Skip to content
Carsome Thailand
  • เกี่ยวกับเรา
  • บทความ
    • บทความทั้งหมด
    • โปรโมชั่น
    • ข่าวสาร
    • ข้อมูลน่ารู้
    • ไลฟ์สไตล์
    • ข่าวประชาสัมพันธ์ (PR)
    • รีพอร์ต
    • รถยนต์ไฟฟ้า
  • ติดต่อเรา
  • เข้าระบบ (Log in)
    • ดีลเลอร์
    • ลงชื่อเข้าใช้
  • 8 July 2021

วิธีเลือกคาร์ซีทให้ปลอดภัย พร้อมคำแนะนำการติดตั้งคาร์ซีทอย่างถูกวิธี

วิธีเลือกคาร์ซีทให้ปลอดภัยการติดตั้งคาร์ซีทหรือเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็กคือสิ่งที่จำเป็นเพื่อความปลอดภัย หลายๆ คนอาจมีความเข้าใจว่าการกอดหรือการอุ้มเด็กไว้กับตัวคือท่าที่ปลอดภัยที่สุด แต่ Carsome ผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ต้องขอบอกไว้เลยว่านั่นคือความเชื่อที่ผิด! มีการทดลองและงานวิจัยแล้วว่าเด็กจะปลอดภัยที่สุดหากนั่งในคาร์ซีท การอุ้มเด็กไว้เฉยๆ ยังมีความเสี่ยงที่จะทำให้เด็กกระเด็นออกไปจากตัวรถได้ ดังนั้นผู้ที่ขับรถและมีเด็กเล็กควรจะติดตั้งคาร์ซีทไว้จะดีที่สุด แต่สำหรับใครที่ยังเป็นมือใหม่ วันนี้ Carsome จะมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับคาร์ซีทอย่างละเอียด พร้อมบอกวิธีการติดตั้งคาร์ซีทและแนะนำว่าควรเลือกคาร์ซีทแบบไหนให้เหมาะกับรถและเด็กแต่ละคนกันเลย!

ซื้อรถยนต์มือสองกับ  Carsome.co.th การันตีคุณภาพรถยนต์ ผ่านการตรวจสภาพ 175 จุด พร้อมรับประกัน 1 ปีเต็ม ราคาคงที่ ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง ซื้อไปแล้วไม่พอใจ การันตีคืนเงินเต็มจำนวนภายใน 5 วัน
นึกถึงรถยนต์มือสองต้อง Carsome.co.th

ลิสต์ 10 รถยนต์ที่เหมาะสำหรับผู้หญิง

  • ทำความรู้จักคาร์ซีท

  • ประเภทของคาร์ซีท

      • Rearward Facing Seats

      • Forward Facing Seats

      • Booster Seats

  • วิธีติดตั้งคาร์ซีท

      • การติดคาร์ซีทประเภท Rearward Facing Seats

      • การติดคาร์ซีทประเภท Forward Facing Seats

  • ติดคาร์ซีทฝั่งไหนจะปลอดภัยที่สุด?

  • วิธีเลือกซื้อคาร์ซีท

ทำความรู้จักคาร์ซีท: ใช้คาร์ซีทแล้วปลอดภัยกว่าจริงหรือ?

คาร์ซีท (Car Seat) คือที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กเนื่องจากที่นั่งและเข็มขัดนิรภัยของรถไม่เหมาะกับสรีระของเด็ก คาร์ซีทจึงดีไซน์มาเพื่อปกป้องและป้องกันเด็กจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ช่วยลดความรุนแรงในการบาดเจ็บและกันไม่ให้เด็กเสียชีวิต คาร์ซีทสามารถเริ่มใช้ได้ตั้งแต่เป็นเด็กทารกจนถึงอายุ 12 ปี

