รถ Eco Car กำลังเป็นที่นิยมในตลาดรถยนต์บ้านเรามากขึ้น เนื่องจากเป็นรถที่ช่วยประหยัดน้ำมัน ประหยัดพลังงานและยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญขนาดของรถยนต์ยังมีขนาดเล็กกระทัดรัด เหมาะกับการเป็น City Car ขับขี่ในเมือง อีกทั้งยังมีสมรรถนะดี และราคาที่ไม่แพงอีกด้วย ซึ่งหากใครกำลังวางแผนที่จะหันมาใช้ รถอีโค่คาร์ ในวันนี้คงจะทราบดีว่า ได้มี รถยนต์อีโคคาร์ หลายรุ่นหลากราคาวางจำหน่ายในท้องตลาดปัจจุบันด้วยความเป็น รถประหยัดน้ำมัน ราคาถูก ทำให้ค่ายรถยนต์ก็ต่างเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อชิงส่วนแบบในตลาดอย่างต่อเนื่อง วันนี้ ทาง CARSOME ได้รวบรวม 10 รถอีโคคาร์ ยอดนิยมตลอดกาล ด้วยคุณสมบัติความเป็น รถอีโคคาร์ ประหยัดน้ํามันที่สุด พร้อมราคารถอีโคคาร์ ที่ประหยัด ทำให้หลายๆ รุ่นที่ถึงแม้จะไม่ได้มีรุ่นใหม่ออกมาวางจำหน่าย แต่ก็ยังเป็นขวัญใจของผู้ใช้งาน แต่จะมีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง ไปดูกันเลย
ซื้อรถมือสอง กับ CARSOME การันตีคุณภาพรถยนต์ ผ่านการตรวจเช็กอย่างละเอียดถึง 175 จุดพร้อมปรับสภาพให้ได้มาตรฐาน รับประกันสูงสุด 2 ปีเต็ม ราคาโปร่งใส คุ้มค่า ซื้อไปแล้วไม่พอใจ การันตีคืนเงินภายใน 30 วัน
รถ Eco Car รุ่นไหนดี ประหยัดน้ำมัน |
---|
Eco Car คือ อะไร
รถอีโคคาร์ คือ รถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยคำว่า “Eco Car” ย่อมาจากคำว่า Ecology Car ซึ่งคุณสมบัติหลักๆ คือ จะต้องมีการปล่อยมลพิษอยู่ในระดับยูโร 4 นั่นคือปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยเพียงแค่ 120 กรัมต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร ทำให้ รถยนต์อีโคคาร์ ส่วนใหญ่เป็น รถเล็ก ที่มีขนาดเครื่องยนต์อยู่ที่ 1,200 – 1,400 ซีซี ขณะที่อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่น้ำมัน 1 ลิตรสามารถวิ่งได้ถึง 20 กิโลเมตร ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวทำให้ อีโคคาร์ ได้รับความนิยมเนื่องจากมีจุดเด่นดังต่อไปนี้
ข้อดีของรถอีโคคาร์
1. รถประหยัดน้ำมัน
ข้อดีหลักๆ เลยคือ “ประหยัดน้ำมัน” มากกก ด้วยมาตรฐานเครื่องยนต์ขนาด 1,300 cc สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน และ 1,400 cc เครื่องยนต์ดีเซล รวมถึงอัตราการใช้น้ำมัน 5 ลิตร ต่อ 100 กิโลเมตร หากยังไม่เห็นภาพ เอาแบบนี้ดีกว่า สำหรับ รถอีโค่คาร์ แล้ว ด้วยน้ำมันเพียง 5 ลิตรท่านสามารถเดินทางจากกรุงเทพฯไปสุพรรณบุรีได้สบายเลย
2. ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม
ก็เพราะ อีโค่คาร์ มีการปล่อยมลพิษปลอดภัยระดับ Euro4 คือ มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่า 120 กรัมต่อระยะทาง 1 กิโลเมตรเท่านั้น จึงเป็นรถที่ได้รับการผลิตออกมาเพื่อเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็นหลักนั่นเอง
3. มีมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูง
