Skip to content
Carsome Thailand
  • เกี่ยวกับเรา
  • บทความ
    • บทความทั้งหมด
    • โปรโมชั่น
    • ข่าวสาร
    • ข้อมูลน่ารู้
    • ไลฟ์สไตล์
    • ข่าวประชาสัมพันธ์ (PR)
    • รีพอร์ต
    • รถยนต์ไฟฟ้า
  • ติดต่อเรา
  • เข้าระบบ (Log in)
    • ดีลเลอร์
    • ลงชื่อเข้าใช้
  • 6 May 2021

วิธีดูรถมือสอง – เลือกซื้อยังไงให้ไม่ผิดหวัง

วิธีดูรถมือสองคือสิ่งที่มือใหม่หัดซื้อรถต้องศึกษาให้ดี เพราะรถมือสองเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับใครหลาย ๆ คนในการซื้อรถ

ดูอย่างสินเชื่อรถยนต์ปัจจุบันจะอยู่ระหว่าง 5,000 บาทถึง 9,000 บาทต่อเดือน (โดยเฉลี่ยสำหรับสินเชื่อระยะเวลา 7 ปี) เมื่อเปรียบเทียบกับการผ่อนรถมือสองเดือนละ 2,000 บาทถึง 4,000 บาทต่อเดือน นั่นคือประมาณ 37,000 บาทถึง 51,000 บาทต่อปีเท่านั้น! คุณจะสามารถเลือกรถมือสองที่มีอายุน้อยกว่า 10 ปี และ มีระยะทางน้อยกว่า 100,000 กม. ในราคา 440,000 บาท คุณก็ได้เป็นเจ้าของรถในราคาที่ถูกมาก จนไม่รู้จะเรียกว่าอะไรอีกแล้ว!

บทความนี้จึงขอนำเสนอเคล็ดลับ 10 เทคนิคเลือกซื้อรถมือสองที่ดีที่สุด อย่าลืมอ่านให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจซื้อล่ะ!

วิธีซื้อรถมือสอง

สารบัญ: วิธีดูรถมือสอง

 

  • กำหนดงบประมาณของรถมือสองที่ต้องการ

  • สำรวจแพลตฟอร์มออนไลน์รถมือสอง

  • ตรวจสอบอายุรถยนต์

  • ตรวจสอบไมล์สะสมรถยนต์

  • ตรวจสอบประวัติรถยนต์

  • ตรวจสอบบันทึกการบำรุงรักษารถยนต์

  • ตรวจสอบภายนอกและภายในรถยนต์

  • ตรวจสอบชิ้นส่วนอื่น ๆ ของรถ

  • ตรวจสอบเครื่องยนต์ของรถ

  • ทดลองขับรถ

 

ขั้นตอนที่ 1: กำหนดงบประมาณของรถมือสองที่ต้องการ

กำหนดงบประมาณของรถมือสองที่ต้องการ

เคล็ดลับที่สำคัญที่สุดก่อนการเลือกซื้อรถมือสองคือการกำหนดงบประมาณที่เหมาะกับสถานะทางการเงินของคุณ คุณสามารถค้นหารถรุ่นต่าง ๆ ตามงบประมาณที่ตั้งไว้ สมมติว่าคุณมีงบประมาณอยู่ที่ 370,000 บาท คุณสามารถรับเงินกู้รายเดือนได้ตั้งแต่ 2,000 บาทถึง 3,500 บาทเป็นเวลา 5 ถึง 7 ปีขึ้นอยู่กับรายจ่ายรายเดือนของคุณ

วิธีคำนวณยอดสินเชื่อรวมตามรายได้ของคุณ

ก. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าราคารถไม่เกินค่าจ้างรายปีของคุณ

ข. การชำระเงินต่อเดือนควรมากกว่า 15% ของเงินเดือนทั้งหมดของคุณ

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้รถตามความต้องการตามสถานะทางการเงินของคุณ เพื่อให้ชีวิตง่ายขึ้น คุณสามารถใช้ตัวช่วยคำนวณเงินกู้เพื่อช่วยจัดสรรงบประมาณอย่างถูกต้อง