มีงานวิจัยจากสหรัฐอเมริกาโดย National Highway Traffic Safety Administration (NHTSA) พบว่าเด็กที่ไม่นั่งคาร์ซีทมักจะได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถยนต์มากกว่าเด็กที่นั่งในคาร์ซีทถึง 3 เท่า ยิ่งไปกว่านั้น การเลือกคาร์ซีทที่ถูกต้องคือสิ่งสำคัญเช่นกัน หลายคนอาจคิดว่าแค่ให้เด็กนั่งคาร์ซีทแบบไหนก็ได้ก็คงเพียงพอแล้ว แต่ผลการศึกษายังพบว่าเด็กที่นั่งคาร์ซีทที่มีขนาดไม่พอดีกับตัวก็มีความเสี่ยงที่จะได้รับบาดเจ็บมากถึงสองเท่าเช่นเดียวกัน

ในหลายประเทศมีการออกกฎหมายให้เด็กเล็กต้องนั่งคาร์ซีทเท่านั้น แต่ในประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายนี้ แต่เพื่อความปลอดภัยแล้ว หากบ้านไหนมีเด็กเล็กก็ควรซื้อคาร์ซีทมาติดตั้งไว้อยู่ดี

 

ประเภทของคาร์ซีท

การเลือกซื้อคาร์ซีทต้องคำนึงถึงอายุ ขนาดตัว และน้ำหนักของเด็ก โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้

1. Rearward Facing Seats (คาร์ซีทที่หันหน้าเข้าหาเบาะ)

คาร์ซีทที่หันหน้าเข้าหาเบาะ

คาร์ซีทประเภทนี้เหมาะกับเด็กช่วงอายุ 0-2 ปี คาร์ซีทแบบนี้จะสามารถปกป้องศีรษะ คอ และกระดูกสันหลังของทารกได้ดีกว่าคาร์ซีทที่หันไปด้านหน้า และถ้าคุณอยากติดตั้งคาร์ซีทไว้ตรงที่นั่งข้างคนขับก็อย่าลืมปิดการทำงานของถุงลมนิรภัยเพื่อความปลอดภัยด้วย

2. Forward Facing Seats  (คาร์ซีทที่หันหน้าออกจากเบาะ)

คาร์ซีทที่หันหน้าออกจากเบาะ

คาร์ซีทประเภทนี้ออกแบบให้มีสายรัดจำกัดการเคลื่อนที่ไปข้างหน้าของเด็กในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ และยังมาพร้อมกับสายรัดสำหรับการยึดที่นั่งไว้ด้วย คาร์ซีทประเภทนี้เหมาะกับเด็กช่วงอายุ 2-7 ปี

3. Booster Seats

Booster Seats

เป็นคาร์ซีทสำหรับเด็กที่มีขนาดตัวโตเกินกว่าขนาดของคาร์ซีทธรรมดา แต่ยังไม่โตพอที่จะสามารถใช้เข็มขัดนิรภัยได้เต็มที่ คาร์ซีทประเภทนี้เหมาะกับเด็กช่วงอายุ 4-12 ปี สายคาดควรพาดผ่านกระดูกเชิงกราน หน้าอก และไหล่ของเด็ก ส่วนเข็มขัดคาดเอวควรพาดผ่านอุ้งเชิงกรานโดยให้เส้นทแยงมุมอยู่เหนือไหล่ไม่ใช่ที่คอ

 

วิธีติดตั้งคาร์ซีท

การติดคาร์ซีทประเภท Rearward Facing Seats

  • สำหรับเด็กอายุไม่ถึง 1 ขวบ ควรติดตั้งคาร์ซีทแบบหันหน้าเข้าหาเบาะเสมอ
  • ห้ามติดตั้งคาร์ซีทแบบหันหน้าเข้าหาเบาะตรงที่นั่งข้างคนขับที่มีถุงลมนิรภัยแบบไม่สามารถปิดใช้งานได้
  • จะสามารถติดตั้งคาร์ซีทประเภทนี้ตรงที่นั่งข้างคนขับได้ในกรณีที่มีการปิดการทำงานของถุงลมนิรภัยแล้วเท่านั้น
  • ต้องใช้สายรัดแบบ 3 จุดหรือ 5 จุดสำหรับเด็อายุไม่ถึง 1 ขวบตามประเภทของเบาะรถยนต์