ถ้าคิดว่า อีโคคาร์ คือ รถราคาถูก เพราะคุณภาพไม่ดี ไม่มีมาตรฐาน, วิ่งทางไกลไม่ได้ โครงสร้างไม่แข็งแรงแล้วล่ะก็ เรื่องเหล่านี้เป็นความเข้าใจผิดทั้งสิ้น เนื่องจากรถ Eco Car เป็นรถที่ถือว่ามีมาตรฐานการผลิตที่สูงมาก แต่ที่ราคารถถูกลงเนื่องจากได้รับการยกเว้นภาษีอย่างมาก ทั้งในส่วนของอะไหล่ เครื่องจักร และวัสดุที่ต้องนำเข้า สรรพสามิต อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐในเรื่องการลงทุนต่างๆ อีกด้วย
4. มีความเหมาะสมต่อการใช้งาน
แม้ว่ารถอีโค่คาร์ ส่วนใหญ่จะใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร มีขนาดเล็ก และมีน้ำหนักเบากว่ารถยนต์ทั่วไป ทำให้เข้าใจผิดกันว่า ไม่สามารถทนทานต่อการใช้งาน หรือขับขี่ในระยไกลๆ ได้ แต่ความเป็นจริงแล้วรถอีโคคาร์ก็สามารถขับออกต่างจังหวัด หรือเดินทางในระยะไกลๆได้สบาย เหมือนรถยนต์ทั่วไป ขอเพียงได้รับการดูแลรักษาให้ดี เข้าศูนย์เช็กสภาพอย่างสม่ำเสมอเหมือนรถทั่วไป เพียงเท่านี้จะไกลแค่ไหนก็ไม่หวั่นแล้ว
5. รถราคาถูก
อย่างที่กล่าวไปว่า รถอีโคคาร์ ได้รับการยกเว้นภาษีอย่างมาก ทั้งในส่วนของอะไหล่ เครื่องจักร และวัสดุที่ต้องนำเข้าสรรพสามิต อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐในเรื่องการลงทุนต่างๆ ราคารถอีโคคาร์ จะน้อยกว่า คุ้มค่ากว่า สบายกระเป๋ากว่าเมื่อเทียบกับรถประเภทอื่นๆ นั่นเอง
6. ขนาดรถเล็ก
เนื่องจากมีเครื่องยนต์ขนาดเล็ก รถอีโค่คาร์ส่วนใหญ่จึงเป็น รถเล็ก เพื่อให้ตัวถังมีน้ำหนักเบา รองรับสมรรถนะของเครื่องยนต์ได้อย่างเหมาะสม รถประเภทนี้จึงเหมาะจะเป็น City Car ขับขี่ในเมือง เนื่องจากคล่องตัวในการขับขี่ แถมหาที่จอดง่าย อาจจะมีข้อเสียตรงพื้นที่ในการเก็บบรรทุกสัมภาระที่เล็กลงตามไปด้วย ทำให้รู้สึกอึดอัดอยู่บ้างเวลาขับ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังนับว่าเป็นรถที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดีมากทีเดียว
รถ Eco Car มีรุ่นไหนบ้าง ราคาถูกใจ น่าซื้อ
1. Suzuki ECO Car รุ่น Swift
ถ้ากำลังมองหาว่า รถยนต์เครื่อง 1,200 ยี่ห้อไหนดี ขอแนะนำ Suzuki Swift ซึ่งเป็นรถรูปร่างกะทัดรัดที่เหมาะกับการขับขี่ในเมือง ถือว่าเป็น City Car ที่โดดเด่นเรื่อง การประหยัดน้ำมันมาก ๆ โดยมีอัตราการประหยัดน้ำมันถึง 23 กิโลเมตร/ลิตร อีกทั้งยังมีความโดดเด่นเรื่องดีไซน์ที่สวยสะดุดตา ขับเคลื่่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.2 ลิตรขนาด 4 สูบ 1,197 ซี.ซี. ให้กำลังแรงม้าในระดับดีเยี่ยมเมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกันในกลุ่มของ รถอีโคคาร์ ทำให้สามารถขับขี่ได้แรง ไม่มีสะดุด นอกจากนี้ด้านหลังยังมีที่เก็บของได้อย่างจุใจสำหรับคนที่มีสัมภาระเยอะ รวมไปถึงฟังก์ชันความบันเทิงภายในอย่างครบครัน โดยล่าสุดก็ได้มีการปรับโฉมพร้อมเพิ่มชุดแต่งให้ดูวินเทจยิ่งขึ้นสำหรับ Suzuki Swift GL NEXT โดยมีให้เลือกถึง 5 รุ่นย่อยในราคาเริ่มต้นที่ 567,000 บาท