 

ขั้นตอนที่ 2: สำรวจแพลตฟอร์มออนไลน์รถมือสอง

สำรวจแพลตฟอร์มออนไลน์รถมือสอง

ในยุคปัจจุบันนี้ ข้อมูลทุกอย่างอยู่ที่ปลายนิ้ว คุณไม่ต้องเดินทางไกลไปยังตัวแทนจำหน่ายรถเพื่อสำรวจรถยนต์มือสองอีกต่อไป เนื่องจากมีแพลตฟอร์มออนไลน์มากมายที่ให้บริการซื้อขายรถมือสอง การได้ลองนั่งสำรวจเก็บข้อมูลตามแพลตฟอร์มต่าง ๆ ก่อน จะทำให้คุณเลือกซื้อรถมือสองที่ต้องการได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด

นอกจากนี้ แพลตฟอร์มการซื้อขายรถยนต์ออนไลน์ยังช่วยให้คุณสามารถตั้งค่า “ตัวกรอง” ตามงบประมาณ และ ความต้องการที่ตั้งไว้ ซึ่งจะทำให้การเลือกรถที่อยู่ในงบประมาณของคุณนั้นง่ายยิ่งขึ้น

 

ขั้นตอนที่ 3: ตรวจสอบอายุรถยนต์

เช่นเดียวกับงบประมาณ การกำหนดขีดจำกัดอายุของรถยนต์มือสองก็เป็นเคล็ดลับสำคัญที่ควรทราบเช่นกัน

ตัวอย่างเช่น งบประมาณ 500,000 บาท คุณจะมีตัวเลือกรถยนต์มือสองหลากหลายประเภทที่คุณสามารถซื้อได้ หากคุณกำหนดอายุของรถมือสองที่ต้องการไว้แล้ว คุณสามารถตั้งค่าตัวกรองเพื่อจำกัดการค้นหาของคุณให้แคบลงได้ (เช่น – รถยนต์ไม่เกิน 5 ปี)

 

ขั้นตอนที่ 4: ตรวจสอบไมล์สะสมรถยนต์

ตรวจสอบไมล์สะสมรถยนต์

โดยทั่วไป หากไมล์สะสมของรถที่ใช้มีค่าสูง สิ่งนี้จะส่งผลต่อมูลค่าของรถ คุณควรเลือกรถที่มีระยะทางต่ำถึงปานกลางซึ่งจะช่วยให้คุณรู้สึกมั่นใจในคุณภาพได้ง่ายขึ้น รถยนต์ที่ใช้ไมล์ต่ำถึงปานกลางมักให้คุณภาพใกล้เคียงกับสิ่งที่คุณจะพบในรถคันใหม่เอี่ยม แต่ก็ขึ้นอยู่กับอายุของรถด้วย การซื้อรถที่มีไมล์สะสมสูงกว่าแต่รถใหม่กว่า จะดีกว่าการซื้อรถรุ่นเก่าที่มีไมล์สะสมต่ำ เนื่องจากส่วนประกอบในรถจะเสื่อมสภาพเมื่อเวลาผ่านไปไม่ว่าจะขับไปไกลแค่ไหนก็ตาม

 

ขั้นตอนที่ 5: ตรวจสอบประวัติรถยนต์

ตรวจสอบประวัติรถยนต์

ควรตรวจสอบประวัติของรถก่อนตัดสินใจเลือกรถมือสอง โดยปกติแล้วรถยนต์มือสองที่ขายในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดอาจมีประวัติของมันเองซ่อนอยู่ สืบประวัติล่วงหน้าว่ารถที่คุณต้องการมีส่วนเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุใหญ่ ๆ, การยกเครื่องครั้งใหญ่ , เคยถูกน้ำท่วมหรือไม่, เปลี่ยนเจ้าของกี่ครั้ง ฯลฯ เพราะทั้งหมดนี้จะส่งผลต่อการบำรุงรักษารถในระยะยาว หลีกเลี่ยงการถูกหลอกโดยรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูสมบูรณ์แบบของรถ

