมือสอง หรือ ขายรถคันเดิม แล้วล่ะก็… ที่ CARSOME เสนอราคาให้คุณคุ้มค่าที่สุด! เรามีการดำเนินการที่มีมาตรฐาน โปร่งใส รวดเร็ว ให้คุณซื้อหรือขายรถได้อย่างสบายใจ คลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย!

อ่านบทความต่อ: 10 รถยนต์ประหยัดน้ำมัน ปี 2023 รุ่นไหนดี? ช่วยเซฟเงินในกระเป๋าของคุณได้ หรือ รถ MPV มือสองน่าใช้ ราคาถูกใจ ยี่ห้อไหนดี 2023