ดูรถยนต์ Suzuki Swift รถอีโคคาร์มือสอง เพิ่มได้ที่ Suzuki SWIFT มือสอง
2. Honda ECO Car รุ่น BRIO
รถอีโคคาร์ Honda BRIO มาพร้อมกับดีไซน์ 5 ประตูที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบาย และยังออกแบบภายใต้คอนเซปท์ Earth Dreams Technology ถือว่าเป็นรถที่รักษ์โลกมาก ๆ และยังมีเทคโนโลยีที่ช่วยผสมผสานสมรถถนะของเครื่องยนต์กับการรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย ซึ่งรถยนต์รุ่นนี้มีการใช้เครื่องยนต์ i-VTEC 1.2 ลิตร 4 สูบ 1,198 ซี.ซี. 16 วาล์ว พร้อมพวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฟฟ้า EPS และระบบเกียร์ CVT ช่วยทำให้การขับขี่ของคุณลื่นไหลได้มากขิ้น ภายในห้องโดยสารยังมีการออกแบบให้ดูพรีเมียม ให้ความรู้สึกสบายแก่ผู้โดยสาร ที่สำคัญยังมีระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ได้แก่ ถุงลมอัจฉริยะด้านคนขับ (i-SRS) ถุงลมด้านผู้โดยสารด้านหน้า (SRS) ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) และระบบสัญญาณกันขโมย
ดูรถยนต์ Honda BRIO รถอีโคคาร์มือสอง เพิ่มได้ที่ Honda BRIO มือสอง
3. Nissan March ECO Car
รถอีโค่คาร์ ขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมมาตลอดในตลาดรถยนต์บ้านเราตั้งแต่เปิดตัว ด้วยขนาดและดีไซน์ของตัวรถที่ทันสมัย ขนาดไม่ใหญ่มากและราคาไม่แพง ทำให้รถยนต์รุ่นนี้ได้รับความสนใจโดยเฉพาะมือใหม่ที่เพิ่งหัดขับรถ หรือคนที่กำลังมองหารถคันแรกถึงแม้ว่าจะมีการประกาศเลิกผลิตไปแล้วก็ตาม โดยจุดเด่นของ Nissan March ก็คือ ฟังก์ชันที่ครบครัน ไม่จะเป็นร ะบบควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย กุญแจ Intelligent Key และกล้องมองหลังพร้อมระบบเซนเซอร์ถอยหลังถึง 4 จุด ตัวเครื่องยนต์เป็นแบบ HR12DE 3 สูบ ขนาดเครื่องยนต์ 1,198 ซีซี กำลังขับเคลื่อนสูงสุด 79 แรงม้าและประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 20 กิโลเมตรต่อน้ำมัน 1 ลิตรอีกด้วย
ดูรถยนต์ Nissan March รถอีโคคาร์มือสอง เพิ่มได้ที่ Nissan March มือสอง
4. Mazda 2 ECO Car
สำหรับ Mazda 2 เป็นรถยนต์ที่มีดีไซน์ที่ดูโฉบเฉี่ยวทั้งแบบ Sedan 4 ประตูและ Hatchback 5 ประตู้ ยังมีห้องโดยสารภายในที่กว้างขวางทำให้รถยนต์รุ่นนี้เป็นที่นิยมสำหรับหลาย ๆ คนอีกทั้งยังเป็น รถอีโค่คาร์ ด้วย นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย เน้นในเรื่องความปลอดภัยเป็นพิเศษ ได้แก่ เทคโนโลยี G-Vectoring Control เป็นตัวช่วยสำหรับมือใหม่ ทำให้การเข้าโค้งทำได้ง่ายและปลอดภัยมากขึ้น อีกทั้งยังมีระบบ ABSM ระบบเตือนจุดอับสายตาและระบบ DSC & TCS ซึ่งเป็นระบบควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถยนต์ สำหรับเครื่องยนต์รุ่นนี้ยังมีทั้งเครื่องเบนซิน Skyactiv-G 4 สูบ 1.3 ลิตร 1,299 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 93 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 123 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเพียง 23.3 กิโลเมตรต่อลิตร และเครื่องดีเซล Skyactiv-D 4 สูบ 1.5 ลิตร 1,499 ซีซี. พ่วงเทอร์โบ กำลังสูงสุด 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเพียง 26.3 กิโลเมตรต่อลิตร ทำให้รถยนต์รุ่นนี้เป็นรถยนต์ยอดนิยมของมือใหม่และคนที่ชื่นชอบ รถอีโค่คาร์ ด้วย