 

ขั้นตอนที่ 6: บันทึกตารางการบำรุงรักษารถยนต์

บันทึกตารางการบำรุงรักษารถยนต์

รถยนต์มือสองที่ได้รับการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอตามกำหนดเวลา แสดงให้เห็นว่ารถอยู่ในสภาพดี หากเป็นไปได้คุณควรมองหาเจ้าของรถที่เข้ารับบริการที่ศูนย์บริการของแบรนด์นั้น ๆ ซึ่งศูนย์บริการเหล่านี้จะมีบันทึกการให้บริการทั้งหมดกับรถอย่างถูกต้อง ข้อมูลการบำรุงรักษานี้มีประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อคุณต้องการทราบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับรถมือสองที่คุณต้องการซื้อ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับชิ้นส่วนอะไหล่ หรือ ความเสียหายที่สำคัญของเครื่องยนต์และชิ้นส่วนอื่น ๆ ของรถ

 

ขั้นตอนที่ 7: ตรวจสอบภายนอกและภายในของรถ

ตรวจสอบภายนอกและภายในของรถ

คุณควรตรวจสอบรอยบุบ, การกระแทก หรือ ข้อบกพร่องทั้งภายนอก และ ภายในของรถที่คุณวางแผนจะซื้อ เพราะหากรถมีปัญหาเหล่านี้ การแก้ไขอาจเป็นเรื่องที่น่าเบื่อและมีค่าใช้จ่ายสูง สิ่งที่คุณทำได้คือพยายามต่อรองเพื่อขอส่วนลด หากคุณตรวจพบความเสียหายบนรถที่เจ้าของไม่ต้องการซ่อม ก็อย่าลืมคำนึงถึงค่าซ่อมแซมที่คุณต้องจ่ายเองภายหลัง

 

ขั้นตอนที่ 8: ตรวจสอบชิ้นส่วนอื่น ๆ ของรถ

ตรวจสอบชิ้นส่วนอื่น ๆ ของรถ

 นี่คือรายการสิ่งที่คุณควรระวัง เมื่อตรวจสอบชิ้นส่วนเพิ่มเติมทั้งหมดของรถ

  • ไฟสูง และ ไฟต่ำ, ไฟตัดหมอก และ ไฟฉุกเฉิน
  • เครื่องปรับอากาศ
  • แตรรถ
  • เครื่องเล่นวิทยุ และ เครื่องเล่นแผ่นซีดี หรือ หน้าจอสัมผัส
  • ที่จับประตูรถ และ กระโปรงท้ายรถ
  • สวิตช์กระจกไฟฟ้า, กระจกมองข้าง
  • ซ็อกเก็ต 2.4V หรือ หัวเทียน
  • ถังปั๊มน้ำมัน, ฝากระโปรงหน้า และ ท้ายรถยนต์
  • เข็มขัดนิรภัย และ ที่ปรับระดับที่นั่ง
  • ฝาครอบยางรถยนต์ และ กล่องเครื่องมือ
  • ไฟแสดงสถานะแผงควบคุม

 

ขั้นตอนที่ 9: ตรวจสอบเครื่องยนต์ของรถ

ตรวจสอบเครื่องยนต์ของรถ

เมื่อคุณพึงพอใจกับรูปลักษณ์ภายนอก และ ภายในของรถแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการตรวจสอบเครื่องยนต์ หากคุณไม่คุ้นเคยกับเครื่องยนต์ของรถโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องทางเทคนิค ให้ขอความช่วยเหลือจากช่างที่เชื่อถือได้ เพียงแค่ฟังเสียงเครื่องยนต์ พวกเขาก็สามารถรู้ได้ว่ามีอะไรที่ผิดปกติและสามารถให้คำแนะนำที่เหมาะสมเกี่ยวกับรถที่คุณต้องการซื้อได้ แต่ถ้าคุณต้องการทำด้วยตัวเอง นี่คือคำแนะนำที่คุณสามารถทำตามได้