การติดคาร์ซีทประเภท Forward Facing Seats

  • สำหรับคาร์ซีทที่หันหน้าออกจากเบาะควรติดตั้งตรงที่นั่งผู้โดยสารเบาะหลัง
  • หากจำเป็นต้องติดคาร์ซีทสำหรับเด็กไว้ที่ด้านหน้า ให้ปรับเบาะรถยนต์ให้ห่างจากถุงลมนิรภัยให้มากที่สุด (ทำตามคู่มือการติดตั้ง)
  • สำหรับเด็กน้ำหนัก 9 – 12 กก. ควรใช้สายรัดแบบ 5 จุด
  • สำหรับเด็กน้ำหนัก 15 – 25 กก. ควรใช้สายรัดแบบ 5 จุด
  • สำหรับเด็กน้ำหนัก 22 – 36 กก. ควรใช้สายรัดแบบ 3 จุด

 

ติดคาร์ซีทฝั่งไหนจะปลอดภัยที่สุด?

ติดคาร์ซีทฝั่งไหนจะปลอดภัยที่สุด?

หลายๆ คนอาจะมีคำถามว่าแล้วควรติดคาร์ซีทตรงฝั่งไหนถึงจะปลอดภัยที่สุดล่ะ?

คำตอบก็คือเบาะหลัง! ผลการศึกษาพบว่าเบาะหลังคือตำแหน่งที่คาร์ซีทจะได้รับแรงกระทบเทือนน้อยที่สุดหากเกิดอุบัติเหตุ และไม่ควรวางคาร์ซีทที่เบาะข้างคนขับเพราะถุงลมนิรภัยอาจจะบีบอัดกับตัวเด็กหรือคาร์ซีทได้ 

และตำแหน่งที่ปลอดภัยที่สุดก็คือตรงกลางของเบาะหลังนั่นเอง เพราะปลอดภัยจากแรงกระแทกต่างๆ

 

วิธีเลือกซื้อคาร์ซีท

การเลือกซื้อคาร์ซีทควรคำนึงถึงหลายปัจจัยเพื่อให้คาร์ซีทสามารถป้องกันการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

1. เลือกประเภทคาร์ซีทตามอายุ น้ำหนัก และขนาดตัวของเด็ก 

ตามที่ได้บอกไปข้างต้นว่าคาร์ซีทมีอยู่ 3 ประเภท ได้แก่แบบหันหน้าเข้าหาเบาะ (สำหรับเด็กแรกเกิด – 2 ปี) แบบหันหน้าออกจากเบาะ (สำหรับเด็ก 2-7 ปี) และแบบบูสเตอร์ (สำหรับเด็ก 4-12 ปี) ดังนั้นจึงควรเลือกซื้อให้เหมาะสมและถูกประเภท

2. เลือกคาร์ซีทแบบติดตั้งถาวรหรือแบบเคลื่อนย้ายได้

สิงที่ต้องตัดสินใจต่อมาคือการเลือกว่าจะซื้อคาร์ซีทแบบไหนดี การเลือกคาร์ซีทแบบติดตั้งถาวรเหมาะกับการใช้แบบระยะยาว ไม่ต้องถอดเข้าถอดออกและมีความปลอดภัยสูง แต่มีข้อเสียคือมักจะหมุนไม่ได้และมีราคาสูงกว่า ส่วนคาร์ซีทแบบเคลื่อนย้ายได้สามารถใช้งานได้อิสระกว่า นำไปใช้กับรถเข็นเด็กก็ได้ ก็แล้วแต่ว่าคุณตัดสินใจจะเลือกซื้อแบบไหน