ดูรถยนต์ Mazda 2 รถอีโคคาร์มือสอง เพิ่มได้ที่ Mazda 2 มือสอง
5. Mitsubishi MIRAGE
Mitsubishi Mirage มักจะเป็นรถยนต์อันดับต้น ๆ ที่มักจะติดโผในลิสต์ของ รถยนต์อีโค่คาร์ เนื่องจากมีดีไซน์ที่ดูโดดเด่นและคุณสมบัติที่โดนใจ ทั้งราคาและฟังก์ชันต่าง ๆ ที่คุ้มค่า คุ้มราคามาก ๆ ซึ่งรุ่นนี้มาพร้อมกับเครื่องเบนซิน 3 สูบ 1.2 ลิตร 1,193 ซีซี กำลังสูงสุด 78 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 100 นิวตันเมตร ประหยัดน้ำมันได้ถึง 23.3 กิโลเมตร/ลิตร และยังมีฟังก์เสริมต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็น มาตรวัดการขับขี่แบบ High Contrast หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว โดยสามารถเชื่อมต่อแบบสมาร์ทโฟนได้และรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ที่สำคัญยังมีค่าบำรุงรักษาและอะไหล่สบายกระเป๋า ประหยัดน้ำมันมากๆ เหมาะกับการขับในเมืองสุดๆ
ดูรถยนต์ Mitsubishi MIRAGE รถอีโคคาร์มือสอง เพิ่มได้ที่ Mitsubishi MIRAGE มือสอง
6. Toyota Yaris ECO Car รุ่น Ativ
Toyota Yaris Ativ รุ่นนี้เป็น รถยนต์อีโค่คาร์ สไตล์สปอร์ต โดยรุ่นนี้ได้เพิ่มความพิเศษด้วยการปรับดีไซน์ไฟหน้าแบบ Projector สามารถควบคุมการเปิด/ปิดได้แบบอัตโนมัติ (Follow Me Home) อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยที่ได้รับมาตรฐานปลอดภัยสูงสุดระดับ 5 ดาว เช่น ระบบ Smart Entry และ Push Start ซึ่งเป็นระบบล็อกและเปิดรถยนต์แบบอัตโนมัติ นอกจากนี้เครื่องยนต์ยังเป็นรุ่นใหม่แบบ 4 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร Dual VVT-iE 16 วาล์ว กำลังสูงสุด 94 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 110 นิวตันเมตร โดยสามารถประหยัดน้ำมันที่อัตราการเคลื่อนที่ 23.3 กิโลเมตรต่อการใช้น้ำมัน 1ลิตร เรียกได้ว่าเป็นรถยนต์ที่คุ้มค่าทั้งเรื่องการประหยัดน้ำมัน ฟังก์ชันการใช้งานที่โดดเด่น และดีไซน์แบบพรีเมียมด้วยค่ะ
ดูรถยนต์ Toyota Yaris รถอีโคคาร์มือสอง เพิ่มได้ที่ Toyota Yaris มือสอง
7. Honda City ECO Car
อีกหนึ่ง รถเก๋งอีโคคาร์ ที่มีความโดดเด่น ทันสมัย มาพร้อมกับดีไซน์ไฟหน้าสไตล์ยุโรป โดยใช้ไฟแบบ Matrix LED รุ่นเดียวกับที่ใช้ใน Audi และ Mercedes Benz และ CR-V ในรุ่นท็อป ซึ่งถือว่าเป็นเทคโนโลยีส่องสว่างที่ล้ำหน้ากว่าไฟ LED แบบทั่วไปด้วย นอกจากนี้ยังมีการออกแบบเกียร์ ให้มีจังหวะการเปลี่ยนอัตราทดแบบเกียร์ทอร์ค เมื่อลากสุด ๆ จะอยู่ที่ราว ๆ 5,500 รอบในแต่ละเกียร์ ทำให้ขับสนุกกว่าเกียร์ CVT ทั่วๆ ไป ไม่ทำให้เกิดอาการเครื่องกระตุกแบบ อีโค่คาร์ รุ่นอื่น ๆ ซึ่งรุ่นนี้นอกจากจะเป็นรถยนต์ที่ประหยัดน้ำมันแล้ว ก็ยังถือว่าเป็นรถยนต์สมรรถนะแกร่งอีกรุ่นเมื่อเทียบกับรถอีโค่คาร์ ทั่วไปด้วย โดยล่าสุด ก็ได้มีการปรับโฉม Minorchange พร้อม e:HEV ใน 2 รุ่นทอปอีกด้วย