  • ตรวจสอบการรั่วไหลของน้ำมัน
  • ในการตรวจสอบสภาพหม้อน้ำให้เปิดฝาด้านบน เพื่อตรวจสอบความขุ่นน้ำของหม้อน้ำ
  • ตรวจสอบสายเคเบิลเชื่อมต่อว่ามีความเสียหาย หรือ ถูกตัดการเชื่อมต่อหรือไม่
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีส่วนประกอบใดหลุดออก, เสื่อมสภาพ หรือ เสียหาย
  • ตรวจสอบน้ำมันเครื่อง

 

ขั้นตอนที่ 10: ทดลองขับรถ

ไม่ว่าคุณจะซื้อรถมือสองมาจากที่ใด ไม่ว่าจะมาจากตัวแทนจำหน่าย หรือ เจ้าของรถยนต์ คุณมีสิทธิ์ทุกประการในการทดลองขับรถก่อนตัดสินใจซื้อ การทดลองขับจะทำให้คุณได้รับความพึงพอใจสูงสุด และ ช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าคุณต้องการซื้อรถคันนั้นหรือไม่ ซึ่งสิ่งที่คุณต้องทำเมื่อนำรถมาทดลองขับ มีดังนี้

  • ทดสอบเบรกรถ ตรวจสอบว่ามีเสียงแปลก ๆ ระหว่างเบรกหรือไม่
  • ทดสอบพวงมาลัยระหว่างเลี้ยว (เลี้ยวหักศอก หรื อเลี้ยวปกติ) ระวังเสียงแปลก ๆ เมื่อคุณเลี้ยว
  • ทดลองขับในพื้นที่ขรุขระ เพื่อตรวจสอบล้อ,ช่วงล่าง และ เกียร์
  • ขับรถด้วยความเร็วที่แตกต่างกัน เพื่อทดสอบเครื่องยนต์
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเกียร์ของรถเคลื่อนที่ได้อย่างราบรื่นไม่ว่าจะเป็นเกียร์อัตโนมัติ หรือ เกียร์ธรรมดา

เราหวังว่า 10 เคล็ดลับนี้จะช่วยคุณได้เมื่อคุณเริ่มมองหารถมือสอง แต่โปรดทราบว่า หากคุณต้องการขายรถคันปัจจุบันเพื่อเพิ่มพื้นที่สำหรับรถมือสองของคุณ อย่าลืมขายให้กับ Carsome! เยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราเพื่อทราบข้อมูลเพิ่มเติม

 

 

อ่านบทความต่อ: คู่มือการขอสินเชื่อรถยนต์ พร้อมเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยฉบับสมบูรณ์ หรือ สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับประกันรถยนต์ พร้อมเปรียบเทียบเบี้ยประกันฉบับสมบูรณ์ 

 

หากคุณกำลังสนใจจะ ซื้อรถ หรือ ขายรถ แล้วล่ะก็… ที่ Carsome เสนอราคาให้คุณได้ดีที่สุด! เรามีขั้นตอนการชำระเงินที่รวดเร็ว และไม่มีขั้นตอนยุ่งยากใด ๆ คลิกที่เว็บไซต์เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย!

Download WordPress Themes Free
Download WordPress Themes Free
Free Download WordPress Themes
Download Premium WordPress Themes Free
download udemy paid course for free
download lava firmware
Download Premium WordPress Themes Free
Facebook Instagram
  • เกี่ยวกับเรา
  • คำถามที่พบบ่อย
  • ติดต่อเรา
  • ข้อกำหนดการใช้งาน
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว

© 2559-2562 Carsome Thailand.