3. เลือกคาร์ซีทที่มีสัญลักษณ์มาตรฐานความปลอดภัยสากล

ถ้าหากอยากได้ของที่มีคุณภาพก็ต้องเลือกซื้อของที่มีมาตรฐาน ยิ่งคาร์ซีทเป็นสิ่งที่ช่วยป้องกันอันตรายแล้วก็ต้องยิ่งให้ความสำคัญกับมาตรฐานเป็นพิเศษ โดยคุณสามารถเลือกซื้อคาร์ซีทที่มีมาตรฐานได้จากสัญลักษณ์ความปลอดภัย เช่น ECE R44/04 มาตรฐานของสหภาพยุโรปหรือ FMVSS 213 มาตรฐานประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นต้น

นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำให้เลือกคาร์ซีทที่มีระบบติดตั้งมาตรฐาน UN หรือที่เรียกว่า ISOFIX อีกด้วย ISOFIX เป็นรูปแบบคาร์ซีทที่ยึดติดกับตัวรถได้อย่างปลอดภัยที่สุด มีลักษณะเป็นแกนเหล็กที่ติดตั้งมาจากโรงงาน สามารถเสียบยึดติดกับรถที่รองรับ ISOFIX ได้เลย (ติดตั้งคาร์ซีทแบบนี้ปลอดภัยกว่าแบบยึดติดโดยเข็มขัดนิรภัยเฉยๆ) แต่ก็ไม่ใช่รถทุกรุ่นที่รองรับระบบนี้ ดังนั้นควรตรวจสอบก่อนจะซื้อ

4. เลือกคาร์ซีทที่เหมาะสมกับรถยนต์

นอกจากตัวเด็กแล้ว คาร์ซีทก็ต้องมีความเหมาะสมกับรถยนต์ด้วย โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเช็คอุปกรณ์ติดตั้ง เช็คว่าคาร์ซีทที่คุณต้องการออกแบบมาสำหรับเข็มขัดนิรภัยกี่จุด และรถของคุณสามารถติดตั้งได้ตามนั้นหรือไม่ ยิ่งถ้าเป็นคาร์ซีทมาตรฐาน ISOFIX ด้วยแล้วก็ต้องยิ่งเช็คว่ารถของคุณรองรับการติดตั้งแบบนั้นหรือไม่

 

สรุปคาร์ซีท

การติดตั้งคาร์ซีทคือสิ่งที่จำเป็นต่อความปลอดภัยของเด็ก และควรคำนึงถึงช่วงอายุ น้ำหนัก และขนาดตัวของเด็กก่อนจะเลือกซื้อคาร์ซีทด้วย การติดตั้งคาร์ซีทที่ปลอดภัยและได้มาตรฐานจะช่วยลดเปอร์เซ็นต์การบาดเจ็บของเด็กได้อย่างมากเลยทีเดียว

 

หากคุณกำลังสนใจจะ ซื้อรถมือสอง หรือ ขายรถ แล้วล่ะก็… ที่ Carsome เสนอราคาให้คุณได้ดีที่สุด! เรามีขั้นตอนการชำระเงินที่รวดเร็ว และไม่มีขั้นตอนยุ่งยากใด ๆ คลิกที่เว็บไซต์เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย!CTA Carsome ซื้อ ขาย รถยนต์

อ่านบทความต่อ: ซื้อรถมือสองกับ Carsome ได้รถคุ้มค่าราคาถูกใจ!  หรือ คู่มือการขอสินเชื่อรถยนต์ พร้อมเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยฉบับสมบูรณ์

 

Free Download WordPress Themes
Download Nulled WordPress Themes
Download WordPress Themes
Premium WordPress Themes Download
lynda course free download
download lenevo firmware
Download WordPress Themes
Facebook Instagram
  • เกี่ยวกับเรา
  • คำถามที่พบบ่อย
  • ติดต่อเรา
  • ข้อกำหนดการใช้งาน
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว

© 2559-2562 Carsome Thailand.