ดูรถยนต์ Honda City รถอีโคคาร์มือสอง เพิ่มได้ที่ Honda City มือสอง
8. Nissan Almera
เพิ่งปรับโฉมกันไปล่าสุด Nissan Almera 2023 อีกหนึ่ง รถยนต์อีโค่คาร์ ที่หลายคนหลงรัก โดยรถยนต์รุ่นนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.0 ลิตรเทอร์โบ 999 ซีซี. พ่วงเทอร์โบ กำลังสูงสุด 100 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 152 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ XTronicCVT พร้อม D-Step Logic ขับเคลื่อนล้อหน้า มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 23.3 กิโลเมตรต่อลิตร อีกทั้งยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี Nissan Intelligent Mobility โดยมีกล้องมองรอบทิศทาง เทคโนโลยีเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน ระบบเตือนเมื่อมีจุดอับสายตาและสามารถตรวจจับวัตถุด้านหลังรถขณะถอยได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังเพิ่มฟังก์ชันพิเศษในการใช้งาน ได้แก่ ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ ระบบไล่ฝ้าบริเวณกระจกหลัง และสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย ทำให้ใช้งานได้ง่านขึ้น เหมาะกับเป็นรถยนต์สมัยใหม่ ที่ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายมากๆ
ดูรถยนต์ Nissan Almera รถอีโคคาร์มือสอง เพิ่มได้ที่ Nissan Almera มือสอง
9. Suzuki CIAZ
Suzuki Ciaz เป็น รถเก๋งอีโคคาร์ หรือ รถอีโค่คาร์แบบซีดานที่มีดีไซน์สไตล์สปอร์ต เท่ ทันสมัย มาพร้อมกับเครื่องยนต์ K12B ขนาด 1.2 ลิตร 4 สูบ 1,242 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 91 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 118 นิวตันเมตร ที่สำคัญยังสามารถประหยัดน้ำมันได้สูงสุดถึง 20 กิโลเมตรต่อน้ำมัน 1 ลิตร จุดเด่นของรถยนต์รุ่นนี้ คือ หน้าจอแสดงผลแบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว มีฟังก์ชันการเชื่อมต่อกับ Bluetooth และสมาร์ทโฟน รวมไปถึงการติดตั้งระบบนำทางไว้กับตัวรถ ทำให้เหมาะสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งขับรถ นอกจากนี้ก็ยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังยังกว้างขวาง สามารถบรรจุสิ่งของได้มากถึง 565 ลิตร ใครที่มีสัมภาระเยอะและต้องการรถยนต์ Eco Car ที่สามารถใช้งานได้อเนกประสงค์ ขอบอกว่าคันนี้คุ้มค่าแน่นอน
ดูรถยนต์ Suzuki CIAZ รถอีโคคาร์มือสอง เพิ่มได้ที่ Suzuki CIAZ มือสอง
10. Nissan NOTE
สำหรับ Nissan Note เป็นรถยนต์ทรง Hatchback ดีไซน์ 5 ประตู มีจุดเด่นที่ห้องโดยสารภายในกว้างขวางสามารถนั่งได้สบาย ไม่อึดอัด และยังเหลือพื้นที่ในการบรรจุสิ่งของได้อีกด้วย ที่สำคัญรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1,998 ซีซี ให้กำลังสูงสุดถึง 79 แรงม้า สามารถประหยัดน้ำมันได้ถึง 20 กิโลเมตรต่อน้ำมัน 1 ลิตร รถยนต์คันนี้ยังได้นำเอานวัตกรรมที่ทันสมัยมาใช้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉิน เทคโนโลยีแจ้งเตือนเมื่อการเคลื่อนไหวของตัวรถออกนอกทิศทาง รวมทั้งยังมีกล้องมองรอบทิศทางและระบบการตรวจจับวัตถุและบุคคลขณะเคลื่อนไหวได้อีกด้วย ใครที่กังวลเรื่องการขับรถสำหรับมือใหม่ รุ่นนี้ก็เป็นอีกรุ่นที่เป็นทางเลือกอีกคันค่ะ
ดูรถยนต์ Nissan NOTE รถอีโคคาร์มือสอง เพิ่มได้ที่ Nissan Note มือสอง
ราคา รถ ECO Car ทั้ง 10 รุ่น
สำหรับ ราคารถ ECO Car มือสองถูกที่สุด ที่จำหน่ายบน CARSOME ในปัจจุบันคือ Suzuki CELERIO มือสอง รุ่น GL 1.0 ปี 2015 โดยมีราคาอยู่ที่ 218,900 บาท หรือผ่อนเพียง 3,630 บาท /เดือน อย่างไรก็ตาม รถอีโค่คาร์ที่แนะนำด้านบนก็มี ราคา ที่ค่อนข้างสบายกระเป๋าดังนี้
รุ่นรถยนต์ Eco Car | ราคา มือหนึ่ง 2023 | ราคา Eco Car มือสอง* |
---|---|---|
Suzuki Swift | เริ่มต้น 567,000 บาท | เริ่มต้น 203,900 บาท |
Honda BRIO | เริ่มต้น 495,000 บาท | เริ่มต้น 257,900 บาท |
Nissan March | เริ่มต้น 420,000 บาท | เริ่มต้น 230,900 บาท |
Mazda 2 | เริ่มต้น 599,000 บาท | เริ่มต้น 185,900 บาท |
Mitsubishi MIRAGE | เริ่มต้น 474,000 บาท | เริ่มต้น 181,900 บาท |
Toyota Yaris Ativ | เริ่มต้น 549,000 บาท | เริ่มต้น 356,900 บาท |
Honda City | เริ่มต้น 599,000 บาท | เริ่มต้น 298,900 บาท |
Nissan Almera | เริ่มต้น 545,000 บาท | เริ่มต้น 249,900 บาท |
Suzuki CIAZ | เริ่มต้น 528,000 บาท | เริ่มต้น 195,900 บาท |
Nissan NOTE | เริ่มต้น 529,000 บาท | เริ่มต้น 283,900 บาท |
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 10 รถ Eco Car ที่นำมาฝากกันในวันนี้ หวังว่าคงถูกใจสำหรับใครที่กำลังมองหาว่า Eco Car รุ่นไหนดี นอกจากจะเป็นรถยนต์ที่มีจุดเด่นในเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมและช่วยประหยัดน้ำมันแล้ว ในบางรุ่นก็ยังมีสมรถนะการขับขี่ที่แรง ไม่แพ้กับรถยนต์เครื่องเบนซินทั่วไปอีกด้วย ที่สำคัญหลาย ๆ รุ่นยังมีราคาประหยัด ดูแลง่าย หาอะไหล่ได้ไม่ยาก รวมทั้งมีศูนย์บริการที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย อย่างไรก็ตามก่อนทำการตัดสินใจซื้อขอให้พิจารณาให้รอบคอบ เพื่อที่จะได้รถยนต์ที่ใช้งานได้เหมาะสมและอยู่กับคุณไปนานๆ
หากคุณกำลังสนใจจะ ซื้อรถมือสอง หรือ ขายรถคันเดิม แล้วล่ะก็… ที่ CARSOME เสนอราคาให้คุณคุ้มค่าที่สุด! เรามีการดำเนินการที่มีมาตรฐาน โปร่งใส รวดเร็ว ให้คุณซื้อหรือขายรถได้อย่างสบายใจ คลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย!
อ่านบทความต่อ: รถอีโคคาร์รุ่นไหนดี 2023 รถอีโคคาร์ประหยัดน้ำมัน 2023 หรือ 10 รถยนต์ประหยัดน้ำมัน ปี 2023 รุ่นไหนดี? ช่วยเซฟเงินในกระเป๋าของคุณได้